บทความประจำวัน

ในอดีตกาล  ฤาษีสองพี่น้อง บำเพ็ญสมณธรรมอยู่ที่อาศรมริมฝั่งแม่น้ำคงคา ฤาษีผู้น้องมีปกติอยู่ด้วยธรรมคือเมตตาวิหารธรรม ด้วยอานุภาพแห่งเมตตา

           เล่ากันมาว่า ในหมู่บ้านไม่ไกลจากกรุงสาวัตถีเท่าใดนัก มีภรรยาของกุฏุมพีคนหนึ่ง นางเป็นหญิงหมัน. พวกญาติของกุฏุมพีนั้น พากันกล่าวกับเขาว่า

ในอดีตกาล ในกรุงพาราณสี บิดาของคฤหบดีคนหนึ่ง ได้ตายไป. เพราะบิดาตายไป เขาจึงเพียบพร้อมไปด้วยความเศร้าโศกมีหน้านองไปด้วยน้ำตา นัยน์ตาแดงกร่ำ คร่ำครวญอยู่ เดินเวียนขวาเชิงตะกอน เป็นที่น่าสมเพชยิ่งนัก.

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี พราหมณ์ท่านหนึ่งในตระกูลอุทิจจพราหมณ์เจริญวัยแล้ว บวชเป็นฤาษี มีฤาษี ๕๐๐ เป็นบริวาร

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ นิคมแห่งชาวถูลูชื่อว่า อุตตรกา ในถูลูชนบท. ครั้งนั้นเป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้านุ่งห่มแล้ว ถือบาตรจีวร มีโอรสเจ้าลิจฉวีสุนักขัตตะ เป็นปัจฉาสมณะเข้าไปบิณฑบาตที่อุตตรกานิคม,

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี  ฤาษีผู้ทรงอภิญญาท่านหนึ่ง พำนักอยู่ในหิมวันตประเทศ ท่านมีปกติอยู่ด้วยสุขในฌาน

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติ อยู่ใน พระนครพาราณสี  เศรษฐีผู้มีสมบัติมากท่านหนึ่ง ภรรยาของท่านคลอดบุตรเป็นชาย

เล่ากันมาว่า พระเถระนั้น  เป็นผู้มีปุญญาธิการอันกระทำไว้ดีแล้ว ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ สั่งสมบุญไว้เป็นอันมากในภพนั้น ๆ ในกัปที่ ๙๑ จากภัทรกัปนี้

เล่ากันมาว่า ในวันหนึ่ง ท่านพระลักขณเถระ ซึ่งเป็นพระภิกษุในจำนวนชฎิลหนึ่งพัน และท่านพระมหาโมคคัลลานเถระคิดว่า เราจะเที่ยวบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์  จึงลงจากภูเขาคิชฌกูฏ

ได้ยินว่า บุรุษเข็ญใจคนหนึ่งในบ้านมหาคาม เลี้ยงชีวิตด้วยการขายฟืน. เพราะเหตุนั้นเขาจึงมีชื่อว่า ทารุภัณฑกมหาติสสะ. 

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณพระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี 

ในอดีตกาล พระเจ้าอาทาสมุขครองราชย์สมบัติในกรุงพาราณสี  บุรุษผู้หนึ่งชื่อคามณิจันท์ ผู้เคยเป็นบาทมูลิกาของพระเจ้าชนสันธะผู้เป็นพระราชบิดาของพระเจ้าอาทาสมุข คิดอย่างนี้ว่าธรรมดาว่าความเป็นพระราชานี้ ย่อมจะงดงามกับคนผู้มีวัยเสมอกัน

พระราชาเหลือบแลดูนางอุมมาทันตี ทันทีก็เกิดความเมาด้วยความเมาคือกิเลส ไม่อาจจะดำรงสติไว้ได้ จนไม่สามารถจะจำได้ว่า เรือนหลังนี้ เป็นของท่านอภิปารกเสนาบดี.

ในอดีตกาล ในแคว้นสีวี พระราชาทรงพระนามว่า สีวี ทรงครอบครองราชสมบัติ ในอริฏฐบุรีนคร. พระองค์มีราชโอรสซึ่งเกิดจากพระครรภ์ของพระอัครมเหสี  พระบรมวงศานุวงศ์ทั้งหลาย พากันขนานพระนามพระราชโอรสนั้นว่า สีวิกุมาร. 

พระดาบสเมื่อพวกเขาขอร้องจึงรับว่า ได้ ถ้าอย่างนั้น เราจักทำสัจกิริยา แล้ววางมือลงที่ศีรษะยัญญทัตตกุมาร จึงได้กล่าวสัจจาธิษฐานว่า   เราเป็นผู้มีความต้องการบุญ ได้มีจิตเลื่อมใสประพฤติพรหมจรรย์อยู่เพียง ๗ วัน

ในอดีตกาล พระราชาทรงพระนามว่า โกสัมพิกะ ครองราชสมบัติอยู่ในพระนครโกสัมพีแคว้นวังสะ ครั้งนั้น ณ นิคมแห่งหนึ่งมีพราหมณ์สองคนมีสมบัติคนละ ๘๐ โกฏิ

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี ชฎิลโกงผู้หนึ่งเป็นดาบสหลอกลวง อาศัยอยู่ในหมู่บ้านตำบลหนึ่ง กุฎุมพีคนหนึ่ง ช่วยสร้างศาลาในป่าให้ดาบสนั้น

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี  พระองค์มีพระโอรสที่ประสูติจากพระสสจลา ทรงศึกษาไตรเพทและศิลปะทุกอย่าง

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัต เสวยราชสมบัติในกรุงพาราณสี พระโอรสของพระองค์ทรงพระนามว่า " ทุฏฐกุมาร"มีสันดานกักขฬะ

เมื่อนางยักษิณีสิ้นชีพลง มาณพผู้เป็นบุตรได้ทำฌาปนกิจ แล้วพาพราหมณ์ผู้เป็นบิดาไป นครพาราณสี

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัต ครองราชสมบัติอยู่ในนครพาราณสี ทรงบำเพ็ญมหาทาน. พระองค์มีคนเฝ้าพระราชอุทยานคนหนึ่ง ชื่อสุมังคละ.