ธรรมะเพื่อประชาชน พร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย เพราะคำว่าบุญนี้เป็นชื่อของความสุข ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เราย่อมรู้ชัดผลแห่งบุญอันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ที่เราเสวยแล้วตลอดกาลนาน

ชาดก : ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for peopleรวมนิทานอีสปพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ธรรมะเพื่อประชาชน : ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล


ธรรมะเพื่อประชาชน : ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล

Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล

 

          การเพียรสั่งสมบุญบารมีและหมั่นทำใจหยุดนิ่งเพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน เพื่อให้เข้าถึงแหล่งความสุขที่แท้จริงและความบริสุทธิ์ภายในนับเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างสูงสุด เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไป

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          จากผู้มีทุกข์ก็กลายเป็นผู้มีความสุข จากผู้ไม่รู้ก็กลายมาเป็นผู้แจ้งได้ รางวัลแห่งความเพียรพยายามเพื่อทำใจหยุดนิ่งนี้เป็นรางวัลชีวิตที่มีค่ายิ่งกว่าเหรียญตราใดๆในโลก เป็นรางวัลแห่งความสุขความสมปรารถนาที่มวลมนุษยชาติต่างก็แสวงหากันมาตลอดชีวิต

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

           ใจหยุดคือสุดยอดของรางวัลที่เราสามารถให้กับตัวเราเองได้ และใจหยุดนิ่งก็เป็นเหตุให้ชีวิตเราปลอดภัยในระหว่างการเดินทางไกลในสังสารวัฏกระทั่งได้บรรลุถึงจุดหมายปลายทางเพื่อที่สุดแห่งธรรม

          พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน มาฆสูตรว่า

          ปุพเพว ทานา สุมโน ก่อนให้มีใจผ่องใส

          ตทงฺจิตตํ ปสาทเย ขณะให้จิตก็ผ่องใส

          ทตฺวา อตฺตมโน โหติ ครั้นให้แล้วก็ชื่นใจ

          เอสายญฺยสฺส สมฺปทา นี้คือความสมบูรณ์แห่งยัญ

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ ใกล้กรุงราชคฤห์ มาณพชื่อมาฆะ เป็นนักสังคมสงเคราะห์ เพราะเป็นผู้มีจิตเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงได้บริจาคทานให้พวกยาจก วณิพกพเนจรและคนกำพร้า

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          รวมไปถึงถวายทานกับนักบวชนอกพระพุทธศาสนา เพราะเข้าใจว่าเป็นพระอรหันต์ แต่เนื่องจากเป็นคนมีปัญญาจึงเฝ้าสังเกตผลแห่งทานที่ตัวเองได้ทำไปว่าเกิดประโยชน์ใหญ่เพียงใด ก็พบว่าแม้ตัวเองจะบริจาคทานมากแค่ไหนก็ไม่เห็นว่าคนที่มารับทานจากตนจะกลายเป็นคนดีมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือเจริญรุ่งเรืองในชีวิตเหมือนกับคนอื่นๆเลย

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          คนที่ยากจนก็จนวันยังค่ำคอยแต่จะมารับทาน ที่เป็นคนกำพร้าก็ไม่เห็นพัฒนาคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น ส่วนทานที่ถวายให้นักบวชตนเองก็ไม่รู้ถึงคุณธรรมภายในของท่านว่าเป็นสมณะหรือเป็นพระอรหันต์รึเปล่า จึงวิตกว่าทานที่ให้แก่คนกำพร้าและคนเดินทางที่มาถึงจะเป็นทานมีผลมากหรือไม่หนอ

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          เขาเฝ้าเก็บคำถามนี้เอาไว้ในใจไม่กล้าถามใครจนกระทั่งได้ฟังเรื่องราวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากเพื่อนว่าพระสมณะโคดมผู้ออกบวชจากตระกูลขัตติยราชทรงทราบอดีต ปัจจุบัน และอนาคต จึงคิดว่าเมื่อพระองค์เป็นสัพพัญญูก็จะต้องรู้ผลแห่งการบริจาคทานที่เราอุตส่าห์ทำเอาไว้มากมาย ว่าแล้วก็ไม่ลังเลได้ชวนกันไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          เขาได้นั่ง ณ ที่ควรข้างหนึ่ง และได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองเป็นทายก เป็นทานบดี เป็นผู้รู้ความประสงค์ของผู้ขอควรแก่การขอ ย่อมแสวงหาโภคทรัพย์โดยธรรม ครั้นแสวงหาได้แล้วย่อมนำโภคทรัพย์ที่ได้มาโดยธรรม

