ขบวนเสด็จสู่สวนอัมพวัน

วันที่ 04 พย. พ.ศ.2558

ขบวนเสด็จสู่สวนอัมพวัน


               เมื่อรับพระราชโองการแล้ว หมอชีวกโกมารภัจจ์จึงรีบออกมาสั่งเจ้าหน้าที่ ให้จัดเตรียมช้างพระที่นั่ง
ของพระเจ้าอชาตศัตรู และช้างพัง อีก 500 เชือกสำหรับผู้ตามเสด็จเป็นกองเกียรติยศและอารักขาตามธรรมดาพระราชาทั้งหลายมักมีศัตรูมาก หมอชีวกโกมารภัจจ์จึงจำเป็นต้องคิดวางแผนอย่างรอบคอบ โดยจัดให้นางกำนัล 500 คน ปลอมเป็นชายสวมผ้าโพก คล้องพระขรรค์ที่บ่า ถือดาบและหอกซัด แล้วให้หญิงเหล่านั้นขึ้นช้างพัง 500 เชือก คอยแวดล้อมพระราชาส่วนตนเองเสด็จไม่ห่างพระราชาด้วยหมายใจว่าหากมีอันตรายใดๆ เกิดขึ้น ตนจักถวายชีวิตเพื่อพระราชาได้ก่อนคนอื่นทั้งหมดหมอชีวกโกมารภัจจ์คิดว่า การจัดขบวนอารักขาเป็นหญิงนั้นมีประโยชน์หลายอย่าง ที่สำคัญคือตนรู้อยู่เต็มอกว่า พระเจ้าอชาตศัตรูทรงเป็นผู้มากด้วยความระแวง เมื่อเสด็จออกนอกเมืองในเวลาค่ำคืนประตูเมืองทั้งเล็กและใหญ่รวมกันเกือบร้อยแห่ง ของกรุงราชคฤห์จะถูกปิดหมด จึงดูเสมือนหนึ่งล่อพระองค์ให้ออกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู อีกทั้งเงาของภูเขาคิชฌกูฏที่ทอดมาบดบังแสงจันทร์ ทำให้เส้นทางที่จะเสด็จพระราชดำเนินผ่านนั้นมืดสนิท ความหวาดระแวงภัยย่อมแล่นเข้าเกาะกุมพระทัยของพระเจ้าอชาตศัตรูได้ง่าย แต่ถ้าทรงทราบว่า ข้าราชบริพารที่ห้อมล้อมใกล้ชิดพระองค์ ล้วนเป็นสตรีในวัง ก็จะทรงคลายความหวาดระแวงลง และหากแม้นว่าจะมีเหล่าอริราชศัตรูบุกเข้าจู่โจมขบวนเสด็จจริง หมู่ สตรีที่แวดล้อมพระเจ้าอชาตศัตรูเหล่านี้ก็จะเป็นเกราะกำบังอันดีเยี่ยม ด้วยว่า วิสัยของชายชาตินักรบในสมัยนั้นจะไม่รังแกหรือทำอันตรายสตรี


            ในขณะเดียวกัน หมอชีวกโกมารภัจจ์ผู้เป็นพระโสดาบัน แล้วย่อมทราบดีว่า พระเจ้าอชาตศัตรูไม่อาจ
บรรลุมรรคผลได้ในชาตินี้เป็นแน่ เพราะถูกผลแห่งอนันตริยกรรมที่ทรงกระทำไปนั้นมาตัดรอน อีกทั้ง
พระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมทรงพิจารณาอุปนิสัยแห่งมรรคผลของผู้ฟังก่อน แล้วจึงทรงแสดงธรรม เพราะฉะนั้น
จึงควรให้มหาชนได้ตามเสด็จไปด้วย เมื่อมีมหาชนตามเสด็จไปเป็นอันมาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จักเลือกแสดงธรรมให้สมควรแก่อุปนิสัยแห่งการเข้าถึงธรรมของมหาชนนั้น ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว พระธรรมเทศนาของพระพุทธองค์ก็จักเป็นประโยชน์แก่มหาชนทั้งปวงที่ตามเสด็จคิดดังนี้แล้ว หมอชีวกโกมารภัจจ์จึงให้คนตีกลองป่าวร้องไปทั่วพระนครว่า ในราตรีนั้นพระเจ้าอชาตศัตรูจะเสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มหาชนทั้งปวงจงไปอารักขาพระเจ้าอยู่หัว ตาม มควรแก่หน้าที่ของตนเถิด

 

             ฝ่ายมหาชนทั้งปวง เมื่อได้ยินประกาศดังนั้นจึงพากันคิดเห็นว่า แทนที่จะไปเที่ยวดูมหรสพอันหาประโยชน์มิได้ เราจักพากันไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้ได้ประโยชน์อันดีงามเถิด คิดดังนั้นแล้วมหาชนทั้งปวงจึงนำดอกไม้และของหอมไปรอพระเจ้าอชาตศัตรู ตามทางที่จะเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อขบวนเสด็จพร้อมแล้ว หมอชีวกโกมารภัจจ์จึงกราบทูลเชิญพระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จประทับช้างพระที่นั่ง ห้อมล้อมด้วยขบวนช้างพัง 500 ซึ่งมี สตรี 500 นาง แต่งกายเป็นชาย มีอาวุธพร้อม เป็นผู้บังคับช้างเหล่านั้น ติดตามอารักขาใกล้ชิดช้างพระที่นั่ง มีทหารองครักษ์ถือคบเพลิงนำหน้า ต่อจากขบวนอารักขาเป็นเหล่าหญิงฟ้อนรำ รายล้อมพระมเหสี ติดตามด้วยคนใกล้ชิดผู้ดูแลพระนคร และมหาอำมาตย์เคลื่อนขบวนเสด็จออกจากกรุงราชคฤห์ด้วยพระอิสริยยศยิ่งใหญ่ ไปสู่สวนอัมพวันอันเป็นที่ประทับของพระบรมศาสดา

-----------------------------------------------

SB 304 ชีวิตสมณะ

กลุ่มวิชาพุทธวิธีในการพัฒนานิสัย

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0011763691902161 Mins