ปาฏิหาริย์จีวรหลวงปู่

วันที่ 10 กค. พ.ศ.2561

ปาฏิหาริย์จีวรหลวงปู่
 


         คติโบราณของคนไทยมักนิยมนำเอาผ้าจีวร  หรือของที่เนื่องด้วยพระภิกษุผู้ทรงคุณวิเศษ  นำติดตัวไปไหนมาไหนด้วย  เพื่อความเป็นสิริมงคล แคล้วคลาดจากภยันอันตรายต่าง ๆ  ซึ่งไม่ว่าจะไปออกรบ จะเดินทาง หรือไปทำภารกิจต่าง ๆ ก็จะนิยมเอาผ้าจีวรของเกจิอาจารย์ ที่ตัวเองนับถือ  ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อพกติดตัวเอาไว้  ซึ่งผ้าจีวรของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ  ก็เช่นเดียวกัน เป็นสิ่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะสิ่งใดที่เนื่องกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ล้วนมีอานุภาพอันไม่มีประมาณทั้งสิ้น
 

         เรื่องนี้ ลุงฉลอม  มีแก้วน้อย   หลานชายของหลวงปู่  ที่เป็นอุปัฏฐากคนใกล้ชิดท่านได้เล่าให้ฟังว่า...

        อะไรที่เกี่ยวเนื่องด้วยหลวงปู่  ศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่าง  อย่างลุงเองขอผ้าไตรครองจากหลวงปู่ไว้  ซึ่งเป็นผ้าที่หลวงปู่ท่านครองติดตัวอยู่ตลอดเวลา   ซึ่งลุงได้เอ่ยปากขอตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ว่า  “หลวงพ่อครับถ้าหลวงพ่อมรณภาพ ผมขอผ้าไตรครองหลวงพ่อไว้ปกปักรักษา จะได้ไหมครับ”  ซึ่งหลวงปู่ท่านก็พยักหน้า และรับคำว่า  “เออ..เอ้อ...”

        ดังนั้น  เมื่อหลวงปู่มรณภาพไปจริง ๆ หนึ่งในทีมอุปัฏฐากที่ดูแลหลวงปู่ด้วยกัน  จึงได้เก็บผ้าจีวรผืนนี้ไว้สำหรับลุงฉลอม  เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติให้คนใกล้ชิดหลวงปู่  ระลึกนึกถึงหลวงปู่  และที่สำคัญยังเป็นของศักดิ์สิทธิ์  ที่เอาไว้คุ้มครองตนเองให้รอดปลอดภัยในทุกสถานที่

      ด้วยเหตุนี้..ลุงฉลอมจึงเอาผ้าจีวรที่ตนเองได้รับมานั้น มาตัดแบ่งเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ เพื่อแจกให้หมู่ญาติ  ซึ่งหนึ่งในจำนวนที่ได้รับนั้น  ก็มีหลานชายคนหนึ่งของลุงฉลอม ซึ่งมีอาชีพขับรถแท็กซี่ !!

         ลุงฉลอมเป็นห่วงหลานคนนี้มาก เพราะกลัวว่า ทำอาชีพขับแท็กซี่แล้ว จะถูกจี้ปล้น หรือถูกฆ่า เพราะในช่วงนั้นมีข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก  ฉะนั้นลุงฉลอมก็เลยตัดจีวรชิ้นเล็ก ๆ  มอบให้หลานชาย  นำไปใส่กรอบห้อยคอไว้   อีกทั้งยังย้ำกับหลานชายว่า  “เมื่อเอ็งจะขับแท็กซี่ทุกครั้งนะ  ให้อาราธนาหลวงพ่อคุ้มครอง  ให้รอดพ้นจากเหตุเภทภัยต่าง ๆ นะ”  ซึ่งหลานชายก็รับคำ

       แล้ววันหนึ่ง หลานชายของลุงฉลอมก็ได้ประจักษ์ถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของจีวรหลวงปู่เข้าอย่างจัง คือ วันนั้นมีผู้มาว่าจ้างให้ขับแท็กซี่ไปต่างจังหวัด  แต่ขณะที่รอผู้ว่าจ้างเข้าไปเอาของในบ้าน  อยู่ ๆ  ก็มีชายแปลกหน้าเข้ามาจ้างวานให้ไปส่งยังสถานที่ใกล้เคียงแห่งหนึ่ง แต่เนื่องจากหลานชายรับงานว่าจ้างเอาไว้แล้ว จึงตอบปฏิเสธไป

       ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ชายแปลกหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ถูกปฏิเสธ จึงหงุดหงิดพาลเอาเท้าไปเตะ และเอามือทุบลงที่รถแท็กซี่  ซึ่งเมื่อหลานชายเห็นดังนั้น  จึงรีบตะโกนบอกว่า  “อย่าเตะ..ๆ นี่มันรถของผมนะ”  เมื่อหลานชายพูดอย่างนั้น  ชายแปลกหน้าก็เลยบันดาลโทสะยกใหญ่   จึงควักปืนที่พกติดตัวขึ้นมาทันที  โดยกะจะยิงให้ตาย!!

