หลวงพ่อวัดปากนํ้า พยานในการตรัสรู้ธรรม

วันที่ 14 สค. พ.ศ.2560

 หลวงพ่อวัดปากนํ้า พยานในการตรัสรู้ธรรม,วาไรตี้,บทความประจำวัน

 

    หลวงพ่อวัดปากนํ้า พยานในการตรัสรู้ธรรม

    หลวงพ่อวัดปากนํ้า ภาษีเจริญ เป็นพยานในการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพทธเจ้าในเส้นทางสายกลางนี้ เมื่อท่านได้ปล่อยชีวิตเอาใจหยุดนิ่งอยู่ภายใน ณ จุดที่หยุดนิ่งก็จะเกิดการเคลื่อนไหว เกิดการเดินทางเข้าไปสู่ภายในนิ่งและเคลื่อนไหวไปพร้อมกัน เมื่อใจหยุดนิ่งถูกส่วนก็จะมีการเคลื่อนเกิดขึ้นที่เรียกว่า คมนะ เคลื่อนเข้าไป แล่นเข้าไป แล่นเข้าไปสู่ภายใน แล้วในที่สด ท่านก็ได้พบของจริงที่มีอยู่ในต้ว ซึ่งไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวกันมาก่อน

     ที่คำว่ารู้เห็นอะไรไปดามความเป็นจริง คือสิ่งที่เป็นจริง ที่ไม่ใช่มายา ม้นอยู่ภายใน มีมาดั้งเดิมแล้ว ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ดั้งแต่เริ่มมีธาตุมีธรรม มีเห็น มีจำ มีคิด มีรู้ มีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ธาตุธรรมต่างๆ บังเกิดขึ้นมา มีมาดั้งเดิม คือดวงธรรมต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องกลั่นจิตไม่ใช่กรองอย่างเดียว กลั่นจิตให้บริสุทธิ์ ให้บริสุทธิ์ไปตามลำด้บ บริสุทธิ์ระดับหนึ่งก็หลุดพ้น ความบริสุทธิ์นั้นทำให้เคลื่อนต่อเข้าไปได้ ไปพบดวงธรรมต่างๆ ผุดซ้อนๆ กันขึ้นมา บริลุทธระด้บหนึ่ง ส่งให้ถึงความบริสุทธิ์อีกระดับหนึ่งที่ประณีตขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยอาการนิ่งและเคลื่อนไปพร้อมกัน คือใจที่หยุดนิ่งๆนั้นแหละเคลื่อนไปพร้อมๆกัน

     จนกระทั่งเข้าไปถึงกายในกาย กายตั้งแต่กิเลสบังคับเบาบางกว่ากายมนุษย์หยาบ ที่ละเอียดเข้าไปเรื่อย บังคับกายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหม จนกระทั่งถึงกายธรรม กายธรรมโคตรภู กาย-
ธรรมพระโสดาฯ กายธรรมพระสกิทาคามี กายธรรมพระอนาคามี หลุดกระทั่งไปถึงกายธรรมอรหัต หลุดหมดเลย ดั้งแต่ โลภะ โทสะ โมหะ กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย อวิชชานุสัย สังโยชน์ตั้งแต่สักกายทิฎฐิ วิจิกิจฉา สีสัพพตปรามาส อะไรเหล่านี้เป็นต้นเรื่อยไปเลย มีชื่อเรียกกันไปต่างๆนานา แต่กิเลสกองเดียวกันตระกูลเดียวกัน ต่างแต่หยาบและละเอียด หลุดพ้นด้วยอาการนิ่งกับเคลื่อนที่ไปพร้อมกัน นิ่งกับเคลื่อน เคลื่อนเข้าไปเรื่อย บริสุทธิ์เข้าไปตามลำดับเหลืออย่างเดียว ทำให้ได้เท่านั้นแหละ ถ้าทำให้มันจริงจ้ง ของจริงก็จะต้องบังเกิดขึ้นแก่คนที่จริง จริงแค่ไหน จริงแค่ชีวิต

