ผู้คัดหางเสือ ตอนที่ ๒

วันที่ 16 ธค. พ.ศ.2564

641216_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-1.jpg

ผู้คัดหางเสือ ตอนที่ ๒

          คุณยายเล่าว่า ตอนเช้าทุกวันหลังฉันเช้า ยายนั่งเข้าที่ดิ่งธรรมะไปกับหลวงพ่อ ไปแก้ไขปรับปรุงเหตุละเอียดต่างๆ ไว้หมดแล้ว ทำผังความสำเร็จล่วงหน้าไว้หมดแล้ว เขาถึงไปบอกบุญกันได้ง่ายๆ เหลือแต่เอากายหยาบๆ คือ กายมนุษย์ไปบอกกับกายมนุษย์ด้วยกันเท่านั่นนะ  เหลือขั้นตอนนี้ขั้นตอนเดียว อย่างนี้เอง ถึงต้องอาศัยเด็กๆ หรืออาศัยคนให้เขาไปบอกบุญ เจ้าภาพถึงจะศรัทธาเกิดปีติยินดีแล้วมาทำบุญกัน หรือมาวัดปฏิบัติธรรม หรือมาช่วยงานจนสำเร็จ

          แล้วท่านบอกต่อนะ นี่ถ้าลองให้ไปบอกบุญวัดอื่นดูซิ มันจะง่ายอย่างนี้ไหม แล้วจริงอย่างคุณยายว่า อาตมาเคยถามกับหลายๆ คน บางครั้งไปบอกบุญที่อื่นมันยากกว่าเยอะทีเดียว หืดขึ้นคอเชียว เลยนึกขึ้นได้ว่า ต้องมีเหตุอะไรสักอย่าง อย่างที่คุณยายพูดไม่ผิดว่า คุณยายกับหลวงพ่อไปทำความสำเร็จไว้หมดแล้ว ท่านไปปรับปรุงเหตุละเอียดๆ เอาไว้หมดแล้ว เหลืออีกนิดเดียวเท่านั้นที่ท่านผู้นำบุญทุกท่านจะไปคุยกับเขา ไปชวนเขาสร้างความดี ท่านบอกว่า เรื่องนี้ยายรู้ดี แค่หลวงพ่อเปรยรำพึงๆ ยายมองทะลุหมด

          คุณยายเล่าอีกว่า สมัยก่อน ยายจะทำงานใหญ่ๆ อย่างนี้ ยายไม่เอาใจใครหรอก เอาใจคนนี้ คนโน้นก็หงุดหงิด เอาใจคนนั้น คนนี้ก็หงุดหงิด ยายเอาธรรมะ เอาใจพระธรรมกายดีกว่า คือ เอาใจเข้ากลางพระธรรมกาย อย่างนี้สบายใจ ยายก็สบายด้วย ได้บุญใสๆ บริสุทธิ์ แล้วทุกคนเขาก็ทำงานกันอย่างสบาย ไม่ต้องกลัวว่าวัดพระธรรมกายจะขาดคน เพราะยายเห็นในที่แล้ว คนมาเยอะแยะไปหมด ถ้าคนนี้ไม่ทำงานก็เอาคนโน้นขึ้นมาทำ ไม่ยากอะไร คุณยายมักจะใช้คำว่า "เสียแล้วเสียไป หาใหม่ดีกว่า" อย่าไปกลัวว่าวัดพระธรรมกายจะหมดคน ให้อยู่ในธรรมอยู่ในบุญเข้าไว้เถอะ เดี๋ยวคนจะมาเยอะแยะจนรับไม่ไหว 

          คุณยายเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยที่คุณยายทองสุข สำแดงปัน ละสังขารใหม่ๆ หมอดูเขาเข้ามาบ้านยาย ถามหาพี่สุขอยู่ไหม ยายบอกไม่อยู่ พี่สุขตายไปแล้ว เขาก็ว่า ฉันเป็นหมอดู เคยมาดูลายมือให้พี่สุขบ่อยๆ ดูกันสนุกๆ นะ เขาถามคุณยายว่า จะดูไหม เดี๋ยวจะดูให้ ไม่คิดสตางค์ เขาก็เอามือคุณยายมาดู พอดูเสร็จบอก โอ้โฮ ต่อไปนี่คนจะมาหาเยอะแยะไปหมด จะมีบริวารเยอะแยะไปหมดเลย บริวารจะมาพึ่งเต็มไปหมด พอหมอดูกลับไป คุณยายก็รำพึงกับตัวเองเล่น ๆ นะ เออ ไอ้หมอเอ๊ย กูอยู่คนเดียวไม่เห็นมีใครสักคนวะ ก็เห็นมีแต่มึงนั่นแหละคนแรกที่มาหากู

