ชีวิตต้องสู้ของสุนัขข้างถนน

วันที่ 26 เมย. พ.ศ.2560

 

ชีวิตต้องสู้ของสุนัขข้างถนน,วาไรตี้,บทความประจำวัน

 

เรื่องที่ ๖ ชีวิตต้องสู้ของสุนัขข้างถนน (ช่วงที่ ๓ เรื่องต้องคิด ชีวิตมหาวิทยาลัย)

 

ถ้าคุณอยากจะดูชีวิตต้องของใครสักคนหนึ่งผมขอ

แนะนำว่า คุณไม่จำเป็นต้องไปดูทีไหนไกล เพียง

ก้าวเข้าไปโนโรงอาหารของมหาวิทยาลัยเท่านั้น

    เราก็จะเห็นเจ้าของข้วิตต้องสู้ ทั้งดูตั้ง ดูตูบ ทั้งส์ขา

สามขา ทั้งขาดี ขาเป๋ ทั้งหางงอ หางกุด หางสู้

   และหางจุก(ตู)ด ช่งแม้เขาเหล่านั้น จะค่อนข้าง

       หลากหลายบุคลิกลักษณะ แค่ว่าล้วนมาจากพันธุ

           โรดไซด์ (Road Side) หรือพันธุข้างถนนเสมอก้น

 

    สมัยตอนที่ผมยังเรียนหนังสิออยู่ในมหาวิทยาลัย ผมเองก็ผูกพันอยู่กับเจ้าสุนัขพัน^รดไซด์หลายตัว จำได้ว่า บางวัน เวลาผมกับเพื่อน เดินไปไหนมาไหน ก็จะมีเจ้าพวกนี้ เดินตามไปด้วยอีก ๒-๓ ตัวเวลามีอะไรอร่อยๆ ผมก็จะแบ่งให้มันกินบ้าง แม้ว่าเงินผมจะแค่พอมีพอกินก็ตาม แต่ก็แบ่งให้กินในฐานะที่มันเองก็หิวข้าวเป็นเหมือนกับผม

     ผมเองก็ไม่รู้ว่า ใครบ้างที่เป็นเจ้าของ แต่ด้วยรูปพรรณสัณฐานของพวกมันแล้ว ผมพอเดาได้ว่า มันต้องเคยมีเจ้าของ ตอนที่มันยังสวยๆอยู่ เจ้าของก็รักมัน แต่พอมันมีขี้เรื้อนขึ้น เพราะเจ้าของไม่อาบนํ้าทำ ความสะอาดให้มัน ก็พามันไปทิ้ง ให้เผชิญชะตากรรมเอาเอง ผมเห็นแล้วก็สะท้านใจ

    แม้ว่า ผมเองจะไม่ใช่เจ้าของโดยตรงก็ตาม แต่เพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมโลก ก็ถ้าเจอกันเมื่อไร แล้วมีอะไรแบ่งให้กินได้ ก็ให้กินไป ถ้าไม่มี ก็อดไป เพราะจะให้ไปรับผิดชอบพวกมัน ผมก็คงทำไม่ไหวหรือไม่ก็เจ้าบางตัวโชคดีที่เพื่อนๆ ของผม ซึ่งเรียนสาขาลัตวบาลมาเจอเข้ากลัวว่ามันจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ก็พากลับไปฉีดวัคซีนที่คลินิกสัตวแพทย์ฝึกหัด พอฉีดวัคซีนเสร็จ ก็จับลงทะเบียนเป็นสมาชิกที่นั่นไปเลย

        สำหรับลีลาอ้อนขออาหารของเจ้าพวกโรดไซด์ ตามโรงอาหารแต่ละท่านคงทราบแก่ใจดีว่า มันอ้อนขนาดไหน มันรู้จักวิธีที่จะเกริ่นก่อนจะเข้ามารู้จักกับเราเสียด้วย

        ตั้งแต่ยกขาหน้าสะกิดสะเกา ถ้าไม่ได้ผลก็เอาคางมาหนุนตัก พอเราหันมามอง มันก็ตีหน้าเศร้า แล้วก็เหมือนจะเล่าให้ฟังด้วยแววตาว่า"อร่อยไหมครับพี่ แบ่งให้ผมกินบ้าง!ครับ ผมหิ๊ว หิว"

