"หยุด" สู่ความสำเร็จ

วันที่ 12 เมย. พ.ศ.2567

120467b01.jpg

"หยุด" สู่ความสําเร็จ 
๓ มกราคม ๒๕๓๖
พระธรรมเทศนาเพื่อการปฏิบัติธรรม วัดพระธรรมกาย
โดย... พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)

 

                ต่อจากนี้เราจะได้นั่งหลับตาเจริญสมาธิภาวนากัน ให้นั่งขัดสมาธิ โดยเอาขาขวาทับขาซ้าย ดูคนข้างเคียงเค้านะจ๊ะ สำหรับท่านที่มาใหม่ โดยเอาขาขวาทับขาซ้าย ให้มือขวาทับมือซ้าย นิ้วชี้ของมือข้างขวาจรดนิ้วหัวแม่มือข้างซ้าย วางไว้บนหน้าตักพอสบาย ๆ หลับตาของเราเบา ๆ หลับพอสบาย ๆ คล้าย ๆ กับเรานอนหลับ อย่าไปบีบหัวตา อย่าไปกดลูกนัยน์ตา ให้หลับพอสบาย ๆ คล้าย ๆ กับเรานอนหลับนะจ๊ะทุก ๆ คน ขยับเนื้อขยับตัวของเราให้ดี กะคะเนให้เลือดลมในตัวของเราเดินได้สะดวก เราจะได้ไม่ปวดไม่เมื่อย โดยทำความรู้สึกว่า ให้กล้ามเนื้อบริเวณศีรษะให้ผ่อนคลาย กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก เปลือกตา ให้ผ่อนคลาย บริเวณลําคอให้ผ่อนคลายบ่าทั้งสอง หัวไหล่ทั้งสอง แขนทั้งสอง ถึงปลายนิ้วมือ ให้ผ่อนคลายให้หมด บริเวณลำตัวของเราก็ให้ผ่อนคลายตลอดไปถึงปลายนิ้วเท้าทั้งสอง ทั้งเนื้อทั้งตัวให้ผ่อนคลายให้หมดเลยนะจ๊ะ 

 


                เนี่ยะปรับให้ดี ให้ทำตัวให้สบาย ๆ อย่าไปเกร็ง อย่าไปตั้งใจมากเกินไป เนี่ยะปรับให้สบาย ๆ พอดี ๆ หลังจากนั้นก็ทําใจของเราให้เบิกบาน ให้แช่มชื่น ให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ ให้ผ่องใส วิธีทำก็คือทำใจของเราให้ว่าง ๆ ปราศจากความคิดทั้งมวล เหมือนเราไม่เคยมีความคิดมาก่อนเลย ตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งถึงเดี๋ยวนี้ทำให้ใจนิ่ง ๆ นะจ๊ะ ว่าง ๆ ว่างเปล่าจากภารกิจทั้งหลาย จะเป็นเรื่องการศึกษาเล่าเรียน เรื่องธุรกิจการงาน เรื่องครอบครัว หรือเรื่องอะไรที่นอกเหนือจากนี้ เราจะต้องทำใจของเราให้ปลอดกังวล ปลอดความคิดเหล่านั้น ให้นิ่งๆ สบาย ๆ สักหนึ่งหรือสองนาที เพื่อปรับตัวปรับใจของเราให้เหมาะสม ที่จะเป็นภาชนะรองรับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เนี่ยะทำใจให้นิ่ง ๆ นะจ๊ะ ว่าง ๆ สบายๆ นี่ก็สำคัญนะ ที่ทำใจให้นิ่ง ๆ เนี่ยะ สำคัญ ให้ว่าง ๆ ยังไม่ต้องภาวนาอะไรทั้งหมด ยังไม่ต้องนึกต้องคิดอะไร ให้นิ่ง ๆ ให้รู้จักทำใจให้ว่าง ๆ สักนาที สองนาที เดี๋ยวเราจะพบความอัศจรรย์จากการทำอย่างนี้นะจ๊ะ 

 


