ทำเยี่ยงและทำอย่าง (ตอบคอมเม้นท์ นี้นะจ๊ะ)
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านมีพุทธานุภาพมาก มีอภิญญา เพราะ เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านมีวาจาสุภาษิต พูดแต่คำจริง พูดคำยกใจให้สูงส่ง พูดชวนคนไปสวรรค์ ไปนิพพาน ทุกคำพูดล้วนแต่เป็นบุญเป็นกุศล ทั้งสิ้น
เมื่อมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาพระองค์ตรัสเทศน์สอน นอกจากพระองค์จะมีเสียงไพเราะนุ่มนวลควรแก่การบรรลุธรรมแล้ว แม้จะมีผู้ฟังจำนวนมากจะอยู่ไกลหรืออยู่ใกล้ก็จะได้ยินเสียงดังชัดเจนเหมือนกันหมด
ถ้ากล่าวในเชิงวิทยาศาสตร์ ปกติเสียงที่มนุษย์ฟังได้ชัดเจน เสียงพูดทั่วๆไปมีระดับความดังอยู่ที่ 40-60 dB หากเบากว่านี้ก็เป็นเสียงกระซิบ ระดับ 70-90 dB ก็จะเหมาะสมสำหรับกระจายเสียงในลานกลางแจ้ง ไม่ดังไม่เบาเกินไป เหมาะต่อการฟังธรรม
วัดพระธรรมกาย โดยหลวงพ่อธัมมชโย จึงใช้หลักการของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเป็นโจทย์ในการออกแบบระบบเสียง เพื่อให้ผู้ฟังแม้อยู่ไกลหรืออยู่ใกล้ ก็ได้ยินเสียงชัดเจน ระดับความดังสม่ำเสมอกัน
จะเห็นได้จากการกระจายลำโพงไปทั่วลานธรรม ไม่ได้ตั้งลำโพงหน้าเวทีแบบงานคอนเสิร์ตหรืองานไฮปาร์คทั่วไป
ทั้งนี้ด้วยนโยบายที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านให้แก่ทีมงานไว้เมื่ออาตมาได้มารับบุญใหม่ๆ มีความว่า
1. ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง แผ่นดินจะไหว ไฟจะดับ ก็ตาม เมื่อหลวงพ่อมาถึงศูนย์กลางพิธี เสียงต้องดัง
2. เมื่อหลวงพ่อนั่งเป็นประธานสงฆ์เพื่อนำสาธุชนปฏิบัติธรรมทำสมาธิเจริญภาวนา แสดงธรรม ท่านต้องเดิน (ท่าน หมายถึง อาตมา)
ท่านบอกว่าให้ไปเดินฟังให้ทั่วพื้นที่จัดงาน ว่าคนมาร่วมงานได้ยินได้ฟังเสียงธรรมะที่ท่านได้แสดงจากศูนย์กลางพิธีหรือไม่
เพราะถ้าเขาไม่ได้ยินไม่ได้ฟัง เขาก็จะเดินทางมาร่วมงานอย่างเสียเวลาเปล่า ไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะไม่ได้ฟังธรรม เมื่อไม่ได้ฟังธรรมแล้ว ก็จะไม่มีหลักธรรมในการพาตัวเองให้พ้นทุกข์ พาตนไปสู่เส้นทางสวรรค์และนิพพาน
หมายเหตุ. ท่านยังกำชับว่า สั่งครั้งเดียว ให้ใช้ตลอดชาติ (28 ปีมาแล้วจำได้ไม่ลืม ลืมไม่ลง ใช้มาถึงทุกวันนี้)
ทำเยี่ยง : แม้ผู้ฟังจะอยู่ใกล้หรือไกลก็จะได้ยินเสียงในระดับเดียวกัน
ทำอย่าง : แม้วันนี้เรายังไม่มีอภิญญาเหมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เราก็นำเทคโนโลยีที่มีอยู่ในโลกปัจจุบันมาใช้แทนนะ
สวัสดี/เจริญพร
มนวีโร ภิกฺขุ
24 เมษายน พุทธศักราช 2568
ณ วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี
#ธรรมะริมทางไปที่สุดแห่งธรรม