      หลวงพ่อวัดปากนั้าท่านกล่าวเอาไว้ว่า จริงแค่ชีวิตสิ เนื้อเลือดจะแห้งเหือดหายไป เหลือแต่กระดูกหนังช่างมัน ถ้าไม่ได้ก็ยอมตาย ไม่ได้ตายเถอะ ตายดีกว่า เหมือนชายหนุ่มรักหญิงสาว หญิงสาวรักชายหนุ่มอุทิศชีวิตเพื่อความรักเลย บูชาความร้ก ถ้าไม่ได้มาครอบครองตายดีกว่านีเหมือนก้น แต่เปลี่ยนเรื่องที่ควรจะรักคือธรรมะที่เป็นที่พึ่งที่ระลึก ไม่ได้ตายเถอะ ตายดีกว่า ถ้าจริงอย่างนีนี่หลวงพ่อวัดปากนํ้ายืนยัน จริงอย่างนี้ทำเป็นทุกคน

     คำว่า ทำเป็นทุกคน หมายความว่า เข้าถึงได้อย่างแน่นอน ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์สม้ยนี้เขาก็ใข้คำว่า ล้านเปอร์เซ็นต์ได้เข้าถึงล้านเปอร์เซ็นต์ถึงอย่างแน่นอน ยืนยันได้ แล้วท่านก็ยกตัวท่านเป็นตัวอย่างว่า ฉันเอง ๒ คราว คราวแรกเรียนกับพระอาจารย์สิงห์ รัดลครทำ คราวที่ ๒ ที่โบสถ์วัดโบสถ์(บน) บางคูเวียง คราวแรกไม่ได้ตายเถอะ ก็ทำได้ ทำดวงกันได้นี่ ท่านนิ่ง ปล่อยชีวิตเข้าถึงปฐมมรรค ดวงใส อีกคราวบรรลุวิชชาธรรมกายทีบางคูเวียง ขึ้น ๑๕ คํ๋า เดือน ๑๐ เดือนกันยายนกลางพรรษา เมื่อท่านเข้าพรรษาที่สิบเอ็ดว่า ฉันเอง ๒ คราวล่ะ ไม่ได้ตายเถอะ แล้วก็นิ่ง นิ่งแล้วท่านก็พูดต่อไปอีก พอถึงเวลาก็ได้ แล้วต่อไปอีก ไม่ตายสักที แล้วก็หัวเราะด้วยอาการที่รื่นเริงตามแบบผู้ชนะ ผู้ประสบความสำเร็จว่า อ้อ ที่พญามารมันทำใหักล้วตาย เรื่องการทำความดีน่ะ ท่านชนะแล้ว ชิตังเมแล้ว ชนะแล้ว เอาชนะมาร มารหลอกไม่ได้แล้ว หลอกใหักลัวตาย ทั้งๆกลัวก็ตาย ไม่กลัวก็ตาย