                อย่างที่เรานึกไม่ถึงเลย เพราะฉะนั้นทำให้ใจว่าง ๆ นิ่ง ๆ ให้ใจเราอินโนเซ้นท์ เหมือนเด็ก ๆ ที่ไม่มีความคิดอะไรเลย โล่ง ๆ นิ่งๆ สบาย ๆ เนี่ยะทำตัวให้สบาย ทำใจให้ว่าง ๆ คราวนี้เราก็สมมติตัวของเราเองไปนั่งอยู่ที่ใดสักที่หนึ่ง ที่เรามีความรู้สึกเหมือนเป็นที่ที่เราพอใจ ที่สุดชื่น อาจจะเป็นยอดเขา ใกล้ธารน้ำ ริมทะเล หรือที่ไหนในกลางอวกาศโล่ง ๆ ก็ได้นะ โล่ง ๆ นิ่งๆ แต่หลวงพ่อว่ากลางอวกาศเนี่ยะ จะมีความรู้สึกว่าเราโล่ง ๆ ว่าง ๆ ให้นิ่ง ๆ อยู่ตรงนั้นนะ อยู่ในที่ที่สดชื่น ที่เบิกบาน หรือจะนึกสมมติว่าเราไปนั่งอยู่ท่ามกลางของพระอริยเจ้าก็ได้ โดยมีพระผู้มีพระภาคเจ้าท่านทรงเป็นประมุข ย้อนอดีตไปถึงสมัยพุทธกาลก็ได้ นี่เป็นเรื่องที่เราสมมติเอานะจ๊ะ 

 


                เพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมาะสมต่อการปฏิบัติธรรม เพราะหลักของการเข้าถึงธรรมนั้น ใจต้องปลอดโปร่ง สบาย ปลอดโปร่ง สบาย ถึงจะเหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับพระรัตนตรัยเนี่ยะเราทำอย่างนี้นะ ให้นึกถึงที่ใดที่หนึ่ง ที่สบาย ๆ แล้วเราก็ทำใจให้นิ่ง ๆ โล่ง ๆ นิ่ง ๆ เพราะถ้าเราจะคิดว่าให้เราเบิกบานสดชื่นเนี่ยะบางคนนึกไม่ออก แต่ถ้าให้ทำความรู้สึกว่านิ่ง ๆ ว่าง ๆ เหมือนอยู่กลางอวกาศอย่างนี้ บางท่านนึกได้ และได้ง่าย ลองทำดูนะจ๊ะ ว่าง ๆ หรือเราจะลองสมมติว่าตัวเราขยายสุดขอบฟ้าเลยก็ได้ ขอบฟ้าที่เรามองเห็นสุดสายตา ถ้าไปยืนที่ชายทะเลจะเห็นน้ำจรดกับขอบฟ้า เราจะลองสมมติตัวของเรานะจ๊ะ 

 


                ขยายกว้างไปสุดนั้นเลย สมมติเอานะ นึกเบา ๆ เพื่อเราจะได้คุ้นเคยกับการนึกเรื่องเบา ๆ ลองนึกตัวเราโตขนาดนั้นน่ะ ขยายไปสุดฟ้าครอบเลย อยู่กลางอวกาศ นิ่ง ๆ ทำใจนิ่ง ๆ นะ ทำใจให้นิ่ง ๆ ว่าง ๆ ให้สบาย ๆ ทีนี้เราลองนึก นึกตามสิ่งที่หลวงพ่อจะแนะนี่นะ ลองนึกเล่น ๆ นะจ๊ะ ลองนึกเล่น ๆ เราลองนึกถึง น้ำที่กลิ้งอยู่บนใบบัว น้ำที่กลิ้งอยู่บนใบบัว รูปร่างมันไม่กลมหรอก มันก็ Free Form แต่ว่ามันใสนะกลิ้งอยู่บนใบบัวนี่เราทดลองนึกเล่น ๆ เพื่อสร้างให้ใจเบิกบาน ให้แช่มชื่น ใบบัวสีเขียว มีน้ำที่ใส ๆ กลิ้งไปกลิ้งมา รูปร่างมันไม่กลมน่ะ มันแบน ๆ ใส ๆ แต่บางอันค่อนข้างกลม 

 

 

