ขันติ
ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา นี้แหละจำไว้เถอะ หญิงจำไว้เถอะ ชายก็จำไว้เถอะ พระพุทธเจ้าให้นิพพานไว้ชัดๆ ทีเดียว ให้นิพพานไว้ชัดๆ ทีเดียว หญิงจะไปนิพพาน ก็ตั้งอยู่ในความอดทน ชายจะไปนิพพาน ก็ตั้งอยู่ในความอดทน
ถ้าไม่อดทนไปนิพพานไม่ได้ ต้องอดทนกันจริงๆ เห็นด้วยตาก็สักแต่ว่าเห็น ได้ยินด้วยหูก็สักแต่ว่าได้ยิน ได้กลิ่นด้วยจมูกก็สักแต่ว่าได้กลิ่น ได้ร ด้วยลิ้นก็สักแต่ว่าได้ร ได้สัมผัส ด้วยกายก็สักแต่ว่าสัมผัสได้รู้แจ้งทางใจก็สักแต่รู้ จะไปเอาเป็นชิ้นเป็นอันใช้ไม่ได้ ก็สักแต่ว่าไปเท่านั้นแหละ มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน
ก่อนที่เราจะเกิดมา รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ มันก็มีอยู่ กำลังจะเกิดมาปรากฏอยู่ในบัดนี้ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์เหล่านี้มันก็มีอยู่แล้ว เราจะตายไปเสีย รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์เหล่านี้มันก็มีอยู่แล้ว เราจะไปเป็นเจ้าของมันไม่ได้หรอก มันไม่ใช่ของใคร มันเป็นของกลางๆ
ถ้าเราจะไปเป็นเจ้าของของกลาง มันจะเป็นอย่างไง เราจะต้องตระหนกละสิ ไอ้นี่เห็นสติวิกาลไป
เราไปในทะเล นั่งเรือใบ เรือกล หรือเรือกลไฟใหญ่ก็ตามพอไปถึงทะเลก็ดีอกดีใจ หัวเราะร่าเริง นี่ของข้าๆ ไม่ใช่ของใคร ของข้าแท้ๆ ใครจะมายุ่งไม่ได้ ทะเลของข้า ไม่น่ะ มันจะถือทะเลเอาเข้าแล้ว เป็นของๆ มัน เราจะว่าไงล่ะ...
อีกคนหนึ่งไม่เช่นนั้น เข้าไปในป่าใหญ่ๆ มันก็ยืนหัวเราะร่าเริงว่าไอ้ป่านี่ของข้าๆ เอาละสิๆ จะว่ายังไงมัน ไอ้นี่คนยังไงไม่ว่า หากว่าหญิงเป็นยังไงไม่ว่า หากว่าชายเป็นยังไงไม่ว่า ติมันถึงได้วิกาลไปแล้วละเจ้านั่นแน่ เราจะหาว่ามันบ้าเข้านั้น
เพราะทะเลเป็นของใคร มันก็เป็นของกลาง ใครจะเอามันได้ ป่าก็เป็นของกลาง ใครจะเอามันได้
มันไปเดินในอากาศ ไปพบอากาศว่างๆ โอ๋ๆ อากาศว่างๆเดินไปบนอากาศ นี่อากาศของข้าของกู ใครจะมายุ่งไม่ได้ มันก็ถือของมันมั่นคงทีเดียว เราก็จะเอาอีกแล้ว ไอ้นี่ไม่ได้การละโว้ย จะต้องระวังกระโจนเครื่องบินระรอก นี่เราจะต้องตกใจอย่างนี้
นี่ฉันใด เรามาถือเอารูปเป็นของๆ เรา เป็นอย่างไงบ้างเอาไอ้รูปนี่ของข้าของข้าล่ะ เราจะเป็นยังไงบ้างนึกดูสิ รูปของข้ารูปใครล่ะ รูปสามีภรรยา รูปบุตรเด็กดา รูปถ้วยโถโอชาม มันอย่างนี้แหละ นี่ของข้า เออ..อ้ายนี่มันจะเป็นยังไงล่ะ ใจคอมันจะเป็นยังไงแล้วหรือ เราจะถามใจคอเป็นอย่างไรแล้วนี่ เพราะไม่รู้จักของกลาง ไปถือว่าของข้าไปเสียหมด
นี่ไปยึดถือเอาอย่างนี้ ยึดถืออย่างนี้ผิดหรือถูก
ผิด...ผิดจากขันตี ผิดจากความอดทน ขันตีไม่ใช่ประสงค์อย่างนั้น ขันตี อดทนจริงๆ อดทนและอดใจด้วย
ยินดีในรูป เสียง รักใคร่ในรูปเสียง ให้ใจขาด ยินดีก็ยินดีไป รักก็รักไป อดทน เฉย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสีย ทำเป็นไม่เอาใจใส่เสียอย่างงั้นแหละ
รูปก็อดทนเสีย เสียงก็อดทนเสีย ยินดีในกลิ่นก็อดทนเสีย ยินดีในรูป ก็อดทนเสีย ยินดีในสัมผัส ก็อดทนเสีย ไม่ยุ่งกับมันหรอกยินดีอารมณ์ที่เกิดกับใจก็ไม่ยุ่ง
วางใจเป็นกลาง หยุด เฉย ยิ้มแฉ่งเชียวอย่างนี้ อย่างนี้คนมีปัญญา อย่างนี้คนเห็นถูก อย่างนี้คนทำถูก อย่างนี้คนมีขันตี อดทน
นี่แหละอดทนอย่างนี้แหละใช้ได้
อดทนอย่างนี้แหละไม่ไปไหนล่ะ
ไปนิพพานตรงทีเดียว
ถ้าอดทนได้อย่างนี้ไปนิพพานทีเดียว
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง "โอวาทปาฏิโมกฺขาทิปาฐ"