       แน่นอนล่ะครับ พวกมันจะต้องเลือกหน้าตาท่าทางมาแล้วว่า ทำหน้าแบบไหน เขาจึงจะสงสารให้มันกิน แต่พอให้มันกินไปแล้ว บางตัวมันก็เรียบร้อย ลงไปนอนคอยเลยล่ะคร้บ แต่บางตัวมันก็แสบ พอให้มันกินไปแล้ว มันจะกินอีก แล้วเราไมให้ มันก็เห่าโวยวายลั่นโรงอาหารทำ เอาเราได้เกิดเป็นดาราใหม่กลฺางโรงอาหารไปเลย

     วันต่อมา ดูเหมือนว่าไฟแค้นของดาราจำเป็น เมื่อวานจะยังไม่สงบตัตรูในคาบมิตรของมัน ก็ออกปากเรียก แน่นอน วันนี้พวกมันค้องร้สีกว่า พิเศษจริงๆ รีบวิ่งมากันใหญ่ มาเสนอหน้ากันให้สลอน และแล้วเวลาแห่งการสร้างเวรก็มาถึง ลูกชิ้นปิงปองชุบพริกปนจนเป็นสิแดงเข้มถูกดึงออกมาจากไม้เสิยบ แล้วโยนให้มันกินทันที

      ด้วยความรีบร้อนที่กลัวตัวอื่นจะมาแย่ง มันเลยกินลูกชิ้นชุบพริกปนเสิยเต็มคำ พอรสพริกออกฤทธื้ มันร้องเองมาคำแล้วก็วิ่งพล่านอ้าปากนํ้าลายเยิ้มไปตลอดทาง ผมเห็นแล้ว ก็ได้แต่ส่ายหัว

      แต่นึกว่าจะเข็ด เดี๋ยวพอหายเผ็ด มันวิ่งกลับมาอีก คือยังไม่เชื่อว่า เมื่อตะกี้นี้ คือการแก้แค้น

      น่าเห็นใจสุนัขล่ะครับ ก็ท้องมันหิว ก็ต้องหาอาหาร จะใหังอมีองอเท้าแล้วมีกิน ก็คงเป็นไปไม่ได้ ไม่ง้อเขา มันก็ไม่มีกิน ไปง้อ ไปอ้อนเขาแล้ว เขาไม่ให้ ก็สารพัดจะหาวิธีทำให้เขาเห็นใจ ถ้าเขาไม่เห็นใจ ก็ไม่รู้จะทำยังไง นอกจากเห่า โฮ่งๆ วันไหนโชคดี พอไปเห่าโวยวายอย่างนี้เข้า คนเขารำคาญ เขาก็รีบๆ กินให้เสร็จแล้วก็ลุกหนีไป หรีอไม่ก็ย้ายที่นั่งหนีมันไป

     แต่ถ้าวันไหนโชคร้าย เห็นเขาลุกขึ้นมาหา ก็นีกว่าจะเอาอาหารมาให้กิน ที่ไหนได้ กลับให้แข้งเข้าไปเต็มชายโครง เสิยงด้งพลั่ก ตัวมันล่ะเซตามแข้ง ท้องไส้จุก หางตกวูบ ขาอ่อนยวบ นอนกองกับพื้น ร้อง เอ๋ง เอ๋ง เอ๋ง ถ้าเป็นคน มันก็คงจะร้องว่า "โอ๊ยๆๆๆ นอกจากไม่ให้กินแล้วยังเตะผมอีก" วันไหน ถ้าเจอแบบนี ถือว่าเป็นวันโชคร้ายครับ

     ด้วยความที่ผมและเพื่อนๆ แบ่งอาหารให้มันกินอยู่บ่อยๆ ก็เลยทำ ให้พวกมันไว้ใจ พอเดินไปไหน เจ้าพวกนีมันจะเดินตามไปล่งด้วยลักระยะหนึ่ง เมื่อสุดเขตแดนของมันแล้ว ก็จะเดินกลับไป ก่อนที่หมาเจ้าถิ่นแถวนั้น จะมาทวีทับพวกมัน

