พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนว่าปัจจัยแห่งความดีงาม
ความเจริญก้าวหน้าทั้งหลายมีอยู่ ๒ ประการคือ
ประการที่
๑. ความมีกัลยาณมิตร คือมีครูดี หรือว่ามีเพื่อนดี
ประการที่
๒. ความมีโยนิโสมนสิการ คือเจ้าตัวต้องคิดเป็นด้วย
หลวงพี่จะแสดงธรรมเรื่องความมีกัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการนี้
โดยมี คุณยายอาจารย์ของเราเป็นแบบอย่าง
ปัจจัยแห่งความดีงามความเจริญก้าวหน้าประการแรก
คือความมีกัลยาณมิตร มีครูดี มีเพื่อนดี
คุณของกัลยาณมิตรนั้นแบ่งใหญ่ได้
๒ ประการคือ ความเป็นต้นแบบ และการอบรมสั่งสอน
ประการที่
๑. คือ ความเป็นต้นแบบ สิ่งต่างๆ ในโลกจะมีคุณค่ามากน้อยเพียงใด
ก็ขึ้นอยู่กับแบบนั่นเอง เหมือนตัวของเรานี่ที่มีร่างกายโตๆ แต่ความจริงจุดเริ่มต้นก็มาจากเซลล์ๆ
เดียวเท่านั้นเอง ที่เกิดจากเชื้อคุณพ่อกับไข่คุณแม่มารวมกันเข้า ก็เกิดเป็นเซลล์ๆ
หนึ่งขึ้นมา
จากเซลล์ๆ
หนึ่งก็ค่อยแตกเป็น ๒ ๔ ๘ ๑๖ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็นตัวเรา
ที่สมบูรณ์ มีเซลล์เป็นพันๆ ล้านเซลล์ แต่ความจริงเซลล์ในตัวเราเองทั้งหมดจะมีกี่ล้าน
หรือกี่พันล้านก็ตาม ลักษณะทางพันธุกรรมในเซลล์ของเราทุกเซลล์ ก็มีลักษณะเหมือนกับเซลล์ต้นแบบที่ได้รับมาจากคุณพ่อคุณแม่
นั่นแหละ
ผู้ที่มีปัญญา
หากได้พบคุณยายตั้งแต่ ๔๐ ปีที่แล้ว พอเห็นนี่ ผู้ที่มีปัญญาลึกซึ้งก็จะทราบเลยว่า
คุณยายซึ่งดูรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอุบาสิกาสูงอายุ รูปร่างผอมบางท่านนี้
จะเป็นต้นแบบให้เกิดเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่เป็นศูนย์กลางของโลกขึ้นมาได้
จนกระทั่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยมาพบ คุณยาย ก็เหมือนเซลล์จาก ๑ แยกเป็น
๒ พอพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวมา หมู่คณะตามมามากขึ้นๆ จากบ้านกัลยาณมิตร
หมายเลข ๑ มาเป็นบ้านธรรมประสิทธิ์ มาเป็นวัดพระธรรมกาย จนกระทั่งมาเป็นศูนย์กลางธรรมกายแห่งโลกในขณะนี้
จะ เติบใหญ่เพียงใด แต่ความจริงจุดเริ่มต้นล้วน มาจากคุณยายอาจารย์ของเราทั้งสิ้น
วัดของเราในขณะนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการปฏิบัติธรรม
รู้จักไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่แม้ต่างประเทศเขาก็สนใจกันทั่วทุกมุมโลก
ก็เป็นเพราะคุณยายท่านวางรากฐานเอาไว้ ตั้งแต่เริ่มต้นพระเดชพระคุณ-หลวงพ่อมาถึง
ก็จะมาศึกษาธรรมปฏิบัติกับคุณยาย หมู่คณะมากน้อยเพียงใด ก็เน้นการฝึกธรรมปฏิบัติเป็นหลัก
มาถึงนั่งธรรมะ ตลอดทุกวันอาทิตย์ แม้แต่การรับแขก แขก มากราบคุณยาย มาขอคำแนะนำ
ขอความช่วยเหลือ คุณยายก็จะให้เขานั่งธรรมะ นั่งหลับตาก่อน มีธุระอะไรก็มาคุยกัน
แล้วคุณยาย ก็ช่วยกันไป สิ่งนี้เองได้เป็นรากฐานเป็นแบบในการประพฤติปฏิบัติธรรมของวัดของเรา
ในเรื่องของความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ความสะอาด เตียงตั่งคุณยายสะอาดหมด ที่พักของท่านตั้งแต่หลังเล็กๆ จนหลังโต
ท่านไม่ให้ฝุ่นจับเลย ตรงนี้แหละเป็นรากฐาน เป็นต้นแบบความสะอาดของวัดเรา