641216_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-2.jpg

           แต่จากนั้นไม่นาน ก็ค่อยๆ มีคนทยอยมาหาเต็มไปหมด จนล้นบ้านยาย มาทำบุญ มาให้ยายช่วยคุมบุญไปให้ญาติที่ละโลกบ้าง ให้ท่านช่วยใช้วิชชาธรรมกายแก้ไขโรคภัยไข้เจ็บ แก้ภัยพิบัติ อะไรต่างๆ นานา จนกระทั่งพบกับหลวงพ่อธัมมชโย ซึ่งตอนนั้นท่านยังไม่ได้บวชยังเป็นนักเรียน นักศึกษา ท่านก็มาหายาย มาเรียนธรรมะกับยาย แล้วก็เลยพาหลวงพ่อทัตตะ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่บวชเหมือนกัน พานักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาปฏิบัติธรรมกันเต็มบ้านยาย แล้วก็มากันเยอะแยะจนถึงบัดนี้ 

          คุณยายมักจะสอนอาตมาบ่อยๆ ว่าการเกิดเป็นมนุษย์นี่มันของยากนะ กว่าจะเกิดเป็นมนุษย์ใด้ เราเป็นมาแล้วสารพัด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย เทวดา ๖ ชั้นฟ้า พรหม อรูบปพรหม เราเกิดมาหมดแล้วทั้งนั้นทุกๆ คน และเกิดกันมาอย่างละหลายๆ ชาติด้วย และบุญก็พาเรามารวมกันอยู่นี่ ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ รวมกันสร้างความดี เป็นสิ่งที่ยากทีเดียว เพราะฉะนั้นเราต้องรู้ว่า เราเกิดมาสร้างบุญสร้างบารมี มาแกไขตัวของเราเอง มาเข้าถึงพระธรรมกาย แกไขตัวของเราให้พ้นจากบ่าวจากทาสของพญามาร และทำพระนิพพานให้แจ้ง ท่านจะสอนว่า การสร้างบารมีทั้งหลายต้องอดทน อดทนมากๆ ทีเดียว เหมือนอย่างยาย ยายจะอดทนทุกสิ่งทุกอย่าง ทนลำบากตรากตรำ ทนหิวกระหาย ทนเขาดุเขาว่าเสียดสีต่างๆ ยายทนหมดทุกอย่าง มุ่งหวังอย่างเดียว ยายคิดอย่างเดียว ยายจะเอาธรรมะ เอาวิชชา จะเอาบุญ ยายไม่เอาเรื่องเอาราวอะไรกับใคร เพราะฉะนั้นยายถึงอยู่ได้จนบัดนี้

 

641216_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-3.jpg

          สมัยทำวิชชาอยู่กับหลวงพ่อวัดปากนํ้าก็เหมือนกัน ยายก็ทนทุกอย่าง อยู่กับหลวงพ่อวัดปากนํ้า หลวงพ่อจะใช้อะไร ยายทำให้หมด จะถามอะไร ยายนั่งเข้าที่เตรียมพร้อม ยายตอบคำถามท่านหมด แล้วก็ถูกทุกเรื่อง บางครั้งหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ถึงแม้หลวงพ่อจะใช้ยาย ไปเผยแผ่ธรรมะที่โน่นที่นี่บ้าง ยายก็ไป ไม่เคยปฏิเสธเลย ครูบาอาจารย์ใช้อะไรทำหมดจนกระทั่งหลวงพ่อวัดปากน้ำชมยายว่า "ลูกจันทร์เป็นหนึ่งไม่มีสอง" ยายบอกว่า ยายไม่อยากให้หลวงพ่อมาว่าเป็นไอ้ขี้ใต้ เพราะฉะนั้นยายจะฝึกฝนอบรมตัวเอง เคี่ยวเข็ญตัวเองว่า ต้องทำให้ได้ พยายามเคี่ยวเข็ญตัวเองอย่างนี้ ไม่อยากให้หลวงพ่อเอาคำนี้มาใช้กับเรา 