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          ครั้นแสวงหาได้แล้ว ก็นำโภคทรัพย์ที่ตนได้มาโดยธรรมถวายแก่ปฏิคาหก ๑ องค์บ้าง ๒ องค์บ้าง ๓ องค์บ้าง ไปถึง ๑๐๐ องค์บ้าง ยิ่งกว่านั้นบ้าง ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ เมื่อข้าพระองค์ถวายทาน อย่างนี้ บูชาอย่างนี้ จะประสบบุญมากหรือไม่   

          พระผู้มีพระภาคตรัสว่า "ดูก่อนมาณพ เมื่อท่านให้อยู่อย่างนั้น บูชาอยู่อย่างนั้น ย่อมประสบบุญมากแท้ ดูก่อนมาณพ ผู้ใดแล เป็นทานบดีรู้ความประสงค์ของผู้ขอ ควรแก่การขอ ย่อมแสวงหาโภคทรัพย์โดยธรรม ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมนำโภคทรัพย์ที่ตนได้มาโดยธรรม ถวายแก่ปฏิคาหก ผู้นั้นย่อม ประสบบุญมาก"

         พอมาฆมาณพได้ฟังแล้วก็เกิดกำลังใจว่าตัวเองได้บุญแล้ว แต่ก็ยังไม่คลายความสงสัยจึงทูลถามต่อไปว่า "ผู้ใดเป็นคฤหัสถ์ ควรแก่การขอ เป็นทานบดีมีความต้องการบุญ ให้ข้าวน้ำ บูชาแก่ชนเหล่าอื่นในโลกนี้ การบูชาของผู้บูชาอยู่อย่างนี้ จะพึงบริสุทธิ์ได้อย่างไร"

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          พระบรมศาสดาทรงแนะนำว่า ผู้ใดเป็นคฤหัสถ์ ควรแก่การขอ เป็นทานบดี มีความต้องการบุญ ให้ข้าวน้ำบูชาแก่ชนเหล่าอื่นในโลกนี้ ผู้นั้นพึงให้ทักขิไณยบุคคลยินดีได้

          มาฆมาณพได้ทูลถามตรงๆว่า "ขอพระองค์แนะนำผู้ที่เป็นทักขิไนยบุคคลให้ข้าพระองค์ด้วยเถิด"

          พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า

ชนเหล่าใดแลไม่เกี่ยวข้องหาเครื่องกังวลไม่ได้ สำเร็จกรณียกิจแล้ว มีจิตคุ้มครองแล้วเที่ยวไปในโลก

ชนเหล่าใดละราคะ โทสะและโมหะได้แล้วมีอาสวะสิ้นแล้วอยู่จบพรหมจรรย์

ชนเหล่าใดปราศจากความโลภ ไม่ยึดถืออะไรว่าเป็นของเรา ไม่มีความหวัง มีอาสวะสิ้นแล้วอยู่จบพรหมจรรย์

ชนเหล่าใดละกามทั้งหลายได้แล้ว ไม่ยึดถืออะไรเที่ยวไป มีตนสำรวมดีแล้ว เหมือนกระสวยที่ตรงไป

ชนเหล่าใดปราศจากความกำหนัด มีอินทรีย์ตั้งมั่นดีแล้ว พ้นกับการจับของกิเลส เปล่งปลั่งรุ่งเรืองอยู่เหมือนพระจันทร์พ้นแล้วจากราหูล สว่างไสวอยู่ฉะนั้น พราหมณ์พึงถวายไทยธรรมบูชาในชนเหล่านั้นตามการณ์เถิด

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          มาฆมาณพครั้นทราบคุณสมบัติของทักขิไนยบุคคลแล้วก็ไตร่ตรองถึงบุคคลที่ตนได้บริจาคไปนั้นว่าไม่มีความบริสุทธิ์กาย วาจาใจ ไม่ได้อยู่จบพรหมจรรย์ตามพุทธพยากรณ์เลย แสดงว่าก็ต้องได้บุญไม่เต็มที่ เมื่อพระพุทธองค์ตรัสบอกทักขิไนยบุคคลได้ก็แสดงว่าพระองค์ย่อมทรงทราบผู้เป็นทักขิไนยบุคคลด้วยปัญญาตรัสรู้อย่างแน่นอน ว่าแล้วก็ทูลถามว่าขอพระองค์ตรัสบอกความถึงพร้อมแห่งยัญแก่ ข้าพระองค์ด้วยเถิดข้าพระองค์จะได้บูชายัญได้ถูกวิธี

          พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนมาฆะ เมื่อท่านจะบูชาก็จงบูชาเถิด และจงทำจิตให้ผ่องใสในกาลทั้งปวง เพราะยัญย่อมเป็นอารมณ์ของบุคคลผู้บูชายัญบุคคลตั้งมั่นในยัญนี้แล้ว ย่อมละโทสะเสียได้ อนึ่ง บุคคลผู้นั้น ปราศจากความกำหนัดแล้ว พึงกำจัดโทสะ เจริญเมตตาจิตอันประมาณมิได้ ไม่ประมาทแล้วเนืองๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน พึงแผ่เมตตาอันเป็นอัปปมัญญาภาวนาไปทั่วทุกทิศ ครั้นละโลกแล้วย่อมมีพรหมโลกเป็นที่ไป

          เนื่องจากมาฆะมาณพมีพื้นฐานในเรื่องเกี่ยวกับพรหมโลก ครั้นสดับเมตตาภาวนาที่เป็นทางไปแห่งพรหมโลกซึ่งตนเคยปฏิบัติมาก็ศรัทธาเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้ายิ่งขึ้นเพราะตัวเองก็มีใจน้อมไปยังพรหมโลกอยู่แล้ว

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          เลยคิดว่าการเกิดในพรหมโลกเป็นความบริสุทธิ์ หลุดพ้น จึงทูลถามถึงทางไปพรหมโลกว่า บุคคลจะไปพรหมโลกได้อย่างไร ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นมุนี พระองค์เป็นผู้เสมอด้วยพรหมของข้าพระองค์ บุคคลจะเข้าถึงพรหมโลกได้อย่างไรพระเจ้าค่ะ

          พระบรมศาสดาตรัสว่า ดูก่อนมาฆะ ผู้ใดบูชายัญครบทั้ง ๓ อย่าง ผู้เช่นนั้นพึงให้ทักขิไนยบุคคลทั้งหลายยินดีได้ เรากล่าวผู้นั้นว่าเป็นผู้ควรแก่การขอ ครั้นบูชาโดยชอบอย่างนั้นแล้วย่อมเข้าถึงพรหมโลก จากนั้นพระพุทธองค์ทรงอธิบายถึงเรื่องยัญว่าคือการถวายทานต่อบุคคลผู้ควรบูชาที่จะต้องทำจิตให้เลื่อมใสทั้งก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ แล้วทรงประกาศอริยสัจ ๔ ซึ่งเป็นทางไปสู่พระนิพพาน

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          มาฆะมาณพครั้งได้สดับแล้วก็เข้าใจแจ่มชัดว่าพระผู้มีพระภาคเข้าคือสัพพัญญูผู้รู้แจ้งที่สุดและวิธีการทำบุญที่ได้มากที่สุดก็ต้องทำกับทักขิไนยบุคคล และได้รู้ว่าหนทางไปสู่พรหมโลกกระทั่งล่วงเลยไปสู่นิพพานนั้นมีหลักปฏิบัติอยู่ในพุทธศาสนา จึงเกิดความเลื่อมใสได้ทูลปฏิญาณตนเป็นอุบาสกผู้ถึงไตรสรณคมน์เป็นสรณะตลอดชีวิต  

 

ตอน ตอน ให้ทานถูกทักขิไนยบุคคล คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          จะเห็นว่าพระบรมศาสดาทรงเป็นผู้ฉลาดในการแนะนำหมู่ชนให้หันมาศึกษาคำสอนอันบริสุทธิ์โดยไม่ได้ตำหนิลัทธิใดเลย คือจะทำบุญสงเคราะห์โลกหรือทำกับทักขิไนยบุคคลก็ต้องทำด้วยใจใสใส และถ้าจะให้บุญเต็มที่ก็ต้องทำให้ถูกแหล่งแห่งเนื้อนาบุญด้วย บุญก็จะได้หนุนนำให้ไปสู่เทวโลก พรหมโลก และเข้าถึงนิพพานในที่สุด

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล