ธรรมะเพื่อประชาชน พร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย เพราะคำว่าบุญนี้เป็นชื่อของความสุข ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เราย่อมรู้ชัดผลแห่งบุญอันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ที่เราเสวยแล้วตลอดกาลนาน

ชาดก : ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for peopleรวมนิทานอีสปพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ธรรมะเพื่อประชาชน : มหาอานิสงส์ถวายอาสนะ ๑ แสนรูป


ธรรมะเพื่อประชาชน : มหาอานิสงส์ถวายอาสนะ ๑ แสนรูป

Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน

 

DP%2001_01.jpg

มหาอานิสงส์ถวายอาสนะ ๑ แสนรูป
(อานิสงส์ถวาย บัลลังก์ ทองแสน ตัว)

                มีวาระพระบาลี ที่ปรากฎอยู่ในเถราปทานความว่า ผู้ใดถวายอาสนะทอง อันลาดด้วยเครื่องราชวิเศษมีขนยาวนี้เรา จะพยากรณ์ผู้นั้นท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจะได้เป็นท้าวสักเทวราช ๗๔ ครั้ง มีนางอัปสรแวดล้อมเสวยสมบัติอยู่ จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๑ ครั้ง จะได้เป็นพระเจ้าประเทศราชครอบครองพระสุทา ๑,๐๐๐ ครั้ง จักเป็นผู้มีสกุลสูงในกำเนิดและพบทั้งปวง ภายหลังผู้นั้นอันกุศลมูลตักเตือนแล้ว จักบวชและได้เป็นพระสาวกของพระบรมศาสดามีนามว่า พระภัททิย

 

 

DP%2001_03.jpg


                การสร้างบุญบารมีเป็นภารกิจหลักของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ที่ทุกๆ คนเมื่อเกิดมาในโลกนี้แล้ว ต้องมุ่งแสวงหาหนทางแห่งการดับทุกข์ ดับการเวียนว่ายตายเกิดใน ดับชาติ ชรา มรณะ แต่หนทางที่จะก้าวไปถึงจุดนั้นได้ บุญในตัวก็ต้องมีมากพอ หากเรามีบุญเก่าติดตัวมามาก ก็จะเป็นเครื่องสนับสนุนส่งเสริมให้เราได้สร้างบารมีได้สะดวกสบาย สามารถเพิ่มบุญใหม่ให้มากขึ้น นักปราชญ์บัณฑิตทั้งหลายในกาลก่อน ท่านจะให้ความสำคัญในการแสวงหาบุญกันเป็นหลักทีเดียว

 

 

DP%2001_02.jpg


                ดังพระคาถาที่หลวงพ่อได้กล่าวครั้งนี้ เป็นพระดำรัส ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ที่ทรงพยากรณ์ผลแห่งการสร้างบุญของนักสร้างบารมีท่านหนึ่ง  นักสร้างบารมีท่านนี้ เป็นผู้ที่มีบุญมากได้รูปสมบัติที่งดงาม โดยเฉพาะผิวพรรณวรรณะของท่าน สวยงามมากกว่าคนธรรมดา เพราะในอดีตชาติได้เคยสร้างบุญที่พิเศษกว่าคนธรรมดา ท่านมีนามว่าพระภัททิยเถระ พระเถระเคยบำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ท่านสั่งสมบุญมามากมายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพาน พอมาในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ท่านได้บังเกิดในตระกูลที่สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ พอเจริญวัยแล้ว ก็มีครอบครัว วันหนึ่งได้เห็นชาวพระนครพากันไปทำบุญอย่างสนุกสนาน และท่านได้เห็นอุบาสกอุบาสิกาที่ไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปฟังธรรม บำเพ็ญทาน รับสมาทานศีล หลายๆ ท่านเหล่านั้น ที่เกิดกุศลศรัทธาบ้างก็พากันออกบวช 

 

 