           พอสิ้นหลวงพ่อวัดปากน้ำ คุณยายก็อยู่กับคุณยายทองสุขมาตลอด ด้วยความคิดว่า ท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่สอนธรรมะให้เข้าถึงพระธรรมกายเป็นคนแรก อยากจะตอบแทนพระคุณท่านจึงช่วยอุปัฏฐากช่วยดูแลบ้านช่องให้ ดูแลอาหารการกินกวาดบ้านถูบ้าน ที่หลับที่นอน แม้ยามป่วยไข้ก็พาไปหาหมอ หาหยูกหายารักษาไข้ให้ ดูแลทรัพย์สมบัติ คุณยายบอกว่า ยายเก็บข้าวของให้เรียบร้อยทีเดียว แล้วก็บอกคุณยายทองสุขว่า ทรัพย์สมบัติที่ดูแลเก็บไว้ให้นี่ ฉันจะไม่เอาเลยสักชิ้นเดียว ก่อนพี่สุขจะตายจะให้ใครก็ให้ไปเถอะ ฉันจะไม่เอาหรอก

641216_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-4.jpg

           เพราะฉะนั้นคุณยายทองสุขถึงรักคุณยายมาก ยายก็คิดว่า เราจะตอบแทนพระคุณของครูบาอาจารย์ของเราให้หมดในชาตินี้ทีเดียว จะทำทุกอย่างไม่เคยให้ครูบาอาจารย์ต้องกระทบกระเทือนใจเลย เอาอกเอาใจท่านใช้คำว่า ยายจะอดทนทำไปจนกระทั่งตายจากกันไปข้างหนึ่งแหละ

           ใกล้ๆ วันที่คุณยายทองสุขจะละโลก ท่านมักจะเรียกคุณยายว่า ก้าง ก้างเอ๊ย พอกูตายไปแล้วนะ กูจะเอามึงไปอยู่วิมานกูด้วย คุณยายก็ยิ้มเฉยๆ ได้ฟังแล้วยายเงียบ ยายเล่าให้อาตมาฟัง ตอนนั้นยายเงียบยายไม่ตอบ ท่านบอกอาตมาว่า เรื่องอะไรวิมานเราก็มี เรื่องอะไรเราต้องไปอยู่วิมานกับพี่สุข

           นี่แหละคุณยาย ท่านอยู่กับใครก็เป็นที่รักของคนนั้น ใครๆ ก็อยากจะเอาไปอยู่ด้วย คุณยายดูแลคุณยายทองสุขจนกระทั่งหมดลมเลย คุณยายเล่าว่า คุณยายทองสุขนอนสิ้นลมบนตักท่านเลย หลังจากที่สิ้นแล้ว คุณยายก็จัดการฌาปนกิจให้เรียบร้อยหมดทุกอย่าง ทำ อย่างดีที่ สุดเลย พอเผาคุณยายทองสุขเสร็จแล้ว ท่านบอกว่า โอ้ ยายโล่งอกที่สุดในโลก ยายได้ตอบแทนคุณของครูบาอาจารย์หมดสิ้นเลย ใครๆ ก็ติยายไม่ได้แล้วดีใจที่สุด ยายทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว

641216_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-5.jpg

          พอสิ้นคุณยายทองสุข ยายก็อยู่บ้านหลังเก่านั่นแหละ จนได้พบหลวงพ่อธัมมะ เลยสร้างวัดพระธรรมกายมาก็เอาอีกแล้ว คุณยายบอก ต้องอดทนเหนื่อยกันอีกแหละ เพราะว่าเราสร้างวัดบนพื้นฐานที่มีเงินเพียง ๓,๒๐๐ บาท เพราะฉะนั้นก็ต้องอดทนเก็บหอมรอมริบไปเรื่อย เหนื่อยจนกระทั้งสามารถเอาวัดขึ้นมาได้สำเร็จ ท่านบอกเหนื่อยมาก แต่ท่านก็ทำจนสำเร็จแล้วก็มีพระภิกษุสงฆ์เกิดขึ้นมากมายจนบัดนี้

จากหนังสือ เกิดด้วยสองมือยาย 

พระรังสฤษดิ์ อิทฺธิจินฺตโก

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0025080362955729 Mins