         พอหลานชายลุงฉลอมเห็นดังนั้น ก็ตกใจสุดขีด นึกขึ้นทันทีว่า มันเล่นกันขนาดนี้เชียวหรือ นอกจากเตะรถแล้ว ยังจะควักปืนมายิงอีก พอหลานชายเห็นท่าไม่ดี จึงรีบวิ่งหนี ซึ่งชายแปลกหน้าคนนั้นก็รีบวิ่งตามมาติด ๆ พร้อมกับยกปืนไล่ยิงหลานชายทีเดียว 6 นัดซ้อน แต่โชคเข้าข้าง... เพราะกระสุนไม่โดนหลานชายเลยแม้แต่นัดเดียว

       จากเหตุการณ์นี้ ทำให้หลานชายของลุงฉลอม ทวีความตกใจขึ้นไปอีก แล้วเสียหลักสะดุดขาตนเองวิ่งหกล้มลงไปกองกับพื้น ทันใดนั้นเอง.!!! ชายแปลกหน้าก็กระโดดนั่งคร่อมล็อกตัวหลานชายทันที พร้อมกับเอาปืนจ่อที่แสกหน้าผาก โดยกะจะยิงให้ตาย

   ช่วงนาทีวิกฤตใกล้ความตายนี้เอง  หลานชายของลุงฉลอมก็ตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงว่า “หลวงพ่อ..ช่วยด้วย ๆ” และขณะเดียวกัน ชายแปลกหน้าก็ไม่รอช้า รีบเหนี่ยวไกปืนยิงแชะแรกเลย

        แต่อนิจจา.. ลูกปืนไม่ยอมออก  ชายแปลกหน้าก็ไม่ยอมแพ้ จึงเหนี่ยวไกต่อไปอีก และพอกดยิง..กระสุนก็ไม่ออกอีก เลยทำให้ชายแปลกหน้ายิ่งโมโหหนักขึ้นไปอีก  จึงเงื้อแขนกะจะเอาปืนที่อยู่ในมือตบกลางแสกหน้าซัดให้ตายตรงนั้น

        ขณะเสี้ยววินาทีระทึกที่ปืนกำลังฟาดลงที่แสกหน้านั่นเอง.!!! อยู่ ๆ ชายแปลกหน้าคนนั้น และหลานชายลุงฉลอม  ก็เห็นผ้าจีวรผืนใหญ่ลอยมาปาดหน้าชายคนนั้นทันที จนชายแปลกหน้าเกิดอาการผงะ ตกใจ แล้วล้มลงไปกองกับพื้น  จากนั้นก็เกิดความกลัวขึ้นทันที และวิ่งหนีไปในที่สุด ทำให้หลานชายของลุงฉลอมรอดชีวิตมาอย่างหวุดหวิด !!!

        ลุงฉลอม..ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกที่มีต่อจีวรของหลวงปู่ผืนนี้ว่า แม้แต่ตัวลุงเอง  ซึ่งมีอายุ 80 กว่าปีแล้ว ก็พกจีวรชิ้นนี้ติดตัวตลอดเวลา เพราะมันทำให้ลุงนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ หวนนึกถึง ภาพเก่า ๆ  ตอนที่เป็นอุปัฏฐากดูแลหลวงปู่  และพอยิ่งนึกก็ยิ่งปลื้ม  ก็เลยเอาจีวรชิ้นเล็ก ๆ นี้ติดตัวตลอด  ซึ่งไม่ว่าลุงจะไปไหน ลุงก็จะแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุทุกครั้งอย่างเหลือเชื่อ  คือ  มันเกือบจะเจอนะ  แต่ก่อนที่ลุงจะเจอ คนอื่นเขาเจอไปก่อน หรือไม่อุบัติเหตุก็เกิดตามหลังลุงไปแค่นิดเดียว คือ คนที่ถัดจากลุงเจอแทน ทำให้ลุงแคล้วคลาดปลอดภัยทุกครั้ง...

 

 


จากหนังสือ อานุภาพหลวงปู่..ยุคต้นวิชชา

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0014347513516744 Mins