                 งั้นเราลองเปลี่ยนไปนึกถึงน้ำค้างที่ปลายยอดหญ้า เราสมมติว่าเราตื่นมาตอนเช้าไปยืนที่สนามหญ้า เห็นน้ำค้างที่ปลายยอดหญ้า สดใส ค่อนข้างกลมทีเดียวนะ เวลากระทบแสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณน่ะ มันมีประกายทีเดียวน่ะ ใส เราลองนึกอยู่ในกลางท้อง ลองดูนะจ๊ะ ทดลองนึกถึงน้ำค้างที่ปลายยอดหญ้า ลองนึกอย่างเบา ๆ สิจ๊ะ ว่าเราจะนึกภาพออกมั้ย ชัดเจนแค่ไหนก็เอาแค่นั้นน่ะ ไม่ต้องไปเค้นภาพหรือพยายามจะให้มันชัดเจน เพราะนี่เรายังไม่ได้ลงมือปฏิบัติจริงจัง เป็นแต่เพียงกำลังทดลอง ลองนึกดูถึงน้ำค้างที่ปลายยอดหญ้า มันใสอย่างไงเนี่ยะ แล้วเราลองเปลี่ยนภาพ นึกถึงฟองน้ำเหมือนกับฝนตกใหม่ ๆ เห็นน้ำเป็นฟอง นึกกตรงกลางท้องนะจ๊ะ กลางกายตรงนั้นก่อน เป็นฟองกลม ๆ มันเกิดขึ้น มันก็กลม บางฟองก็แตกแล้วก็มีฟองใหม่เกิด

 


                ทีนี้เราลองนึกถึงก้อนน้ำแข็ง จะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมก็ได้ แท่งที่รูปร่าง Free Form ก็ได้ รูปร่างยังไงก็ได้นึกถึงความใสของมัน ลองดูนะจ๊ะ นึกถึงความใสของก้อนน้ำแข็งเนี่ยะ บางก้อนสี่เหลี่ยม บางก้อนน้ำแข็งหลอดก็รูปร่างยังไงก็ลองนึกดู บางก้อนก็มีช่องว่าง ๆ ข้างใน แต่ว่ามันใสเนี่ยะ หลวงพ่ออยากให้นึกถึงความใสของมันใสของก้อนน้ำแข็ง มีความใส ใสเย็นอยู่ในกลางกาย ทีนี้เราลองค่อย ๆ เปลี่ยนจากก้อนน้ำแข็งนี้นะจ๊ะ ลองแกะสลักให้เป็นองค์พระดูน่ะ เพราะฉะนั้นองค์พระที่แกะสลักใหม่ๆ มันก็ไม่สวย แต่เราลองนึกถึงพระในอุดมคติของเราซิว่า ถ้าแกะด้วยก้อนน้ำแข็งมันจะมีลักษณะอย่างไร อาจจะเป็นลักษณะเกตุดอกบัวตูม แกะท่านั่งขัดสมาธิองค์ใหญ่ก็ได้ องค์เล็กก็ได้ เพราะนี่เราสมมติเอา ทดลองนึกดูว่า เราพอจะนึกได้ไหมถึงความใส และจินตนาการ ถึงการแกะก้อนน้ำแข็งเป็นองค์พระใส ๆ พระในอุดมคติของเราน่ะ 

 


                องค์ที่สวยที่สุดน่ะจะเกตุดอกบัวตูม ถ้าเรามองจากด้านบนศีรษะท่านลงไปนะ พระเศียรท่านน่ะจะเห็นเกตุดอกบัวตูมน่ะแกะสลักเสลาใส เห็นเศียรท่านเห็นบ่าไหล่ท่าน แขนทั้งสองวางทับบนหน้าตัก ใส สุกใสทีเดียว ก็ใสเหมือนน้ำแข็งอย่างงั้นแหละ ลองนึกขยายท่านให้โตเท่าตัวเรา และในกลางกายท่านมีดวงใส ๆ กลมเหมือนกับฟองแชมพูที่เราเป่าเล่นน่ะ บาง เบา เหมือนฟองแชมพูนะ กลม อยู่ในกลางกายท่าน ลองทำใจให้หยุดนิ่งนะจ๊ะ หยุดนิ่ง หยุดเฉย ๆ อย่างแผ่วเบา อย่างละเอียดอ่อน ไปที่กลางกาย กลางกายตรงนี้นะ หยุดให้นิ่งที่กลางดวงใส ๆ เหมือนฟองแชมพู ที่เป่าเล่นน่ะ บางเบา เหมือนอากาศ ลองค่อย ๆ นึกนะจ๊ะ นึกอย่างสบาย ๆ เนี่ยะ

 


                คราวนี้เราลองนึกให้ต่อเนื่องกัน ทดลองเอาใจหยุด หยุดนิ่งอยู่ที่กลางกายนี้นะ ให้ต่อเนื่อง ให้ภาพนี้ปะติดปะต่อกัน ดวงใสกลางองค์พระ ใสเหมือนน้ำแข็งน่ะ น้ำแข็งใส ๆ เนี่ยะ เราทำใจให้หยุดในหยุด ๆ หยุดนิ่งอย่างแผ่วเบา อย่างละเอียดอ่อนที่กลางกายเรา ในกลางท้องของเรา ในกลางกายเรานะ ในกลางท้องใสบริสุทธิ์ตรงฐานที่ ๗ ฐานที่ ๗ ในกลางท้อง ดวงใส เอาใจนิ่ง หยุดนิ่ง เบา ๆ สบาย ๆ เอาใจหยุดใจนิ่ง สบาย ๆ หยุดนี้สำคัญนะจ๊ะ หยุดนี่แหละเป็นตัวสำเร็จล่ะ หยุดนี้เป็นตัวสำเร็จ จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้นะ เพราะฉะนั้นต้องวางใจให้หยุดนิ่งอย่างแผ่วเบาอย่างสบาย ๆ ที่กลางดวงใส ๆ ในกลางองค์พระนี่ให้หยุดให้นิ่งลองรักษาความนิ่งนี้ไปนะ ให้ต่อเนื่องไปเลยเนี่ยะ ให้หยุดในหยุด ๆ นิ่งในนิ่ง ๆ นิ่งเบา ๆ สบาย ๆ ให้สบาย ๆ ลองฝึกดูนะจ๊ะ ลองพยายามทําดู ๆ

 


                หยุดตรงนี้สำคัญ หยุดตรงนี้ เป็นตัวที่จะทำให้ใจเราเข้าถึงความสุขภายใน อย่างละเอียดอ่อน ใจหยุดนิ่ง ๆ ตรงเนี้ยะ ถ้าหากเราปรับได้พอดี ๆ สบาย ๆ เราจะเริ่มรู้สึกว่า ร่างกายเราไม่มีตัวตน เราจะเริ่มหายไป รู้สึกมันเบาสบาย ถ้าหยุดได้สนิท เดี๋ยวเราจะเห็นดวงที่อยู่ตรงกลางกายน่ะ ใสเหมือนกับเพชรน่ะ ใสเป็นเพชรไปเลยน่ะ ใสบริสุทธิ์ ใสในใส ใสในใส ใสบริสุทธิ์อยู่ในกลางกาย ใสเป็นเพชรเลย นี่ถ้าหยุดเป็นนะ ถ้าหยุดอย่างเบา ๆ สบาย ๆ เนี่ยะ เดี๋ยวเห็นดวงใสเลย บังเกิดขึ้นมาตรงกลาง และร่างกายเราจะมีความรู้สึกว่าฟ่องเบา เหมือนขนนกที่ลอยไปในอากาศน่ะ จะเบาสบาย ใจขยาย มีความรู้สึกว่าเบิกบานแช่มชื่น 

 


                ดวงก็ใสสว่าง สว่างมาก ตั้งแต่สว่างเหมือนหลอดนีออน เหมือนสปอร์ทไลท์ สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ ตอนเช้า ตอนสายมั่ง กระทั่งถึงตอนเที่ยงวันเป็นความสว่างที่แตกต่างจากแสงสว่างภายนอกที่เราเคยเห็น ความสว่างที่เย็นตาเย็นใจ ที่ชุ่มชื่นใจ เนี่ยะความสว่างนี้ก็จะเกิดขึ้นพร้อมกับความใส ถ้าใจเราหยุดนิ่งดีนะ เราจะเห็นอย่างนี้แหละ มันจะใสขึ้น มันจะสว่างขึ้นตรงกลางเลย กลางกายของเรามันจะใสบริสุทธิ์ ใสบริสุทธิ์ ใสเหมือนน้ำ ใสเหมือนกระจก ใสเหมือนก้อนน้ำแข็งใส ๆ ใสเหมือนกับเพชร ใสเหมือนกับอากาศที่มีมวลหนาแน่นใสบางเบาทีเดียว แล้วเราจะมีความรู้สึกว่าเราพอใจ ชอบใจกับอารมณ์นี้ทีเดียว เป็นความอัศจรรย์ครั้งแรกที่เกิดขึ้นจากใจหยุดนิ่ง 

 


