หน้าแรกกัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร สื่อธรรมะ กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร
กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร

 

 

 

 

 

 






ภาพ  ป๋องแป๋ง
ลงสี  ปูเป้

    ในอดีต ณ เมืองพาราณสี มีพ่อค้าคนหนึ่งบรรทุกสินค้า ไปขายต่างเมืองเป็นประจำ คราวหนึ่งพ่อค้าและบริวารนำ
สินค้าบรรทุกเกวียน ๕๐๐ เล่ม เดินทางข้ามทะเลทรายเป็น
ระยะทางถึง ๖๐ โยชน์ เนื่องจากผืนทรายร้อนจัดมาก จึงต้องหยุดพักผ่อนในเวลา
กลางวัน ต่อเมื่อรับประทาน อาหารเย็นแล้ว จึงเดินทาง
ต่อไปได้

นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย
นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย

    เมื่อพ่อค้าและบริวาร
เดินทางรอมแรมใกล้จะถึง จุดหมายปลายทาง เหลือ
อีกเพียง ๑ โยชน์ ซึ่งใช้
เวลาเดินทางอีกเพียงคืน
เดียว   ก็จะข้ามพ้นเขต
ทะเลทราย   พ่อค้าและ
บริวารต่างชะล่าใจ   เมื่อ รับประทานอาหารเย็นแล้ว
ก็ใช้น้ำและฟืนจนหมด

    ครั้นถึงเวลากลางคืนก็ออกเดินทาง ต้นหนซึ่งนั่งอยู่ดูทิศทางจากดวงดาวบนท้องฟ้า
เผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย กองเกวียนจึงเดินหลงทาง
นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย

   เช้าวันรุ่งขึ้น ต้นหนจึงรู้ว่า
กองเกวียนได้เดินทางวนกลับ
มาอยู่เดิม
 
  บริวารทั้งหลาย เมื่อรู้เช่นนั้น
ก็พากันกล่าวโทษต้นหนว่า
เป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหา

  บรรดาบริวารต่างรู้สึกอ่อนล้า
และหิวโหย เนื่องจากไม่มีน้ำ
และฟืนสำหรับหุงหาอาหาร
ต่างจึงพากันท้อแท้ และทอด
อาลัยไปตาม ๆ กัน

นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย
นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย
นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย
ดังนั้น พ่อค้าจึงให้บริวารช่วยกันขุดพื้นทรายใต้กอหญ้านั้น เพื่อค้นหาแหล่งน้ำ
ซึ่งทุกคนต่างก็มีกำลังใจ จึงร่วมมือกันขุดอย่างขยันขันแข็ง
นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย
 ทุกคนต่างช่วยกัน
ขุดลึกลงจนถึง ๖๐ ศอก ก็ยังไม่พบน้ำ
นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย
นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย
นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย
นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย
นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย
ด้วยปัญญาของพ่อค้า และความเพียรอย่างไม่ท้อถอยของคนรับใช้คนสนิท ทำให้ทุกคนได้น้ำมาดื่มกิน
หุงหาอาหารมารับประทาน ครั้นตกกลางคืนจึงได้ออกเดินทางอีกครั้ง และถึงที่หมายในวันรุ่งขึ้นอย่างราบรื่น
นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย นิทานชาดก_สู้ไม่ถอย
Copyright © Dhammakaya Foundation. All rights reserved.
 
จบ
 
ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระภาวนาวิริยคุณ  


 
วัณณุปถชาดก
 
:: สาเหตุที่ตรัสชาดก ::

.....ในสมัยพุทธกาล มีพระภิกษุรูปหนึ่ง ประพฤติตนเรียบร้อย ขยันหมั่นเพียรในการศึกษา พระธรรมวินัย ครั้นศึกษาพระธรรมวินัยได้ครบ ๕ พรรษา แตกฉานในพระปริยัติธรรมดีแล้ว จึงได้ไปขออุบายจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อเจริญภาวนาให้ใจสงบ แล้วกราบทูลลาไปทำ ความเพียรอยู่ในป่าลึก
.....ตลอดเวลา ๓ เดือนในฤดูเข้าพรรษา พระภิกษุรูปนี้ได้ตั้งใจเจริญาภาวนา ปรารภความ เพียรอย่างเต็มกำลัง แต่มิได้ประสบความสำเร็จ  ทำให้ท่านท้อใจ  คิดว่าตนเองจะเป็นคน
อาภัพ ไม่มีบุญวาสนาเช่นผู้อื่น  ถึงแม้จะบำเพ็ญเพียรต่อไป  ก็คงไม่สามารถบรรลุธรรม ในชาตินี้ได้ ควรจะกลับไปปฏิบัติรับใช้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และฟังพระธรรมเทศนาให้้ชุุ่่มชื่นใจดีกว่า คิดดังนี้แล้วจึงเดินทางกลับเชตวันมหาวิหาร
.....เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรมของพระภิกษุรูปนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรง
ระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสาสสนุสสติญาณ แล้วตรัสเล่า วัณณุปถชาดก ดังนี้



 
:: ข้อคิดจากชาดก ::
 

๑ . คนส่วนมาก เมื่อเห็นว่างานใกล้สำเร็จ มักจะประมาททำให้เกิดความเสียหาย เพราะคาดไม่ถึง ดังคำที่ว่า “เรือล่มเมื่อจอด” ดังนั้น ผู้นำที่ดี ควรจะติดตามควบคุมงานอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อใกล้เสร็จ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

๒. ผู้นำที่ดีจะต้องให้กำลังใจเป็น เพราะทุกคนต้องการกำลังใจ แม้ผู้ที่สะสมบุญบารมีมากพอที่จะเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็ยังต้องการกำลังใจเช่นกัน วิธีให้กำลังใจประการหนึ่ง คือ เตือนให้คำนึงถึงความดีที่เคยทำมาก่อนแล้ว

๓. ผู้นำที่ดีต้องทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร ไม่ใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างเดียว การเป็นกัลยาณมิตรนั้น ต้องทำหน้าที่สำคัญ ๔ ประการ คือ

.....๑. เป็นพ่อแม่ คอยปกป้องผองภัยให้แก่ลูก
.....๒. เป็นเพื่อน คอยเตือนสติให้ได้คิด
.....๓. เป็นแพทย์ คอยดูแลเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย
.....๔. เป็นครูผู้ส่องประทีปภายใน คือ ให้ปัญญา ความรอบรู้

 
 

Home  | นิทานชาดก