    เพราะฉะนั้น ท่านไม่กล้ว ปล่อยชีวิต นิ่ง ไม่ได้ตายเถอะ นิ่งเฉย ถูกส่วน ไม่ตายสักทีได้เข้าถึง นี่ยืนยันมา ๒ คราวทีเดียว แล้วก็พูดต่ออีกว่า ทำตามแบบแผนพระบรมคาสดาของเรา ปล่อยชีวิต ขึ้น ๑๕ ค่ำเพ็ญเดือน ๖ นิ่ง
เนี้อเลือดจะแหังเหือดหายไป เหลือแต่กระดูกหนังช่างมัน ไม่ได้ตายเถอะ นิ่งปล่อยชีวิตไปเลย ก็จะเข้าถึงของจริงที่มีอยู่แล้วภายในตัวเรา มีดวงธรรม มีกายภายในซ้อนๆกันอยู่ไปตามลำดับ กระทั่งหลุดล่อน หลุดจากสิ่งที่เขาบังคับบัญชาเอาไว้ เป็นชั้นๆ เข้าไป เรื่องมันลืกขึ้งอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อท่านพบแล้ว ก็เอามาสอบสวนค้มภีร์ในพระพุทธศาสนา พบว่าตรงกับคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่นั้นท่านก็เผยแผ่วิชชาธรรมกายเรื่อยมา จนกระทั่งได้มาปกครองที่วัดปากนํ้า ภาษีเจริญ ก็ศึกษาค้นคว้ายิ่งๆขึ้นไป จนกระทั่งพบว่าทุกข์ทั้งหลายนั่นล้วนมาจากเหตุ คือผลที่เกิดขึ้นนั่นมาจากในเหตุ มีแหล่งกำเนิดที่เป็นฝ่ายผลิตความทุกข์ ครอบคลุมสรรพส้ตว์ทั้งหลาย ตลอดมนุษย์ทิพย์ธรรม ครอบคลุมหมด สืบสาวขึ้นไปเรื่อยๆ
 
  จนกระทั่งได้พบต้นตอในระด้บหนึ่งทีเดียว พบว่าพญามารนั่นแหละเป็นผู้บ้งคับบัญชาสรรพส้ตว์ทั้งหลายตลอดโอกาสโลก ขันธโลก ส้ตวโลก สัดวโลกก็ได้แก่จิตใจ คือเห็น จำ คิด รู้ ของมนุษย์ ทิพย์ ธรรม ขันธโลก ได้แก่ ขันธ์ต่างๆ ขันธ์ ๕ ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย โอกาสโลกก็ตั้งแต่ขันธ์ ๕ ออกไปเรื่อยไปเลย ตั้งแต่บรรยากาศครอบคลุมไปตลอดจนกระทั่งภพที่อยู่อาคัย ตกอยู่ในบังคับบัญขาของพญามารทั้งสิ้น ท่านก็ศึกษาตรวจตรา คันคว้าก้นเรื่อยไป แล้วก็พบว่า ต้องไปถึงที่สุดแห่งธรรม จับต้นไม่มีต้นต่อไปของพญามารให้ได้
นั่นแหละ  

    ทุกข์ทั้งหลายจึงจะดับสิ้นได้ เพราะฉะนั้นที่โลกเป็นทุกข์อยู่ในปัจจุบันนี้ ก็เพราะว่ามีฉากหลังบังคับบัญชากันอยู่ เราจะเปลี่ยนแปลงวิธีการปกครองกันยังไงก็ตาม เพี่อที่จะให้พ้นทุกข์ ถ้าหากความรู้ไม่สมบูรณ์นั้นน่ะ ทำ อย่างไรก็ไม่พ้น จะต้องเดินตามรอยพระสัมมาสัมพทธเจ้า จึงจะพ้นทุกข์ได้ในระดับหนึ่ง แล้วถ้าจะให้พ้นทุกข์โดยสิ้นเชิงทั้งหมดนั้นน่ะ จะต้องไปถึงที่สุดต้นในต้นไม่มีต้นต่อไปของพญามาร จึงจะพ้นจากทุกข์ทั้งหลายได้ไม่ใช่พ้นเฉพาะในภพนี้เท่านั้น แต่พ้นตลอดหมดเลย นิพพาน ภพสาม โลก้นต์ แสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล จะหลุดพ้นจากบ่าวจากทาสของพญามารหมดเลย 

