ข้าพเจ้าชื่อนางคำนวณ ฐานะโชติพันธ์ จบการศึกษาปริญญาตรี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันอายุ ๔๕ ปี ทำงานเป็นผู้จัดการโรงงานผลิตยา ห.จ.ก.ทีแมนฟาร์มา สามีชื่อนายธีรวัฒน์ ฐานะโชติพันธ์ เป็นเจ้าของหุ้นส่วนโรงงานผลิตยา ห.จ.ก.ทีแมนฟาร์มา
ในปี พ.ศ.๒๕๓๘ คุณอารีพันธ์ได้แจ้งข่าวบุญการสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวแก่ดิฉันและครอบครัว ครั้งแรกดิฉันบอกปฏิเสธ เพราะว่าคามตรวะหนี่ ทรัพย์ยังเกาะจิตใจอยู่แน่น จนกระทั่งดิฉันประสบเหตุการณ์ประหลาดจึงได้ตัดสินใจสร้างองค์พระ คือในช่วงเวลานั้นดิฉันเคร่งเครียดงานมาก จะนอนไม่ค่อยหลับ จะคิดแต่งาน เคยได้ยินคำบอกเล่าจากผู้อื่นว่า การนั่งสมาธิจะช่วยได้ จึงลองนั่งแบบไม่มีครู ปรากฏว่าตนเองเห็นภาพดอกบัวสวยงามมาก พอมองไปเรื่อยๆ มองไปที่เกสร เกสรก็เปลี่ยนภาพ เป็นองค์พระกลุ่มใหญ่สีเหลืองอร่ามสวยงามมาก คล้ายๆ องค์พระบนธรรมกายเจดีย์ คืนที่สองก็เห็นภาพนี้อีกในสมาธิ แต่คราวนี้เห็นหมู่คนนุ่งชุดขาวล้อมรอบหมู่พระ เกิดความเชื่อมั่นในบุญสร้างองค์พระประจำตัว เลยตัดสินใจสร้างองค์พระกันทั้งครอบครัว ๗ องค์ทีเดียว หลังจากนั้นดิฉันก็จะชวนคุณธีรวัฒน์ ไปทำบุญที่วัดพระธรรมกาย ครั้งแรกเขายังอิดออดปฏิเสธไม่อยากทำบุญเพราะวัดรวยแล้ว ไปทำวัดยากจนดีกว่า แต่คงจะเป็นบุญเก่าที่พวกเราสะสมกันมา รวมกับความพากเพียรพยายามของน้องๆ ในทีมแก้วขุนพลที่คอยมาให้ข่าวสาร ให้กำลังใจและเป็นกองเชียร์ เลยทำให้เราทั้ง ๒ ไปวัดได้บ่อยครั้ง ได้เห็นกิจกรรมของวัด จึงเข้าใจและศรัทธาวัดมากขึ้น ครั้งแรกจะไปวัดกันแค่ ๒ คน ลูกๆ จะปฏิเสธบ่ายเบี่ยงไม่ไปด้วย โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา เช่น วัดรวยแล้ว วัดอยู่ไกล ขี้เกียจนั่งรถนาน น่าเบื่อ แต่เป็นเพราะครอบครัวของเรามักจะไปไหนไปกันหมดไม่ทิ้งกัน เมื่อพ่อแม่ไปวัดพระธรรมกายบ่อยๆ ก็เลย ต้องตามไปด้วยโดยดุษฎี เด็กๆ มีโอกาสกราบถามปัญหาต่างๆ จากหลวงพ่อ หลวงพี่ อุบาสก อุบาสิกา ได้ฟังคำตอบที่ชัดเจนและได้เห็นกิจกรรมต่างๆ ของวัดก็เริ่มเข้าใจ และเข้าใจดียิ่งขึ้นเมื่อครอบครัวเราทั้งหมดได้มีโอกาส ไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่ ไปแบบท้าพิสูจน์ และไม่ได้ตั้งใจจะไปเลย ผลที่ได้รับคุ้มค่ามากทีเดียว บางคนได้ดวงธรรม บางคนเห็นความสว่าง บางคนเห็นองค์พระในกาย เด็กๆ บอกดิฉันว่า อยากจะมาปฏิบัติธรรมที่นี่อีกครั้ง ถ้ามีโอกาส ณ ที่แห่งนี้ พวกเราได้พบปะพูดคุยกับเหล่ากัลยาณมิตร ได้คุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต วิถีชีวิตของการสร้างบารมี ได้พบตัวอย่างของการสร้างคนดีจากหลายๆ ครอบครัวที่มาวัดพระธรรมกาย จึงเป็นแรงผลักดันให้ครอบครัวของเราผนึกกำลังที่จะสร้างความดีร่วมกัน ครอบครัวเราได้ช่วยกันสร้างบุญทุกอย่างไม่ว่า สภาธรรมกายสากล มหาธรรมกายเจดีย์ หรือชักชวนคนมาทำความดี ทุกคนในครอบครัวช่วยกันแสดงความคิดเห็น ยอมเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
วัดพระธรรมกายให้อะไรกับครอบครัวดิฉัน
วัดพระธรรมกายให้ความเป็นชาวพุทธที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ในนามตามทะเบียนราษฎร
สอนให้รู้จักบุญที่แท้จริง บุญมีตัวตนสัมผัสได้ รู้จักการสร้างบุญที่มีคุณภาพ
สอนให้เรารู้จักบาปบุญคุณโทษ มีหิริโอตตัปปะ มีความเมตตากรุณาเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น
สอนให้เรารู้จักคำว่า "ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก" ลดละความตระหนี่ ยอมเสียสละ รู้จักอ่อนน้อม เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ กตัญญูต่อบุพการี
