หน้าแรกกัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร สื่อธรรมะ กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร
กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร

 

 

 

 

 


       หลังจากสุริยกุมารได้รับมอบหมายให้ไปตักน้ำในสระเพื่อนำมาดื่มแก้กระหาย ต่อมาไม่นาน จึงได้พบสระน้ำที่ใสสะอาด แต่สุริยกุมารหารู้ไม่ว่าเป็นที่อยู่อาศัยของผีเสื้อน้ำ

    ในระหว่างที่สุริยกุมาร
มองดูปลาในสระน้ำอย่าง
เพลิดเพลินนั้นเอง ผีเสื้อ- น้ำที่อาศัยอยู่ในสระน้ำ แห่งนี้ได้ปรากฏตัว
ขึ้นมา

     เมื่อผีเสื้อน้ำออกมา
จากสระน้ำจึงได้จับ สุริย-
กุมาร
และถามว่ารู้จัก
เทวธรรมหรือไม่

     เมื่อสุริยกุมารถูกผีเสื้อน้ำถามว่าเทวธรรมคืออะไร ด้วยความเดียงสาจึงตอบไปว่าคือพระจันทร์
และพระอาทิตย์ เพราะเห็นว่าอยู่บนท้องฟ้า

เมื่อผีเสื้อน้ำได้ยิน
คำตอบจากสุริยกุมาร
แล้วเกิดความไม่พอใจ
และโกรธสุริยกุมารมาก
จึงได้จับไปขังเพื่อนำ
ไปเป็นอาหาร
    ส่วนทางมหิสกุมาร
กับจันทรกุมารกำลัง
ถางหญ้าเพื่อเตรียม
สร้างที่พักแรม

  เมื่อสุริยกุมารหาย
ไปนานจนผิดสังเกตุ จึงทำให้มหิสกุมาร
เกิดความเป็นห่วง

     เมื่อจันทรกุมารถูกมอบหมายให้ไปตามสุริยกุมาร จึงได้ตามรอยเท้าของสุริยกุมาร จนกระทั่งไปสิ้นสุดที่สระน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก

    ในขณะที่
จันทรกุมาร
เรียก
หาสุริยกุมาร
อยู่
นั้นผีเสื้อน้ำจึงได้
ปรากฎกายออก
มาจากสระน้ำ
แล้วจับจันทรกุมาร

       เมื่อผีเสื้อน้ำจับ
จันทรกุมารได้แล้ว
จึงได้ถามว่าเทวธรรม
คืออะไร

  เมื่อจันทร-
กุมาร
หายไปนาน จนเป็นที่น่าผิด- สังเกตุมหิสกุมาร จึงได้ตัดสินใจ
ออกตามหา โดยเดินมายัง บริเวณสระน้ำ


   ในขณะที่มหิส - กุมารเดินมาถึงสระ-น้ำก็พบแต่รอยเท้า ลงไปที่สระน้ำแต่ไม่ เห็นรอยเท้าขึ้นจาก สระน้ำ จึงทราบได้ ทันทีว่าสระน้ำแห่งนี้
น่าจะเป็นที่อยู่ของ พวกสัตว์ร้ายหรือ ผีเสื้อน้ำ

   ผีเสื้อน้ำได้ แปลงกายเป็น
ชาวบ้านและ
กล่าวชักชวน
ให้มหิสกุมาร
ดื่มน้ำ แต่มหิส - กุมารเป็นคน
มีสติปัญญา จึงพบสิ่งที่ผิดปกติ จากชาวบ้านผู้นั้น

   เมื่อผีเสื้อน้ำรู้ว่ามหิสกุมารทราบว่าตนปลอมตัวมา
จึงได้แปลงกลับเป็นผีเสื้อน้ำทันที
   ถึงแม้ว่า ผีเสือน้ำจะดุร้ายแต่ก็ไม่เคยโกหก จึงได้บอกว่าตนเป็นผู้จับสุริยกุมารและจันทรกุมาร เพื่อนำไปเป็นอาหาร