                พอถูกส่วนเข้า เดี๋ยวดวงใสนั้นขยายกว้างออกไปน่ะ มันจะขยายกว้างออกไปเลย ขยายไปโดยเรามีตัวของเราเป็นจุดศูนย์กลาง ศูนย์กลาง แล้วดวงนั้นขยายไปทุกทิศทุกทางรอบตัวเลย รอบทิศ ไม่เหมือนกับโยนก้อนหินลงไปในน้ำ นั่นเป็นวงเท่านั้น แต่นี่มันขยายไป โดยเราเป็นศูนย์กลางของดวงใส ๆ ซึ่งต่อจากนี้ไปเราจะเรียกว่า "ดวงธรรม" เพราะว่ามันละเอียดกว่าดวงแก้วภายนอก แต่ว่ากลมเหมือนดวงแก้ว บางทีเราเรียกติดปาก เราอาจจะเรียกว่าเราเห็นดวงแก้วภายใน แต่ความจริงแล้วมันคือ ดวงธรรมที่ใสบริสุทธิ์ เมื่อขยายออกไปก็จะมีดวงธรรมดวงใหม่เกิดขึ้นมาแทนที่ เป็นดวงใสบริสุทธิ์กว่าเดิม ใสเกินใสทีเดียว ไม่ทราบว่าจะไปเทียบกับอะไรน่ะ

 


                เหมือนหลวงพ่อถามเด็กอายุได้ ๑๑ ขวบ ว่าหนูเห็นดวงเนี่ยะใส ใสเหมือนเพชร ได้มั้ย เด็กก็อึกอักไม่รู้จะตอบยังไง ต้องถามไปถามมา เด็กก็บอกว่า มันใสกว่านั้นครับหลวงพ่อ ผมไม่รู้ว่าจะเรียกว่ามันใสยังไง มันไม่เหมือนเพชรน่ะ คือมันใสมากกว่านั้นเข้าไปอีก นั่นเด็กตอบจากประสบการณ์น่ะ เมื่อเข้าถึงตอนใจหยุดนิ่ง มันจะใสเกินใสทีเดียว จนไม่ทราบว่าจะไปเทียบกับอะไร เพราะว่ามันไม่มีตัวอย่างในโลกเนี่ยะ ใสอย่างนี้นะ ให้ใสบริสุทธิ์ สว่างอยู่ในกลางนั้นใจเราก็ต้องหยุดอย่างเดิม ไม่ต้องไปเค้นภาพ อย่าลุ้น อย่าเร่ง อย่าเพ่ง อย่าจ้อง ให้หยุดนิ่ง มองเฉย ๆ ใช้วิธีการอย่างเนี้ยะตลอดไปเลย ด้วยวิธีการหยุดนิ่งเฉย 

 


                ไม่ลุ้น ไม่เร่ง ไม่เพ่ง ไม่จ้อง มองเฉย ๆ สบาย ๆ ใจก็จะค่อยๆ ละเอียดดื่มด่ำลงไปอีก จะเห็นดวงธรรมต่าง ๆ ผุดเกิดขึ้นทีละดวง ๆ ผุดเกิดขึ้นมาเลย ในกลางนั้น แต่เป็นการเกิดขึ้นเหมือนกันกับเป็นมิติที่ซ้อนมิติ เป็นความละเอียดที่ซ้อนอยู่ในความหยาบ เนี่ยะความละเอียดที่ซ้อนอยู่ในกลางความหยาบ ซ้อน ๆ ๆ กันเข้าไปนะ น่ะใสบริสุทธิ์ทีเดียว ใสเกินใส สวยเกินสวยเนี่ยะ ใสมาก พอสุดดวงที่ ๖ เราก็จะไปพบกายตัวของเราเองนั่งขัดสมาธิอยู่ในกลางนั้น ตอนขึ้นมาใหม่ ๆ มันยังไม่ชัดเจน เห็นศีรษะขึ้นมาเลยแหละ หันหน้าออกไปทางเดียวกับเรา นั่งขัดสมาธิศีรษะโผล่ขึ้นมาก่อนเลย เราทำใจหยุดนิ่งเฉย ๆ ไม่ต้องคิดอะไร หยุดเฉย ๆ ดูเฉย ๆ ไม่ไปลุ้นมัน ไม่ไปเค้นภาพ ไม่พยายามทำให้มันชัด ทำแค่หยุด นิ่ง เฉย ๆ เท่านั้นน่ะ

 


