เรื่องที่ ๑๗๒ฝันตรงกัน
องค์พระมหาสิริราชธาตุมาหาและบอกว่า ให้มารับองค์พระได้แล้ว
อคุณสุวัฒน์ ศิริคุรุรัตน์ เล่าว่าตนเองเป็นผู้นำบุญ ได้ชักชวนคนมาสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวโดยตลอด มีเพื่อนบ้าน ๒ คนได้ฝากเงินคุณสุวัฒน์มาทำบุญ คนหนึ่งได้ร่วมทำบุญสร้างองค์พระด้วย ๔ องค์ อีกคนได้ร่วมทำบุญด้วย ๒ องค์ คุณสุวัฒน์บอกเพื่อนบ้านไว้ว่า จะได้รับพระมหาสิริราชธาตุในราวเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๒
บังเอิญคุณสุวัฒน์ได้รับองค์พระก่อนกำหนด เมื่อกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว จึงยังไม่ทันได้แจ้งให้เจ้าขององค์พระผู้ใดทราบ
ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น เพื่อนบ้านทั้งสองคนได้มาหาแต่เช้า บอกว่าจะมาขอรับองค์พระมหาสิริราชธาตุและทั้งคู่เล่าให้คุณสุวัฒน์ฟังเหมือนกันว่า เมื่อคืนได้ฝันว่า องค์พระมหาสิริราชธาตุมาหาและบอกว่า ให้มารับองค์พระได้แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากที่ทั้งสองคนฝันตรงกัน แสดงว่าเป็นอานุภาพขององค์พระจริงที่ไปบอกในฝัน
เรื่องที่สอง คุณสุวัฒน์ยังเล่าว่า มีคนรู้จักอยู่ครอบครัวหนึ่ง อยู่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นานๆ จึงจะพากันมาที่วัดสักครั้งหนึ่ง ทุกคนได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวไว้แล้ว แต่ไม่มีใครทำบุญสร้างองค์พระให้แม่ใหญ่ ซึ่งเป็นภรรยาหลวงของพ่อถึงแก่กรรมไปแล้ว เพราะต่างคิดว่า ลูกๆ ของแม่ใหญ่ล้วนแต่มีฐานะดีมาก น่าจะได้สร้างองค์พระให้แม่ของตนไปแล้ว ในที่สุดแม่ใหญ่ได้มาเข้าฝันลูกของแม่เล็ก ให้ช่วยทำบุญสร้างองค์พระให้ด้วย เพราะลูกของแม่ใหญ่ไม่มีใครทำบุญให้
เรื่องที่สาม เป็นเรื่องคุณแม่ของน้องสะใภ้คุณสุวัฒน์ เป็นคนจีนชื่อ ซิม แซ่ลิ้ม พูดได้แต่ภาษาจีน ตอนเย็นๆ ชอบสวดมนต์เป็นภาษาจีนพร้อมๆ กับนับลูกประคำไปด้วย วันหนึ่งเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๑ ขณะที่สวดมนต์อยู่หลายรอบ ก็มองเห็นองค์พระสีดำองค์เล็กๆ มาลอยอยู่ตรงหน้า องค์พระท่านลืมตาหลับตาให้ดู ตาของท่านใสสวยมากท่าทางเหมือนท่านจะพูดด้วย เห็นอยู่ราว ๕ นาที องค์พระจึงเลือนหายไป สตรีชาวจีนผู้นี้ไม่ได้รู้สึกกลัว แต่แปลกใจว่าองค์พระที่ไหนมาหา เพราะไม่เคยรู้จักพระมหาสิริราชธาตุ และไม่เคยรู้เรื่อง
พอใกล้ๆ จะถึงวันปีใหม่ ลูกสาวคนที่ชอบไปวัดพระธรรมกายกลับมาเยี่ยมคุณแม่ ได้นำหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุของวัดกลับมาบ้านด้วย นำมาวางไว้บนโต๊ะ พอคุณแม่มาเห็นเข้าเท่านั้น ก็บอกลูกด้วยภาษาจีนว่า "พระองค์นี้แหละมาหาแม่"เรื่องสุดท้าย เป็นเรื่องของน้องสาวคุณสุวัฒน์ ชื่อคุณพรพิไล องค์ไพบูลย์ มีอาการเจ็บปวดหัวเข่ามาก ไปตรวจรักษาหลายโรงพยาบาล ยืนยันตรงกันว่ากระดูกหัวเข่าผุเป็นรู ต้องผ่าตัดเอาออก แล้วเอาพลาสติคใส่แทน จะเสียค่าใช้จ่ายราวหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท คุณพรพิไลรู้สึกไม่อยากผ่าตัด ทั้งที่อาการก็ยังกำเริบอยู่เรื่อยๆ คุณสุวัฒน์จึงเตรียมติดต่อกับทางโรงพยาบาลไว้ให้เรียบร้อยพอดีในระยะนั้นทางวัดพระธรรมกายมีการทำบุญสร้างองค์พระที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ คุณพรพิไลได้ทำบุญสร้างองค์พระไปด้วย ๑ องค์ ขอยืมเงินจากพี่ชาย เมื่อได้พระมหาสิริราชธาตุมาแล้ว ได้ลองนำท่านมาถูที่หัวเข่าแล้วอธิษฐานจิตขอให้ไม่ต้องผ่าตัด แล้วโทรศัพท์เล่าให้พี่ชายฟัง พี่ชายบอกว่า ทำไม่ถูก พระมหาสิริราชธาตุเป็นของสูง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีไว้สำหรับเคารพบูชา ให้ลองใช้วิธีขอน้ำมนต์จากท่าน ให้นำน้ำสะอาดมาตั้งไว้ใกล้ๆ ท่าน แล้วทำการสวดสรรเสริญตอนเช้า ๓ จบ ตอนเย็น ๓ จบ และให้อธิษฐานจิตขอพร และลองนำน้ำนั้นมาดื่มบ้าง ทาที่หัวเข่าบ้าง คงจะได้ผล น้องสาวก็ทำตาม ในที่สุดก็หายเป็นอัศจรรย์ ไปเอ๊กซเรย์ครั้งสุดท้าย ไม่พบกระดูกที่ผุเลย คุณแม่เองยังแปลกใจมาก 
