เอเยนซีสร้างเกราะโฆษณาเหล้า-เบียร์

วันที่ 24 พย. พ.ศ.2548

   เอเยนซีสร้างเกราะโฆษณาเหล้า-เบียร์

 

 สมาคมโฆษณาฯเร่งทำความเข้าใจ เอเย่นซี่- ผู้ประกอบการ -เจ้าของสื่อขอให้เล่นตามกติกา 

          โฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จี้สมาชิกเลิกลักไก่ผลิตงานตีความแบบเลี่ยงกฎหมาย หวั่นภาครัฐหมดความอดทนใช้มาตรการคุมเข้มเหมือน "บุหรี่" ชิงสร้างกลไกดูแลกันเองรักษาขุมทรัพย์ 2,000 ล้าน ขณะที่ศูนย์วิจัยปัญหาสุราเสนอแบนโฆษณาทุกประเภทแล้

         นายชัยประนิน วิสุทธิผล นายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการที่ภาครัฐได้มีประกาศควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ออกมาอย่างต่อเนื่อง คลอบคลุมสื่อชนิดต่างๆทั้งวิทยุโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ โรงภาพยนตร์และสื่อโฆษณากลางแจ้ง ซึ่งจากการตรวจสอบของสมาคมโฆษณาธุรกิจฯ พบว่า มีเอเจนซี่โฆษณา และเจ้าของผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่โฆษณาผิดระเบียบ

         ประกอบกับในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของทุกปี จะเป็นเวลาที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์โหมทำกิจกรรมกันมาก จึงอยากให้แน่ใจว่าทั้งเอเจนซี่และเจ้าของผลิตภัณฑ์ปฏิบัติถูกต้องตามข้อบังคับ จึงเชิญทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมาทำความเข้าใจที่ตรงกัน เพื่อให้กระแสสังคมทั้ง ประชาชน องค์กรเอกชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ที่มีมุมมองในเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง หยุดหรือชะลอการดำเนินการใดๆที่จะเป็นการบังคับใช้กฎระเบียบนี้อย่างเข้มงวด ขณะที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเพื่อหาข้อตกลงและแนวทางที่จะดูแลกันเอง ก่อนที่ภาครัฐจะมีมาตรการใหม่ๆออกมาใช้บังคับ และปิดทางห้ามไม่ให้มีการโฆษณาเหมือนบุหรี่

          โดยในส่วนการควบคุมของสมาคมโฆษณาฯนั้น จะมีทั้งการรับเรื่องร้องเรียนต่างๆที่ส่งมายังสมาคมโฆษณาฯ เพื่อเป็นการคุมกันเองก่อน ซึ่งจะมีทั้งให้แก้ไข และเพิกถอนชิ้นงาน อย่างไรก็ตามสมาคมฯกำลังวางกลไกที่จะนำมาใช้ในการควบคุมสมาชิกให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

         อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวจากกรมประชาสัมพันธ์ซึ่งรับผิดชอบดูแลการโฆษณาทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ ระบุว่า ยังพบการกระทำความผิดในรายการถ่ายทอดสด เช่น ฟุตบอล และ มวย ที่ถึงแม้จะอนุญาตให้เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มชูกำลังสนับสนุนรายการได้ กับพบว่าบางรายการได้พยายามใช้กล้องถ่ายทอด จงใจซูม เข้าไปที่ป้ายสินค้าอย่างตั้งใจ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ในขณะที่เกมโชว์ก็จะเข้าไปจัดให้มีการเล่นในสถานศึกษา โดยมีผู้สนับสนุนคือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งถึงแม้เกมนี้จะออกอากาศหลังเวลา 22.00 น.ไปแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องถือว่าผิดตามประกาศของกรมประชาสัมพันธ์ เพราะเป็นการเข้าไปเล่นในสถานศึกษา

          ขณะเดียวกันมีรายงานจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)ว่า ได้มีการจ้างทีมเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกประเภทตลาด24ชั่วโมง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาออกกฎระเบียบขึ้นมาบังคับใช้การโฆษณาในอนาคต

          น.พ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา เปิดเผยว่าทางศูนย์ได้เสนอมาตรการควบคุมเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์เพิ่มเติมดังนี้

1.ห้ามโฆษณาโดยสิ้นเชิงตลอด24 ชั่วโมงในสื่อทุกประเภท

2.ให้มีโฆษณาต่อต้านการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะมีผลต่อการลดจำนวนคนดื่ม

3.ห้ามใช้ตราสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆเพื่อป้องกันการโฆษณาแฝง