 จากการสนทนามหิสกุมารสัมผัสได้ว่าผีเสื้อน้ำไม่ใช่ยักษ์ธรรมดา เพราะต้องการทราบ
"เทวธรรม"

  เมื่อผีเสื้อน้ำ
ทราบความประสงค์
ของมหิสกุมา
จึงได้เตรียมน้ำ
สะอาดให้มหิส- กุมารทำความ
สะอาด ร่างกาย และจัดเตรียม ที่นั่งให้อย่าง
เหมาะสม

   หลังจากที่ผีเสื้อน้ำ
ได้จัดเตรียมทุกอย่าง พร้อมแล้วมหิสกุมาร จึงได้อธิบายเทวธรรม ส่วนผีเสื้อน้ำก็นั่งฟัง
อย่างตั้งอกตั้งใจ



   เมื่อมหิสกุมารได้
อธิบายเทวธรรม
จนจบแล้ว ผีเสื้อน้ำ
จึงเกิดความซาบซึ้ง
และคืนน้องชายให้
แต่มีข้อแม้ว่าให้เลือก
เพียงคนเดียว
   มหิสกุมาร เมื่อได้
ยินเช่นนั้นจึงเลือก
สุริยกุมาร


     แต่ทางฝ่ายผีเสื้อน้ำ
ไม่เข้าใจว่าทำไม มหิส- กุมารไม่เลือกจันทร
กุมาร
แต่กลับเลือก
สุริยกุมาร
จึงได้
ต่อว่ามหิสกุมาร
ส่วนทางด้านมหิส-
กุมาร
ได้ยินเช่นนั้น
จึงได้เล่าความจริงให้ฟัง ทั้งหมด

เมื่อผีเสื้อน้ำได้รับฟังความจริงจากมหิสกุมาร จึงเข้าใจและศรัทธาในการตัดสินใจของมหิสกุมาร ในที่สุดจึงยอมปล่อยจันทรกุมารและสุริยกุมารให้เป็นอิสระ

    เมื่อมหิสกุมาร
ได้น้องชายทั้งสอง คืนแล้วจึงคิดจะ
สงเคราะห์ ผีเสื้อ
น้ำ จึงบอกให้ผีเสื้อ
น้ำเลิกจับสัตว์ที่มี
ชีวิตกินเป็นอาหาร เพราะจะได้
ไม่มีเวรติดตัวไป
ในชาติหน้า

หลังจากนั้น พระกุมารทั้งสามต่างพากันเก็บผลไม้รับประทานเป็นอาหาร ส่วนผีเสื้อน้ำ ก็เลิกจับสัตว์ กินและได้หันมากินผลไม้แทน ขณะเดินทางกลับเมืองในค่ำวันนั้นเองมหิสกุมารได้เหลือบไปมอง บนท้องฟ้าก็พบว่าดาวฤกษ์ได้หม่นหมองไป จึงทราบเป็นที่แน่ชัดว่าพระราชบิดาได้เสด็จสวรรคต

   ในวันรุ่งขึ้นพระกุมารทั้งสามได้เดินทางมาถึงเมืองของตน และได้นำผีเสื้อน้ำมาพักที่ชายป่า
ใกล้ๆ เมืองและรับสั่งให้ทหารนำอาหารจำพวกพืชผักผลไม้ไปใหัผีเสื้อน้ำกิน

   ต่อมาไม่นานมหิสกุมาร
ได้ขึ้นครองราชสมบัติ
ตามพระราชประเพณี
   
เมื่อมหิสกุมารขึ้นครองราช
แล้วจึงแต่งตั้งจันทรกุมาร
เป็นมหาอุปราชและสุริยกุมาร
เป็นเสนาบดีและทรงปกครอง
บ้านเมืองให้มีความสงบสุข
ตลอดมา

Copyright © Dhammakaya Foundation. All rights reserved.
 
จบบริบูรณ์
 
ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระภาวนาวิริยคุณ  

Home  | นิทานชาดก