แผงลอยขายถุง หัวใจทองคำ

วันที่ 07 กย. พ.ศ.2551

 

.....เพราะความยิ่งใหญ่ของหัวใจเขาทั้งสอง ที่ได้สละแรงกายแรงใจ เพื่อแลกกับทรัพย์มาไว้ทำบุญ แม้เงินที่ได้ไม่มาก แต่ความตั้งใจที่ยิ่งใหญ่ของเขามีค่ามาก มากเสียจนหลายคนต้องสนใจ 

 

.....วันนี้..เราต้องรีบกว่าทุกวัน เพื่อออกเดินทางกันตั้งแต่ตี ๕ เพื่อมาหา คุณป้าบุปผา และคุณลุงสมชาย  สุกมลมิตร ที่แผงลอยติดรั้ววัดเศวตฉัตร ย่านฝั่งธนฯ เพราะคุณลุง คุณป้า ตื่นเช้ากว่าเรา ..ตื่นตั้งแต่ตี ๑  เพื่อมาขายของ.!!
  
.....ป้าเรียนมาน้อย จบก็แค่ ป.๔ ส่วนลุงไม่ได้เรียนเลย เพราะพ่อแม่เราจนมาก มีอาชีพอะไรที่พอจะทำได้ ก็ทำกันไปก่อน อีกทั้งป้ายังต้องเลี้ยงลูกอีก ๕ คน เลี้ยงเขาไม่ได้สบายเหมือนลูกคนอื่นหรอก เลี้ยงตามมีตามเกิด เพราะเราต้องอยู่กันอย่างประหยัด จนทุกวันนี้เขาโตกันหมดแล้ว

 

.....แยกย้ายกันไปมีครอบครัว ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ลูกที่ดี ส่งเงินมาให้ป้ากับลุงใช้ แต่ก็ไม่มากไม่มายอะไร เพราะเขามีลูกมีเต้า มีภาระมากมายที่ต้องรับผิดชอบ ยิ่งเศรษฐกิจเป็นแบบนี้ ป้าก็สงสารลูก ไม่อยากเอาเงินเขาเลย แต่จะอาศัยแค่ลำพังเงินที่ลูกให้เพียงแค่นั้น

 

.....มันก็เกือบพอนะ..แต่เราต้องประหยัดอย่างที่สุด ไม่มีเหลือไว้ทำบุญกับเขา อีกทั้งตอนนี้แม่ของป้าก็มาป่วยหนักอยู่โรงพยาบาลด้วย ป้ากับลุงเลยต้องช่วยกันขายของแผงลอย ทั้งๆ ที่ลูกๆ ก็จะพูดกับเราเสมอว่า ให้แม่พัก ให้เราเลิกได้แล้ว

 

.....เพราะอายุป้าก็ตั้ง ๖๖ ปี ส่วนลุงก็ ๗๑ ปีแล้ว แต่ป้าอยากจะมีเงินไว้ทำบุญ เราทำไปวันต่อวัน ช่วยกันตายายแบบนี้ไปก่อน เพราะหากไม่ทำเราจะเอาเงินที่ไหนมาทำบุญ แล้วเราก็อายุมากกันแล้ว จะตายวันตายพรุ่งเมื่อไรไม่รู้ ต้องรีบเอาบุญไปให้มากที่สุดเพื่อตัวเอง

 

.....เพื่อชาติหน้าเราจะได้ไม่ต้องลำบากกันอีก เราอยากมีอาชีพที่เลือกได้ อยากมีโอกาสเรียนหนังสือ อยากมีความรู้เหมือนคนอื่น แต่เราไม่ได้เรียน เพราะเราจน เราอยากมีชีวิตวัยเด็กที่สบาย มีเงินมีทองใช้ทำบุญได้มากๆ แก่แล้วก็ไม่ต้องลำบากบุญน่ะ..ไม่มีใครเขามาบังคับให้ป้าทำหรอก แต่ถ้าป้าไม่ทำ ก็ไม่ได้บุญ เมื่อไม่มีบุญ ชาติหน้าป้าก็ต้องลำบากแบบนี้อีก เพราะฉะนั้น..ป้าอยากเอาบุญไปเยอะๆ เพื่อออกแบบชีวิตใหม่ให้กับตัวเอง เพราะการที่เราจะออกแบบชีวิตในภพชาติหน้าใหม่ได้ ต้องใช้บุญใหญ่ บุญแรงๆ บุญที่มีกำลังส่งมากพอ ถึงจะทำให้เราสมปรารถนา...


.....ทุกวันนี้ ลุงกับป้าต้องตื่นกันตั้งแต่ตี ๑ ทุกวันเลย จะเว้นก็วันที่มาวัด จนบางครั้ง..ร่างกายป้าไม่ไหว ง่วงมากๆ ก็จะตื่นสายกว่าลุง คือตี ๒ ตื่นมาช่วยกันแบกถุงหูหิ้ว ขนพวกกาแฟกระป๋อง กระทิงแดง ลิโพ เอ็มร้อย อย่างละนิดละหน่อย ใส่รถซาเล้ง แล้วขี่กันมาตามถนนจนถึงแผงลอยให้ทันตอนตี ๓ แผงป้าอยู่หน้าวัดเศวตฉัตร แถวคลองสาน ฝั่งธนฯ พอมาถึงแผง เราก็หอบถุงลงมา ช่วยกันจัด เริ่มขายกันตั้งแต่เช้ามืด ถึง ๙ โมงเช้า และตอนบ่ายหรือเย็น