DP%2001_04.jpg


                พระบรมศาสดาเองก็ทรงมีจิตเมตตาอนุเคราะห์สรรพสัตว์ ทรงรับการถวายทาน มีสัตตุก้อน สัตตุผง น้ำและข้าวที่ชาวเมืองน้อมนำมาถวายท่านได้เห็นทุกๆ คนขวนขวายในการสร้างบุญ จึงคิดว่ามหาชนต่างพากันขวนขวายในบุญอย่างเต็มที่ เราเองก็ไม่ควรปล่อยโอกาสให้ผ่านเลยไป ควรที่จะเอาบุญพิเศษสักอย่างครั้นคิดแล้ว ก็ไม่รอช้าได้ส่งคนไปนิมนต์พระบรมศาสดาและภิกษุสงฆ์ทั้งหมดมาเป็นเนื้อนาบุญ ด้วยความตั้งใจที่จะเอาบุญพิเศษ ท่านจึงตระเตรียมไทยธรรมมีบัลลังก์ทอง ๑ แสนตัว ที่ลาดด้วยเครื่องลาดวิเศษมีขนยาว เครื่องลาดยัดนุ่น เครื่องลาดมีรูปดอกไม้ ผ้าเปลือกไม้และผ้าฝ้าย จัดตั้งอาสนะที่มีค่ามากที่สมควรแก่พระพุทธเจ้าผู้ทรงรู้แจ้งผู้ประเสริฐกว่าเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย และยังสั่งให้จัดสถานที่ปูลาดอาสนะอันมีค่ามาก มีลวดลายวิจิตรติดกันยาวมาก เพื่อรองรับภิกษุสงฆ์ถึง ๑ แสนรูป

 

 

DP%2001_05.jpg


                เมื่อได้เวลาภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขก็ได้เสด็จมา หลังจากพระพุทธองค์ประทับนั่งบนอาสนะที่เขาจัดเตรียมไว้พร้อมกับหมู่สงฆ์แล้ว ก็ได้ถวายภัตตาหารอันประณีตที่ตนเองตระเตรียมเอาไว้ ด้วยจิตที่เลื่อมใสโสมนัส ได้อังคาสภิกษุ ๑ แสน มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ให้อิ่มหนำด้วยภัตตาหารมีรสเลิศแล้วได้ถวายอาสนะทองที่ตระเตรียมไว้ พระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงรู้แจ้งโลก ทรงรับเครื่องบูชาแล้วได้มองไปในอนาคตกาลภายภาคหน้า ทรงทราบว่าอานิสงส์ใหญ่ได้บังเกิดขึ้นกับผู้มีบุญท่านนี้แล้ว พระองค์ทรงปรารถนาที่จะให้นักสร้างบารมีท่านนี้ มั่นใจในผลแห่งบุญที่บังเกิดขึ้น จึงตรัสพยากรณ์ว่า “ผู้ใดถวายอาสนะทองอันลาดด้วยเครื่องลาดวิเศษมีขนยาวนี้เราจักพยากรณ์ผู้นั้นท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักได้เป็นท้าวสักกเทวราช ๗๔ ครั้ง มีนางเทพอัปสรแวดล้อมเสวยสมบัติ จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๑ ครั้ง จักได้เป็นพระเจ้าประเทศราชครอบครองพสุธา ๑,๐๐๐ครั้ง จักเป็นผู้มีสกุลสูง ในกำเนิดและภพทั้งปวง ภายหลังผู้นี้จักบวชเป็นพระสาวกของพระสมณโคดมพุทธเจ้ามีนามว่า ภัททิยะ”

 

 

DP%2001_06.jpg


                พอฟังพระดำรัสของพระบรมศาสดาแล้ว มหาปีติก็ได้บังเกิดขึ้นกับท่านอย่างไม่มีประมาณ จึงตั้งใจมั่นที่จะบำเพ็ญบุญทั้งหลายจนตลอดอายุขัย อย่างไม่ท้อถอยในการสร้างบารมีเลย เรียกได้ว่า ตั้งใจกอบโกยบุญอย่างเต็มที่ในภพชาตินั้น หลังจากละโลกไป ก็ได้เข้าถึงเทวโลก ท่านได้เวียนว่ายตายเกิดอยู่สองภพเท่านั้น คือสวรรค์สมบัติ เสวยสมบัติในเทวโลก และมนุษยโลกดังพระดำรัสของพระบรมศาสดาทุกประการ 