    เพราะฉะนั้น ท่านก็ทุ่มชีวิตศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกายต่อไป โดยมุ่งจะไปถึงที่ลุดต้นในต้น ไม่มีต้นต่อไป ท่านเป็นทั้งครู แล้วก็เป็นทั้งน้กเรียนด้วย เป็นน้กเรียนก็ต้องศึกษาวิชชาธรรมกายต่อไป เป็นครูก็ถ่ายทอดวิชชาธรรมกายให้ได้รู้เห็นตามท่าน แล้วก็แนะนำสั่งสอนให้ใปถึงที่สุดแห่งธรรมเช่นเดียวคับท่านทำตลอด ๒๔ ชั่วโมง ทำทั้งว้นทั้งคืน โดยแบ่งเป็น ๒ กะ กะละ ๖ ชั่วโมง กลางว้น ๖ ชั่วโมง กลางคืน ๖ ชั่วโมง ตลอด ๒๔ ชั่วโมงต่อ ๑ วัน เป็นอย่างนี้ ทุกวันตลอดระยะเวลาเป็นปีๆ หลายๆ ปี หลายสิบปี จนกระทั้งท่านหมดอายุขัย
แล้วก็ถ่ายทอดวิชชาธรรมกาย ให้สืบทอดต่อกันมา เพื่อที่จะถ่ายทอดวิธีการและเป้าหมายให้สืบทอดเจตนาต่อไปว่าต้องไปถึงที่สุดแห่งธรรมให้ได้นั่นแหละ จึงจะพ้นจากบ่าวจากทาสของพญามาร ความรู้อย่างนี้น่ะไม่ใช่เกิดขึ้นง่าย ไม่ใช่จะรู้ได้ง่ายๆ ต้องเป็นบรมโพธิสัตว์ที่มีบารมีแก่ๆจริงๆ

    เพราะฉะนั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำนี่ เราดูด้วยตานี่น่ะเราจะไม่ซาบซึ้งถึงพระคุณของท่านทีเดียว ท่านไม่ใช่เป็นบุคคลสำคัญของโลกเท่านั้น แต่เป็นบุคคลสำคัญของจักรวาลทีเดียว ของแสนโกฏิจักรวาลของอนันตจักรวาล ของธาตุธรรมทั้งปวงทีเดียว นี่ไม่ใช่เป็นการกล่าวเกินความเป็นจริง หรือยกย่องครูบาอาจารย์เกินไป เมื่อไรเราได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย หรืออย่างน้อยได้ฉุกคิดสักนิดหนี่งว่า มีใครที่จะสอนให้ไปถึงที่สุดต้นในต้น ไม่มีต้นต่อไปของพญามารได้บ้าง ก็ยังไม่มีใครเลยก็มีท่านนี่แหละเป็นองค์แรก

     เพราะฉะนั้น คุณูปการพระคุณของท่านจึงมีมากมายก่ายกอง ไม่ว่าเราจะตัดศีรษะบูชาธรรมท่าน จนกระทั่งศีรษะของเรามากกว่าผลมะพร้าว ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ก็ไม่อาจที่จะทดแทนพระคุณของท่านได้ แต่ก็มีทางออกทางหนึ่งคือการปฏิบัติบูชานี่แหละ คือทำตามคำสั่งสอนของท่านท่านมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม เราก็ต้องมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม อย่าให้อะไรมาเป็นอุปสรรคของชีวิตของการทำหยุดทำนิ่ง ของการที่จะไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างนี้แหละคือการบูชาธรรมท่าน บูชาพระคุณท่าน

  เพราะฉะนั้น ในวันนี้เป็นวันดี ขอให้พวกเราทั้งหลายพึงตั้งใจให้หยุดให้นึิ่งๆ นึกเอาหลวงพ่อวัดปากนํ้า ภาษีเจริญ เป็นอารมณ์ ให้ติดอยู่ในกลางกายและเจริญสมาธิภาวนา สัมมา อะระหัง เรื่อยไป จนกว่าใจจะหยุดนิ่งๆ เมื่อใจหยุดนิ่งดีแล้ว เราก็จะได้พร้อมใจกันน้อมถวายบุญที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติธรรมบูชาธรรมท่านกัน


   

 

จากหนังสือ แม่บท เดินทางข้ามวัฏสงสาร

 วันอาทิตย์ที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๑

    
    

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.018381532033285 Mins