 

.....เราก็จะไปซื้อของแถวนครปฐมมาไว้ขายที่แผง ทำกันมาแบบนี้ ๑๐ ปีกว่าแล้ว ยอมรับว่าเหนื่อย..แต่เราอยากมีเงินทำบุญทุกบุญกับหลวงพ่อ โดยเฉพาะบุญอะไรที่เกี่ยวกับหลวงปู่วัดปากน้ำ ป้าไม่เคยพลาดเลย ทุกวันนี้..มีอะไรป้าจะอธิษฐานขอหลวงปู่ตลอด เพราะป้ากับลุงต้องเสี่ยงกับอันตรายบนท้องถนนทุกวัน คือต้องขนของใส่ซาเล้งขี่มาตามถนนมืดๆ

 

.....ป้าจึงอธิษฐานขอหลวงปู่ตลอดเลยว่า ขออย่าให้เราเป็นอะไร ให้เราปลอดภัย แล้วก็ขอท่านให้เราขายดิบขายดี ขายให้ได้เยอะๆ จะได้เอาเงินมาทำบุญกับหลวงปู่ หลวงพ่อ ได้มากๆ ซึ่งก็แปลกนะ..แผงป้าขายดีมาก ขายดีมาโดยตลอด แม้กระทั่งตอนจะเก็บร้านแล้ว ยังมีคนมาซื้อแล้วซื้ออีก ส่วนร้านที่เยื้องๆ กัน เขาก็ขายของอย่างเดียวกับป้านะ

 

.....แต่เขาขายไม่ดีเลย ขายไม่ดีจนป้าสงสารเขามาก เลยบอกเขาว่า ให้เอาของป้าไปขายได้ พอขายได้ค่อยเอาเงินมาให้ก็ได้ ป้าไม่อิจฉาใครหรอก ทั้งๆ ที่เขาก็ขายของอย่างป้า เพราะหลวงพ่อสอนเอาไว้ดี ให้เรารู้จักให้ ให้เรามีเมตตา ซึ่งป้าก็ทำอย่างนี้มาโดยตลอด ป้าคิดจะช่วยเขาหลายครั้งโดยการชวนเขามาทำบุญบ้าง แต่เขาบอกว่าไม่มีเวลาทำ ป้าก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะหากไม่มีบุญ แม้ขยันจนเหนื่อยแค่ไหน เงินก็ไม่มา ป้าก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้


.....ก่อนหน้านั้น..ลุงก็เหมือนกันเขายังไม่เข้าใจหรอก เพราะเพื่อนๆ เขาพูดว่าวัดให้ฟังบ่อยๆ ว่าไปวัดนี้อีกหน่อยก็หมดตัว ป้าก็เลยบอกลุงไปว่า สตางค์อยู่ในกระเป๋าเรา ไม่มีใครเขามาบังคับให้เราทำบุญได้หรอก แต่ที่ทำเพราะเราอยากได้บุญ เราทำด้วยความเต็มใจ แล้วทุกวันนี้ก็มีเงินทำบุญมากกว่าเดิมอีก ยังไม่เห็นหมดตัวสักทีเลย เพราะขายของได้ดีวันดีคืนขนาดนี้ จนกระทั่งลุงเขาเข้าใจและใจเปิด ยอมเหนื่อยขายของกับเราด้วยความปลื้มทุกวัน

 

.....โดยเฉพาะช่วงนี้..ตั้งแต่ที่ป้าทราบว่าจะมีการหล่อหลวงปู่ด้วยทองคำ ป้าดีใจที่สุดเลย ปลื้มอย่างบอกไม่ถูก เพราะหล่อหลวงปู่องค์แรกป้ามาไม่ทัน พอทราบว่าจะมีการหล่อหลวงปู่อีก ป้าเลยตัดสินใจทำทันที โดยเอาสร้อยคอตัวเองไปขาย

 

.....แล้วรีบเอาเงินประเดิมทำบุญไปก่อน แล้วก็รวบรวมเอาเงินที่ได้จากการขายของ รีบชวนลูก ชวนหลานแคะเงินจากกระปุกมาทำบุญ และก็ยังชวนแม่ของป้าด้วย แม้เขาจะมำมาคนละนิดละหน่อย แต่ก็ทำเต็มกำลัง เพราะคนบ้านนอก ไม่ได้รวยอะไร จนตอนนี้ป้าทำไป ๕ บาทแล้ว พูดถึงแล้วก็มีความสุขมาก ยิ่งนึกยิ่งมีความสุข ลุงเขาก็ปลื้มไปด้วย เราเลยคิดกันว่าอยากจะทำให้ได้สัก ๑๐ บาท แต่ตอนนี้ยังไม่มีเงินเลย เราจะตั้งใจขายของ เก็บหอมรอมริบจากตรงนี้แหละ


.....ทุกวันนี้..ป้าภูมิใจนะ ที่ครอบครัวเราอยู่กันอย่างมีความสุข เพราะเรามีธรรมะ มีเป้าหมายชีวิต ได้มาวัดนั่งสมาธิ ดู DMC   ปลื้มในบุญทุกบุญที่ทำ บางครอบครัวรวยกว่าเรา กินอยู่อย่างสบายแต่ยังไม่พบความสุขเลย...
   

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.00090921719868978 Mins