 

 

DP%2001_07.jpg


                ครั้นในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ท่านได้บังเกิดเป็นบุตรของพระนางกาฬิโคธาเทวี ครอบครัวท่านเป็นครอบครัวที่มีตระกูลสูงในยุคนั้น ได้รับการเคารพจากหมู่มหาชน สมบูรณ์ด้วยมนุษย์สมบัติอันเลิศเมื่อท่านรู้เดียงสาพอบรรลุนิติภาวะแล้ว หมู่ญาติได้ขนานนามท่านว่า ภัททิยะ มีนามปรากฏตามโคตรว่า ภัททิยะกาฬิโคธาบุตร เพราะเจริญด้วยรูปสมบัติ คือมือและเท้าของท่านสวยงาม เพราะท่านได้ใช้มือและเท้านี้สร้างบารมีมาตลอด มือก็ใส่บาตรพระ ไหว้พระ เท้าก็เดินไปวัดทำความดีและก็ชักชวนคนมาสร้างความดี ครั้นเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระสัทธรรมไปทั่วชมพูทวีป ทำให้ท่านมีโอกาสเข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดา ฟังธรรมจากพระองค์แล้วเกิดจิตเลื่อมใส ปรารถนาที่จะบวช แต่มารดาบิดายังไม่ค่อยเห็นด้วย ท่านจึงเอาอกเอาใจทำให้มารดาบิดาโปรดปราน จนท่านทั้งสองยอมอนุญาตให้ออกบวช 

 

 

DP%2001_08.jpg


                หลังจากที่บวชแล้ว พระภัททิยะก็ได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ ใช้เวลาไม่นานนัก ด้วยอำนาจแห่งบุญบารมีที่ทำมาอย่างเต็มเปี่ยม มีบุญตามค้ำจุน ในที่สุดท่านก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ เมื่อเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็ระลึกถึงบุพกรรมของตน เมื่อเห็นบุพกรรมของตนแล้วก็เกิดโสมนัส จึงประกาศบุพกรรมว่า เมื่อภพชาติที่ผ่านมา เราได้สร้างบุญกับเนื้อนาบุญอันเลิศคือ พระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมกับเหล่าพระสาวก บุญนั้นส่งผลให้เราบรรลุถึงสมบัติทั้งสอง เราเป็นผู้ขวนขวายในวิเวก มีปกติอยู่ในเสนาสนะอันสงัด อริยผลทั้งปวงเราบรรลุแล้ว เราเป็นผู้ไม่มีความเศร้าหมองของจิต พระสัพพัญญูผู้เป็นนายกของโลกทรงทราบคุณทั้งปวงของเราแล้ว คุณวิเศษทั้งหลาย คือปฏิสัมภิทาญาณ ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว” 

 

 

DP%2001_09.jpg


                เราจะเห็นว่า การสั่งสมบุญเป็นคุณเครื่องแห่งความสุขและความสำเร็จ ในชีวิตทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงภพชาติสุดท้ายก็ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ฉะนั้นการสั่งสมบุญ มีแต่ผลที่ดีงามบังเกิดขึ้น เหมือนการสร้างบารมีของพระเถระรูปนี้ท่านได้สร้างบุญใหญ่ให้ตัวเอง บุญนั้นได้ตามส่งผลทุกภพทุกชาติ ทำให้ท่านมีโอกาสใช้บุญต่อบุญ สมบัติต่อสมบัติ จากโลกิยสมบัติก็เปลี่ยนเป็นโลกุตตรสมบัติ เราจึงควรที่จะสั่งสมบุญกันทุกๆ วัน เพราะผลแห่งบุญที่บังเกิดขึ้นนี้ มีแต่เกินควรเกินคาดและมีผลเป็นโลกุตตรสมบัติที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามารได้ ดังนั้นพวกเราทั้งหลายต้องสั่งสมบุญให้มากๆ ตักตวงกันไปให้เต็มที่จนกว่าบารมีจะเต็มเปี่ยมทุกคน


 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล