ปรากฏการณ์อัศจรรย์ ในพระประสูติกาล

วันที่ 10 กพ. พ.ศ.2555

 

          ด้วยอำนาจบุญที่ทำมาดีแล้ว เมื่อจุติลงสู่ครรภ์พระมารดา ลักษณะของท่านก็ไม่เหมือนคนทั่วไป ทรงลักษณะที่สมบูรณ์ที่สุด แข็งแรงที่สุด และได้สัดส่วนที่ดีที่สุดด้วย และในวาระพระประสูติกาลก็ได้มีปรากฏการณ์ เป็นอัศจรรย์เกิดขึ้นอีกหลายประการ เช่น

 

                ประการที่ ๑  ด้วยลักษณะมหาบุรุษที่สมบูรณ์แข็งแรง ศูนย์ถ่วงของร่างกายจึงดีเหลือเกิน ขณะที่พระองค์อยู่ในครรภ์พระมารดา แทนที่จะนอนคุดคู้งอตัวเหมือนทารกทั่วไป พระวรกายของพระองค์กลับนั่งสมาธิอยู่ในครรภ์พระมารดาจนครบ ๑๐ เดือน จึงประสูติออกมา เวลาคลอดก็ไม่เหมือนคนทั่วไปซึ่งเอาหัวออก ทำให้แม่ต้องนอนคลอด แต่เมื่อพระพุทธเจ้าประสูตินั้น ไม่ทรงทำความลำบากให้พระมารดาเลย พระมารดายืนคลอด พอพระองค์ยืดพระบาท หลุดจากพระครรภ์มารดาก็ทรงยืนได้ทันที พอยืนก็ก้าวไปได้เลยเจ็ดก้าว และยังพูดได้ด้วย คำพูดที่ทรงเปล่งออกมาทันทีที่ประสูติ เรียกว่า อาสภิวาจา คือ วาจาหรือคำพูดที่ประกาศถึงความเป็นผู้มีความสามารถสูงสุดในโลก

พระองค์ตรัสว่า "เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดแห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐสุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้ภพใหม่ย่อมไม่มี" เป็นหลักฐานได้ว่า ผู้มีบุญบารมีแก่กล้านั้น เมื่อประสูติก็สามารถพูดได้เลย

 

               ประการที่ ๒  เมื่อพระองค์ประสูตินั้น เทวดาทั้งหลายต่างพากันมารอรับและดูแลอารักขา คนอื่นๆ มองไม่เห็น มีแต่พระมารดาเท่านั้นที่เห็นชัดว่ามีเทวดาเข้ามารับ เทวดาเหล่านี้คือเทวดาที่ไปอัญเชิญพระองค์มาประสูตินั่นเอง เพราะฉะนั้น เมื่อเชิญลงมาแล้ว ก็เลยตามมาดูแลอารักขาด้วย

               เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติ เท้ายังไม่ถึงดิน ก็มีเทพบุตรทั้ง ๔ มารองรับพระองค์ไว้ แล้วทูลกับพระมารดาว่า "พระแม่เจ้าจงพอพระทัยเถิด บุตรอันมีศักดาใหญ่ของพระแม่เจ้าเกิดแล้ว,,

               ยิ่งกว่านั้น เวลาพระองค์ประสูติ พระวรกายของพระองค์ยังสะอาดหมดจด ไม่เปื้อนด้วยเลือดเมือกหนอง ไม่เปื้อนด้วยของเน่าเหม็นอย่างคนธรรมดา นับเป็นผู้สะอาดหมดจด เหมือนอย่างเอาแก้วมณีวางบนผ้าเนื้อเกลี้ยง แก้วนั้นไม่เปื้อนผ้า และผ้าก็ไม่เปื้อนแก้วอย่างนั้น


 

               ประการที่ ๓  เมื่อประสูติแล้ว ปรากฏว่ามีท่อนํ้าธารนํ้าอุ่นเกิดขึ้นกลางอากาศให้ได้สรงทีเดียว ถามว่าเกิดจากบุญอะไร ตอบว่าบุญที่ท่านไม่เคยหวงนํ้าดื่มนํ้าใช้ข้ามภพข้ามชาติมานั่นแหละ ถึงคราวประสูติ บุญก็ตามมา มีน้ำตกกลางอากาศหลั่งไหลเป็นนํ้าที่เหมาะแก่ทารก เป็นปรากฏการณ์อัศจรรย์อย่างยิ่ง

 

               ประการที่ ๔  ทันทีที่ประสูติก็เกิดแสงสว่างเจิดจ้า สว่างชนิดที่ เรียกว่า แม้นรกที่มืดมิดก็ยังสว่างด้วยรัศมีที่เกิดจากการประสูติ ยิ่งกว่านั้น แผ่นดินก็ยังไหวด้วย สำหรับพวกเรา ถึงไม่ได้เท่าผงธุลีของพระองค์ แต่ว่าเมื่อเกิดมาแล้วได้เป็นผู้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง พร้อมต่อการปฏิบัติธรรม และมีเครื่องอำนวยความสะดวกเพื่อการปฏิบัติธรรมให้พร้อม ก็นับว่าเป็นการดีไม่น้อยอยู่แล้วสำหรับการสร้างบารมี ต่อไปภายหน้าผู้ที่สะสมบุญบารมีอย่างเต็มที่เช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เวลาเกิด นอกจากจะมีปรากฏการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นดังนี้แล้ว ยังมีลักษณะพระวรกายที่สมบูรณ์งามสง่าเป็นเลิศ ซึ่งเรียกว่า ลักษณะมหาบุรุษ อีกด้วย
 

               พวกเราเคยสังเกตไหมว่า นักกีฬาที่ร่างกายแข็งแรงนั้นเกิดจาก การฝึกซ้อม ซ้อมวิ่งบ้าง ซ้อมยกตุ้มนํ้าหนักบ้าง รวมทั้งการฝึกท่าบริหารต่างๆ เมื่อฝึกซ้อมมากๆ สุขภาพร่างกายจะสมบูรณ์และแข็งแรง ทหารฝึกออกกำลังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้ฉันใด พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในขณะที่บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ก็พากเพียรฝึกซ้อมเป็นประจำ แต่การฝึกซ้อมออกกำลังของท่าน ไม่ใช่การซ้อมยกตุ้มนํ้าหนัก แต่เป็นการยกมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ ทรงยกใจของพระองค์ให้พ้นจากกิเลส และยกใจคนทั้งหลายให้พ้นจากความทุกข์ ยกใจคนทั้งหลายให้พอใจในการทำความดี ทรงบริหารจิตใจของพระองค์เช่นนั้นข้ามภพข้ามชาติอันยาวนาน บุญบารมีจากการที่ยกใจมนุษย์ให้พ้นบาป พ้น จากกิเลสนี้เอง จึงทำให้ท่านได้ลักษณะมหาบุรุษ คือ ลักษณะที่สมบูรณ์ที่สุดของมนุษยชาติจะพึงมีพึงเป็นได้ และเป็นลักษณะที่เหมาะแก่การทำความดีทุกรูปแบบ
 

               รูปร่างลักษณะของเรานี้ ความจริงไม่ได้มาตรฐานทั้งนั้น แต่พวกเราคุ้นกับสิ่งที่ไม่ได้มาตรฐานจนเคยชิน หน้าเรา จมูกเรา ปากเรา มีแต่ความพิการ บางคนก็เห็นชัดมาก บางคนชัดน้อย เช่น มือของเรานิ้วก้อยเล็กนิดเดียว คิดว่าน่ารัก จริงๆ แล้วนั่นแหละนิ้วง่อย บางคนว่าสวยจนขนาดนางงามงานวัดหรือมิสยูนิเวอร์สเชียวนะ แต่พอไปเทียบกับรูปร่างมาตรฐานแล้ว ง่อยกันทั้งนั้น พิการทั้งนั้นแหละ รู้ได้อย่างไรว่าง่อยพิการ ค่อยๆ ฝึกไป เมื่อเห็นพระธรรมกายภายในตัวแล้วเอาตัวของเราไปเทียบ จึงจะเห็นว่าตัวเรานี่แหละพิการ

 

              รายละเอียดหลวงพ่อเทศน์ไว้แล้วในเรื่องลักษณะมหาบุรุษไปหาอ่านเอาก็แล้วกัน
 

               พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราประสูติมาพร้อมกับได้ลักษณะ มหาบุรุษ ๓๒ ประการครบถ้วน ในสมัยพุทธกาลมีบางคนได้ลักษณะมหาบุรุษเหมือนกัน แต่ได้มาบางอย่างเท่านั้น

 

ความยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระภาวนาวิริยคุณ


 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0013702829678853 Mins