หน้าแรกกัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร สื่อธรรมะ กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร
กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร

 

 

 

 

 

 









ภาพ  ป๋องแป๋ง
ลงสี  ปูเป้
 ณ โรงช้างของพระเจ้าพรหมทัต
มีพระยาช้างต้นตัวหนึ่ง อาศัยอยู่
ด้วยความผาสุกตลอดมา
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
  ต่อมามีลูกสุนัขตัวหนึ่ง
พลัดจากแม่มาอาศัยอยู่ในโรงช้างนั้น

พระยาช้างต้นรักและเอ็นดูลูกสุนัขมาก
ให้ร่วมกินอาหารและขนมนมเนยด้วย
  เมื่อกินแล้วก็เล่นกันเป็นที่สนุกสนาน ลูกสุนัขมักจะหลอกล่อช้างต้นไปมา

  ฝ่ายช้างต้นก็ใช้งวงจับลูกสุนัขไสไป
ไสมา ตามพื้นบ้าง ยกไว้บนตะพองบ้าง
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
สัตว์ทั้งสองร่วมกันกิน ร่วมกันเล่นและ
อาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันด้วยความ ผาสุกตลอดมา

อยู่มาวันหนึ่ง มีชาวบ้านคนหนึ่งเข้ามา
ในโรงช้าง เห็นลูกสุนัขมีลักษณะดี
ขนเป็นเงางาม ท่าทางเฉลียวฉลาด
จึงบังเกิดความเอ็นดู
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น

นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น

  นับตั้งแต่ลูกสุนัขถูกพรากไป
พระยาช้างต้นก็ไม่เป็น
อันกินอันนอน
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
  แม้กระทั่งควาญช้างพาไปอาบน้ำ
ก็ได้แต่ยืนนิ่งเฉย ไม่ขัดสีร่างกาย
อย่างเคย ซ้ำบางคราวยังเหม่อลอย
อย่างไร้จุดหมาย น้ำตาไหลพราก
อาบแก้ม ใครจะเรียกขานอย่างไร
ก็ไม่รับรู้
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
เมื่อพระเจ้าพรหมทัต
ทรงทราบ จึงมีรับสั่ง
ให้อำมาตย์บัณฑิตเข้าเฝ้า
  อำมาตย์บัณฑิต
ได้ตรวจดูอาการแล้ว
ไม่พบความผิดปกติใดๆ
มีร่างกายแข็งแรงดี
ไม่ได้ป่วยไข้
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
ดังนั้นอำมาตย์
จึงไปสอบถาม
ควาญช้างทันที
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
อำมาตย์บัณฑิตจึงกราบทูล
ให้พระเจ้าพรหมทัตทรงทราบ
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
ฝ่ายลูกสุนัขเมื่อถูกนำมาเลี้ยง
ก็ไม่เป็นอันกินอันนอน
แม้ว่าจะได้รับการเอาอกเอาใจ
มันได้แต่นอนน้ำตาซึม
จนกระทั่งชาวบ้านที่นำลูกสุนัข
ไปเลี้ยง ได้ยินทหารป่าว
ประกาศข่าว
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
  ทันทีที่พ้นจากรั้วบ้าน
ลูกสุนัขก็วิ่งสุดฝีเท้า
ตรงมายังโรงช้าง
ด้วยใจที่ลิงโลดทันที
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
พระยาช้างต้นเห็นลูกสุนัขวิ่งมา แต่ไกล ก็เปล่งเสียงร้องด้วย ความดีใจและใช้งวงกอดรัด
ไว้ทันทีที่ลูกสุนัขมาถึงตัว น้ำตาแห่งความปีติไหลพราก
ด้วยกันทั้งคู่
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น นิทานชาดก_อำมาตย์บัณฑิตกับช้างต้น
Copyright © Dhammakaya Foundation. All rights reserved.
 
จบ
 
ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระภาวนาวิริยคุณ  

 
อภิณหชาดก
 
:: สาเหตุที่ตรัสชาดก ::

.......มีชายสองคนเป็นเพื่อนรักกันมาก ชายคนหนึ่งเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา
ส่วนเพื่อนแม้มิได้บวชก็บำเพ็ญตนเป็นอุบาสกทำบุญให้ทานโดยสม่ำเสมอ
ทุกๆ วันเพื่อนที่บวชเป็นพระจะไปฉันอาหารยังเรือนของเพื่อนที่เป็นอุบาสก
เมื่อฉันเสร็จ เพื่อนผู้เป็นอุบาสกจะเดินมาส่งถึงเชตวันมหาวิหารและนั่งสนทนากัน
พอถึงเวลากลับเพื่อนผู้เป็นภิกษุจะเดินไปส่งจนถึงประตูเมือง
ภิกษุทั้งหลายได้สนทนากันที่ธรรมสภาในเรื่องนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมา
และทรงสอบถาม เมื่อทรงทราบเรื่องแล้วจึงทรงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ
แล้วพระพุทธองค์ทรงนำ อภิณหชาดก มาตรัสดังนี้


 
:: ข้อคิดจากชาดก ::
 

.....การมีเพื่อนเป็นสิ่งดี แต่การติดเพื่อนจะให้โทษ เพราะก่อให้เกิดทุกข์ 2 ประการคือ

.....1. ทุกข์เพราะความคิดถึง

.....2. ทุกข์เพราะเสียการงาน

.....แม้กระทั่งในครอบครัวก็เช่นกัน สามีภรรยาที่ติดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากจนเกินไป
พ่อแม่ที่ติดลูกจนทะนุถนอมและห่วงใยดังไข่ในหินก็ไม่ปาน ย่อมไม่ก่อให้เกิด
ประโยชน์แก่ฝ่ายใดเลย เพราะนอกจากจะสร้างความทุกข์กังวลใจให้ต้อง
ทรมานซึ่งกันและกันเมื่อพรากจากแล้ว ยังทำให้ต่างฝ่ายไม่สามารถเป็น
ตัวของตัวเองได้ เป็นการถ่วงความเจริญก้าวหน้าของกันและกันอีกด้วย
ดังนั้น ใครที่กำลังรักใคร่ในบุคคลใดก็ตาม พึงเตือนตนให้รักแต่พอประมาณ
ส่วนใครที่ไม่ได้รักใคร่ผู้ใด ก็อย่าได้ขวนขวยให้วุ่นวายใจ ให้คิดเสมอว่า
"มากรักก็มากน้ำตา ไม่มีรักก็ไร้น้ำตา"

 
 


Home  | นิทานชาดก