ครอบครัวเรามีความรักความผูกพันและมีความสามัคคีมากขึ้น เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ให้กำลังใจยกใจซึ่งกันและกัน ยามที่คนใดคนหนึ่งท้อแท้
ข้อที่สำคัญที่สุด สอนให้พวกเราได้รู้จักศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ แหล่งแห่งความปลอดทุกข์ มีความสุขเสมอ พ้นจากอบายภูมิแน่นอน และนำประโยชน์จากการทำสมาธิไปใช้ในหน้าที่การงานได้ดีมาก
ครอบครัวเราสวดมนต์ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ถือศีล ๕ ศีล ๘ ทำบุญใส่บาตรได้เป็นกิจวัตรประจำวัน
ลูกๆ ดิฉันทุกคนมีผลการเรียนที่ดีทุกคน เพราะได้นำสมาธิมาใช้ประโยชน์ในการเรียน ช่วยให้ดิฉันทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพไม่เหนื่อยง่ายและเคร่งเครียดเหมือนแต่ก่อน สุขภาพกายสุขภาพจิตดีขึ้น เพราะรู้จักการใช้สมาธิให้เป็นประโยชน์นั่นเอง
ทุกวันอาทิตย์พวกเราจะไปวัดอย่างสม่ำเสมอ ลูกๆ จะช่วยรับบุญที่วัด เช่น บุญเก็บเพชรพลอย (บุญเก็บขยะ) บุญเช็ดทำความสะอาดเสื่อ ม้วนเสื่ออาสนะ
วัดปลูกฝังศีลธรรมให้แก่ลูกๆ
ลูกสาวคนโต นภาภรณ์ ฐานะโชติพันธ์ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยมหิดลปีที่ ๓ เคยอบรมธรรมทายาทหญิง อบรมสมาธิแก้ว ๓ เดือน เคยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงดูแลการสอบแข่งขันตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้าครั้งที่ ๑๗ และปีนี้ตั้งใจจะเป็นพี่เลี้ยงธรรมทายาทหญิง
ลูกๆ ทุกคนอยู่ในบุญตลอดเวลา ดิฉันจึงไม่ห่วงพวกเขาเหมือนเมื่อก่อนเลย เพราะดิฉันมั่นใจแน่นอนว่า ธรรมะที่ลูกๆ ได้รับการฝึกฝนมา จะเป็นเกราะคุ้มครองชีวิตได้เป็นอย่างดี
เด็กๆ จะชอบชวนเพื่อนๆ ไปวัด แม้ว่าตัวของเขาเองจะลำบากด้านการเดินทาง การรับส่ง ความสะดวกสบายจะลดลงไปบ้าง พวกเขาก็ยอม
วัดพระธรรมกายแห่งนี้ เป็นศูนย์รวมจิตใจของเราทุกคนในครอบครัว ที่หล่อหลอมจิตใจของเราทุกดวงให้เป็นหนึ่ง ยามใดที่บางคนท้อแท้ไปบ้าง หมดกำลังใจจะต่อสู้ เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข พวกเราจะช่วยปลอบใจให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เตือนสติหมั่นระลึกถึงคุณความดีของพวกเราที่ทำร่วมกัน เพื่อเป็นการยกใจเสมอโดยไม่ถือทิฏฐิถือตัว ยอมรับคำกล่าวเตือนสติด้วยดี ยอมรับเหตุผลของลูกเสมอ
วัดพระธรรมกายแห่งนี้นี่แหละ ที่สั่งสอนพวกเราให้รู้จักเปลี่ยนโลกียทรัพย์ให้เป็นอริยทรัพย์ที่จะติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติ ลูกๆ เข้าใจพ่อแม่ ไม่มีความตระหนี่หรือคัดค้านการทำบุญ มีแต่จะสนับสนุนอนุโมทนาด้วยความยินดีอย่างเต็มที่ ไม่หวงแหนทรัพย์สมบัติของพ่อแม่ รู้จักคุณค่าของเวลา เร่งสร้างบารมีเยี่ยงพระโพธิสัตว์
พวกลูกๆ คิดว่าไม่จำเป็นต้องเหลือเงินสะสมเป็นมรดกให้พวกเขา พวกเขาทั้งหมดคิดว่า พ่อแม่ให้ชีวิต ให้โอกาสได้เรียนรู้ทางโลกและทางธรรม ถือว่าเป็นมรดกอันมีค่าที่จะให้พวกเขาอยู่สู้และสร้างบารมีได้ต่อไปอย่างสบายแล้ว
วัดพระธรรมกายนี่แหละ ที่ทำให้พวกเราเข้าใจ ชอบเรียนรู้พระพุทธศาสนาได้สนุกสนาน ไม่ใช่เป็นแค่การท่องจำเพื่อจะสอบให้ผ่านเท่านั้น แต่เรียนแล้วสามารถนำไปประยุกต์และปฏิบัติตามคำสอนได้
เป้าหมายและความทุ่มเทให้พระพุทธศาสนา
สุดท้ายนี้ พวกเราตั้งใจ ขอเป็นประธานรองฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ โดยขอให้บุญกุศลที่พวกเราได้กระทำร่วมกันนี้ ขอให้ทุกครอบครัวเป็นครอบครัวธรรมกายที่แท้จริง เป็นสัมมาทิฎฐิทุกคน เป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยเหลือค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองตลอดไปเทอญ
ครอบครัว ฐานะโชติพันธ์