          ทั้งนี้จะเสนอมีมาตรการนี้ต่อคณะกรรมการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอกอฮอล์แห่งชาติเพื่อผลักดันเป็นมาตรการบังคับใช้ต่อไป เครื่องดื่ม ในปัจจุบันมีหลายประเภท บางประเภทดื่มแล้วได้คุณค่าทางโภชนาการบางประเภทดื่มแล้วไปกระตุ้นระบบประสาท และบางประเภทดื่มเพื่อให้หายจากความกระหาย ถ้าจะถือส่วนประกอบหลัก เครื่องดื่มสามารถจำแนกได้ 7 พวก คือ

1. ประเภทผลไม้ ซึ่งจะมีทั้งน้ำผลไม้สด น้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง ขวด หรือกล่องขาย สามารถเก็บไว้กินได้นานๆ การดื่มน้ำผลไม้ก็จะ ได้ทั้งวิตามินและเกลือแร่ ซึ่งขึ้นกับส่วนประกอบของน้ำผลไม้ว่ามีเปอร์เซนต์ของน้ำผลไม้สดมากน้อยเพียงใด

2. ประเภทน้ำนมและเครื่องดื่มที่ใช้นมเป็นหลัก อาหารประเภทนี้ ถ้าดื่มแล้วก็ได้สารอาหารที่สำคัญ เช่น โปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ ซึ่งเหมาะสำหรับบุคคลทุก เพศทุกวัย

3. ประเภทเครื่องดื่มสมุนไพร ซึ่งปัจจุบันมีผู้นิยมดื่มกันมากขึ้น เพราะมีการทำบรรจุซองสำเร็จรูปขาย ซึ่งการดื่มน้ำสมุนไพร ถ้าสามารถดื่ม แบบไม่ใส่น้ำตาลได้ก็จะดี เพราะนอกจากจะได้คุณค่าทางโภชนาการแล้ว ยังทำให้สดชื่นอีกด้วย

4. ประเภทน้ำชา กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มกันในตอนเช้าหรือดื่มเป็นอาหารว่าง คุณสมบัติเด่นของน้ำชา กาแฟ คือ จะมีสารคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้ผู้ดื่มรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และถ้าร่างกายได้รับมากเกินไป ก็จะทำให้มีอาการกระวน กระวาย ตื่นเต้นง่าย ประสาทไหว หงุดหงิด ใจสั่น นอนไม่หลับ นอกจากนี้คาเฟอีน ยังไปกระตุ้นการหลั่งของกรด เกลือในกระเพาะอาหาร ผู้ที่กรดในกระเพาะมากเกินไปอยู่แล้ว หรือมีแผลในกระเพาะอาหาร จึงไม่ควรดื่มน้ำชา กาแฟแก่ๆ

5. ประเภทน้ำหวาน น้ำอัดลม เครื่องดื่มประเภทนี้โดยทั่วไป มักมีส่วนประกอบของน้ำตาลสารปรุงแต่งรส ถ้าเป็นน้ำอัดลมก็จะมีกรด คาร์บอนไดออกไซด์ และบางทีอาจมีสารกันบูดด้วย คุณค่าของเครื่องดื่มชนิดนี้มักจะให้พลังงานเป็นส่วนใหญ่

6. เครื่องดื่มที่แอลกอฮอล์ ได้แก่ เหล้า เบียร์ ไวน์ วิสกี้ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นี้ ไม่ควรดื่มเป็นปริมาณมาก เพราะจะทำให้เกิดติดขึ้นมาได้ และถ้าดื่มจนเมาจะควบคุมสติไม่ได้ จะทำให้เกิดกรณีวิวาท และหากขับรถก็จะเกิดอุบัติเหตุได้

7. เครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งมักนิยมดื่มกันมาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้แรงงาน เครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด ให้พลังงานแก่ร่างกายเพียง 8 แคลอรี่ และยังมีคาเฟอีน ซึ่งมีผลกระตุ้นระบบประสาทได้ ซึ่งบางคนจะดื่มแทนน้ำหรืออาหารหลัก ซึ่งถ้าเทียบแล้ว คุณค่าทางโภชนาการที่ได้เพียงเล็กน้อย ถ้าดื่มติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะทำให้ติด และถ้าดื่มแต่เครื่องดื่มชูกำลัง เพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้กินอาหารหลักเลย ก็จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้ จะเห็นได้ว่า เครื่องดื่มมีหลายประเภท เครื่องดื่มแต่ละประเภทก็มีคุณ มีโทษ แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อทราบถึง โทษของเครื่องดื่มบางประเภทที่กล่าวแล้ว ควรจะหลีกเลี่ยงไม่บริโภคเลย พยายามบริโภคให้ลดน้อยลงก็จะ เป็นการดีที่สุด

 

ที่มา

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2043 วันอาทิตย์ที่ 11 – วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2548

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0085452675819397 Mins