ห้องน้ำสะอาดเรียบ คุณยายท่านไม่เพียงแต่สอน แต่ท่านลงมือทำ แล้วก็บอกขั้นตอนทั้งหมดอย่างละเอียดให้ลูกศิษย์ลูกหารุ่นหลังๆ
ได้ทำตาม แบบตรงนี้เองจึงได้ก่อกำเนิดมาเป็นรากฐานวัฒนธรรมการรักษาความสะอาดของวัดเรา
ในขณะนี้
ดังนั้น
เวลาที่เรากล่าวกันว่าคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เป็นผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย
คำว่าเป็น ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแต่เพียงว่าคุณยายอาจารย์ท่านสร้างวัดมา
ด้วยทุนเริ่มต้น ๓,๒๐๐ บาท ไม่ใช่หมายถึงพื้นๆ แค่นั้น แต่ความจริงแล้วหมายถึงว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเห็นเป็นวัดพระธรรมกายที่งดงามในขณะนี้ ได้ถอดแบบมาจากคุณยายอาจารย์ของเราเองที่ได้วางรากฐานเอาไว้
เราต้องตระหนักตรงนี้ จากนั้นก็ตั้งใจระลึกนึกถึงคุณของท่าน แล้วทำหน้าที่ของเราเองให้สมบูรณ์ต่อไป
ให้ กายๆ นี้คือ วัดพระธรรมกายของพวกเราเติบโตต่อไปอย่างสมบูรณ์แบบ
ประการที่
๒. คือ ท่านช่วยอบรม สั่งสอนเรา
คุณยายอาจารย์ของเราเช่นเดียวกัน
ไม่ได้สอนทำความดีเฉพาะชาตินี้ แต่ท่านสอนข้ามภพข้ามชาติ ท่านจะชี้ชัดเลยว่าทำอย่างนี้แล้ว
ผลจะเป็นอย่างไร จะต้องไปรับกรรมอะไร อย่างนี้ไม่ดีนะ ต้องไปตกนรก ต้องไปเกิดเป็นนั่นเป็นนี่
มันแย่นะ ถ้าทำอย่างนี้มันดีอย่างไร จะได้ไปเกิดบนสวรรค์ หากบุญบารมีสั่งสมเต็มที่ขึ้น
จนหมดกิเลสจะเข้านิพพานอย่างไร จะเข้าถึงธรรมอย่างไร ท่านชี้ข้ามภพข้ามชาติ
แล้วคำสอนคุณยายนี่ง่ายๆ แต่ตรงใจ แล้วก็แทงใจ
และคุณยายอาจารย์ของเราเอง
ท่านก็ฝึกพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยกับ พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวให้ช่วยสอนสาธุชน
โดยแบ่งหน้าที่ให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวทำหน้าที่เกลาหยาบเสียก่อน
มาถึงต้องส่งหลวงพ่อทัตตชีโวก่อน ให้ฝึกหยาบ เกลาเสียก่อน พอเริ่มเนียนได้ที่แล้ว
จึงส่งต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย จะได้ฝึกละเอียดต่อ รับช่วงกันไป
คุณยายฝึกพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว
๒ ปีเต็มๆ ในการรับแขก โดย คุณยายจะนั่งเป็นพี่เลี้ยงอยู่ข้างๆ แขกมาก็ให้หลวงพ่อรับแขกไป
หลวงพ่อท่านเล่าว่า ใหม่ๆ ท่านก็พูดไม่ถูก ไม่รู้จะพูดอย่างไร ไม่รู้จะตอบอย่างไร
คุณยายก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่พอแขกกลับ คุณยายก็จะแนะนำหลวงพ่อว่า ควรจะพูดเช่นไร
สิ่งเหล่านี้ก็ได้หล่อหลอมมาเป็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อของเรา เพราะความที่ท่านเองเป็นผู้ที่มีคุณธรรมสูง
มีปัญญา มีความเคารพครูบาอาจารย์ มีความตั้งใจในการฝึกตัวเองอย่างเต็มที่
คุณยายจึงได้เลือกขึ้นมา แล้วก็ให้มาเป็นแบบที่ช่วยทั้งถ่ายทอด แล้วก็สร้างพวกเราต่อๆ
กันมาอีก
ปัจจัยที่ทำให้เกิดความดี
เกิดความเจริญก้าวหน้าประการที่ ๒. คือ ความเป็น ผู้มีโยนิโสมนสิการ
คิดเป็น หมายถึง เมื่อ ครูบาอาจารย์ กัลยาณมิตรได้ช่วยแนะ ช่วยนำ
ช่วยสอนเราแล้ว เราต้องรู้จักจับประเด็นนำ แง่คิดมุมมอง คำสอนของท่านมาเตือน
มาสอน มาปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้ด้วย