ดาบสองคม สังคมไซเบอร์

วันที่ 20 มค. พ.ศ.2564

ดาบสองคม สังคมไซเบอร์

                         อิสระเสรีทางความคิด เปิดกว้างอย่างเต็มที่ในโลกไซเบอร์ ทุกคนมีสิทธิมีเสียง และสามารถส่งสารถึงผู้อื่นได้โดยแสดงตัวหรือไม่จำเป็นต้องแสดงตัว ทั้งมีความปลอดภัย และเป็นประชาธิปไตย แต่สิ่งนี้ก็เป็นดาบสองคมที่มีอันตรายอย่างยิ่ง

 

20420-1.jpg

                      ในสังคมจริงๆ การที่เราจะพูดคุยกับใคร หรือนำเสนอข้อมูลข่าวสารใดๆ หรือหากจะแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณชน เราทุกคนต่างต้องรับผิดชอบต่อทุกคำพูด ทุกการแสดงออกของเรา

                     ดังนั้นมารยาททางสังคมและความเคารพเกรงใจกันในสังคมจึงมีอยู่สูง เพราะเห็นหน้าค่าตากันอยู่ รู้ว่าใครเป็นใคร

 

                      พลังทางสังคมเช่นนี้เองที่ช่วยควบคุมกำกับให้คนเรา มีความสำรวมระวังในการใช้คำพูด และแสดงออกอย่างเหมาะสม เพราะเกรงกลัวต่อบทลงโทษทางสังคมทั้งในแง่การลงโทษทางกฎหมาย และการยอมรับของสังคม

 

                      แต่ในสังคมไซเบอร์ ที่ไม่จำเป็นต้องแสดงสถานะที่แท้จริงของตน กิเลสดิบ ๆ ในใจของคน จึงถูกแสดงออกมาอย่างไม่เกรงใจใคร มีการใช้ภาษาที่หยาบคายโดยไม่ต้องกลัวถูกชกหน้า มีการกล่าวหากันโดยไม่ต้องกลัวถูกฟ้องหมิ่นประมาท และมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายที่คนเราไม่กล้าทำในสังคมจริง เมื่อคนเราเสพคุ้นสิ่งเหล่านี้จนเป็นนิสัย

                     ในที่สุดก็จะรู้สึกว่า ความก้าวร้าวรุนแรง หรือเรื่องที่ผิดเพี้ยนทั้งหลายนั้น เป็นเรื่องธรรมดา

 

 

20420-2.jpg

                      สิ่งเหล่านี้ล้วนบ่งบอกว่า คุณภาพใจของคนเราได้ตกตํ่าลงไปอย่างไม่รู้ตัว และแน่นอนว่า ในสังคมไซเบอร์ที่เชื่อมโยงผู้คนจำนวนมหาศาลไว้ด้วยกันนี้ กระแสใจของคนย่อมส่งผลกระทบซี่งกันและกัน และกระทบถึงเยาวชนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

                      เยาวชนของเราจะเป็นเช่นไร เมื่อได้ซึมซับความก้าวร้าว อคติ กิเลสต่าง ๆ

 

                      ในโลกที่เขาก็สามารถเข้าไปได้โดยไม่มีใครรู้เช่นกัน คุณภาพใจจึงถูกบ่อนทำลายไปเรื่อย ๆ เช่นนี้ ยากที่จะป้องกัน  แม้จะใช้มาตรการทางกฎหมาย หรือใช้เทคโนโลยีควบคุมตรวจสอบ ทั้งหมดก็ยังเป็นเพียงการวิ่งตามปัญหา

 

20420-3.jpg

ทางเดียวเท่านั้นที่จะยับยั้งวงจรการบ่อนทำลายนี้ได้ นั่นคือการฟื้นฟูศีลธรรมขึ้นมาในใจคน เมื่อใดก็ตามที่คนเราได้เรียนรู้ความเป็นจริงของชีวิตอย่างถ่องแท้

 

                   เมื่อนั้นความละอายและเกรงกลัวต่อบาปจะเกิดขึ้นมาในใจ แม้ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการ หรือระบบตรวจสอบใด ๆ  คนเราก็สามารถยับยั้งชั่งใจ ละเว้นความชั่วได้ด้วยตนเอง

 

ดังนั้น แม้พลังทางสังคมจะอ่อนกำลังลงไป แต่เราก็สามารถคุ้มครองใจเรา และคุ้มครองโลกได้ ด้วยพลังแห่งศีลธรรม เมื่อเราร่วมกันสร้างเครือข่ายคนดี ช่วยกันแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ทำหน้าที่กัลยาณมิตรอย่างไม่ลดละ สักวันหนึ่งโลกไซเบอร์ก็จะเฟื่องฟูด้วยศีลธรรมเช่นกัน

 

เจริญพร

พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0017661333084106 Mins