      แน่นอนล่ะ เมื่อสนิทกับเจ้าพวกนี้มากเข้า วันหนึ่ง เมื่อมันไปมีเรึ่องกับหมาอีกฝูงหนึ่ง จะด้วยสาเหตุอะไร ผมก็ไม่ทราบได้ มันก็กลับมาตามผมไปด้วย มันมายีนทำพัดฟัด อีดฮัด หายใจแรง แลัวก็ห้นหน้าไปทางอริ คลัายๆ จะบอกผมว่า "ลูกพี่ เจ้าพวกนั้นข้ามถิ่นเรามาแล้ว จะเอายังไงกับมันดีครับ ลูกพี่" เป็นอ้นว่า มันยกการตัดสินใจให้ผมเสียแล้วผมเลยกลายเป็นห้วหน้าแก๊งสุนัขโดยจำเป็น

    พอผมเข้าใจในสิ่งที่มันพยายามสื่อสารแล้ว ก็เดินนำหน้าฝูงสุนัขไปส่วนพวกมันที่อยู่ข้างหลัง ก็ทำ ฮึด ฮัด ฟึดฟัด เป็นสัญญาณบอกให้พวกฝ่ายตรงข้ามรู้ว่า "เฮ่ย พวกข้ามาแล้วโว้ย เอ็งดูซะก่อน ลูกพี่ข้าเป็นคน'นะโว้ย อย่าข้า รีบกลับไปซะ"

      ปรากฏว่า สิ่งที่มันสี่อสารกับอริได้ผล เจ้าพวกนั้นพอเห็นผมเดินมาด้วย แรกๆ มันก็ทำท่าทางขึงข้งดี แต่พอผมเดินเข้าไปไกล้เรื่อยๆ มันก็แตกหนีกระเจิง เจ้าพวกสุนัขที่ตามไปด้วยเลยได้ใจใหญ่ วิ่งไล่กวดตามกัดเจ้าพวกนั้น เสียฝนกระเจิง แต่เจ้าพวกฝ่ายอริ มันก็ไวพอตัว มันหนีห่างไปตั้งหลายสิบเมตร พวกมันวิ่งกวดยังไงก็ตามไม่ทัน

     ผลจากวันนั้น ก็เป็นอันว่า สุนัขพวกนี้ ได้ยกให้ผมและเพื่อนๆเป็นห้วหน้าไปโดยปริยาย ก็เอากับพวกมันหน่อย สนุกดี อย่างน้อยก็เข้าใจมันมากขึ้น และเห็นใจในความบ้านแตกสาแหรกขาดของมัน เพราะตัวของมันเอง ก็ไม่คิดว่าขึวิตจะต้องมาเจอชะตากรรมแบบนี้ จากที่มีบ้านเคยอยู่ มีอู่เคยนอน แต่วันนี้กลับมานอนตามข้างถนน เข้ามาก็หาเศษอาหาร ตามโรงอาหารกิน เวลาปวยไข้ก็ไม่มีใครจะเยียวยารักษาทุกข์ทรมานอย่างนั้นไปจนกว่าจะสินลมหายใจ

    นี่แหละครับ ชีวิตต้องสู้ ที่คุณหาดูได้จากโรงอาหาร พวกสุนัขพันโรดไซด์เหล่านี้ เมื่อห้องหิว ชีวิตยังอยู่ ขายังเดินได้ แรงยังมี ก็หากินกันไป เมื่ออิ่มท้อง ก็พักฝอน นอนหลับ ตื่นขึ้นมาก็ดำเนินชีวิตแบบโรดไซด์กันไป

    เมื่อผมนึกย้อนกลับมาถึงตัวเอง ก็ไตัข้อคิดว่า คนเรานั้น ไม่ว่าจะเจอป็ญหาอะไรก็ตาม ย้งไงก็มีทางแก้ไฃที่มากกว่าสุนัข เพราะฉะนั้นเมื่อเจออุปสรรคอะไร ก็ตัองสู้กันไปให้สมกับที่เกิดเป็นคน

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0091531991958618 Mins