                พอถูกส่วนภาพนี้ก็เกิดขึ้นชัดขึ้นมาเองเลย เราก็ดูไปเฉย ๆ เห็นแล้วก็ไม่ลิงโลดใจ ไม่ตื่นเต้นกับมัน ให้ทำตัวประดุจผู้เจนโลก มองเห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในกลางนี้ ด้วยใจที่เป็นปกติ ไม่ลิงโลดใจไม่ตื่นเต้น เมื่อภาพนั้นยังไม่ชัดเจน ก็ไม่เสียใจ ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรทั้งสิ้น ให้วางนิ่งเฉย ๆ หยุดนิ่งเฉย ๆ พอถูกส่วน ภาพนี้ชัดขึ้น ชัดขึ้น ชัดขึ้นจนกระทั่งเห็นตัวเองชัดทีเดียว ชัดใสยิ่งกว่าเราส่องกระจก เห็นภาพเราในกระจกเงาน่ะ มันจะชัดยิ่งกว่านั้น มันจะชัดมากเลย เมื่อใจเราหยุดนิ่งละเอียดถูกส่วน เราจะถูกดูด ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายมนุษย์ละเอียดข้างในตัวของเราเอง กายนี้เรียกกายมนุษย์ละเอียดนะจ๊ะ เรียกว่ากายมนุษย์ละเอียด หน้าตาเหมือนกับตัวของเราเลย แต่ว่าสดชื่นกว่า บริสุทธิ์กว่า ผ่องใสกว่า สวยงามกว่า เกลี้ยงเกลากว่ากายหยาบเยอะทีเดียว ใสบริสุทธิ์ นิ่งอยู่ในกลางกาย 

 


                เมื่อเราเป็นอันหนึ่งกับกายนี้ เราจะมีความรู้สึกว่า เราเป็นกายนี้จริง ๆ เลย เป็นกายนี้ที่มีชีวิตจิตใจจริง ๆ ตอนนี้กายหยาบของเราหายไปหมดแล้วนะจ๊ะ เหลือแต่กายละเอียดอยู่ข้างใน นิ่ง เราเป็นกายนั้นแล้ว สิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปคือ เอาใจของกายนั้นน่ะ ซึ่งเป็นอันเดียวกับเราแล้วตอนนี้ หยุดลงไปตรงกลางกายฐานที่ ๗ ต่อไป เนี่ยะกลางกาย หยุดในกลางกาย กายนั้นนะ หยุดนิ่งให้สนิททีเดียวนะ หยุดในหยุด ๆ ๆ หยุดนิ่งให้ถูกส่วนทีเดียวหยุดในหยุด ๆ หยุดนิ่งให้ถูกส่วนทีเดียว พอถูกส่วนเข้าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในทำนองเดียวกัน 

 


                กายมนุษย์ละเอียดจะขยายกว้างออกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเราลืมไปเลยว่ามีกายมนุษย์ละเอียด และคราวนี้ใจของเราก็จะเข้าไปรวมอยู่กับดวงธรรมซึ่งเกิดขึ้นในกลางกายมนุษย์ละเอียดนั้น เป็นอันเดียวกันเลย ใสบริสุทธิ์ ฟ่องเบานุ่มนวล ตอนเนี้ยะลูก ๆ หลวงพ่อเนี่ยะกำลังโปร่งเบาสบายกันหลายท่านที่เดียวเนี่ยะ กำลังใสบริสุทธิ์และมีความพอใจที่จะทำอย่างนี้ มีความปลื้มทีเดียว ดีอกดีใจน่ะ ให้ระงับความลิงโลดใจไว้นะจ๊ะ ให้นิ่งต่อไป ให้นั่งหน้ายิ้ม ๆ อย่างนั้นแหละ ยิ้มในใจอย่างงั้นแหละ หยุดนิ่งต่อไปเลย หยุดต่อไปอีก หยุดในหยุด หยุดเฉย ๆ นิ่งไม่ต้องท่องตามนะ มันหยุดเอง หยุดโดยไม่ต้องมีคำท่องว่าหยุดในหยุดน่ะ หยุดติดสนิทนิ่ง เบา ๆ สบาย 

 


                อย่าลืมนะจ๊ะว่าเราจะไม่เห็นภาพ เราจะไม่ใช้ความพยายามในการลุ้น ในการเร่ง เราจะไม่ไปเพ่ง แล้วเราจะไม่จ้อง แต่เราจะหยุดนิ่งมองเฉย ๆ สบาย ๆ อย่าลืมคำนี้นะ นี่เป็นสูตรสำเร็จ เป็นสูตรชีวิตทีเดียว เพราะหยุดคือตัวทำให้สำเร็จ หยุดคือตัวสำเร็จทีเดียว หยุดนี้แหละหยุดตรงนี้นะ หยุดนิ่ง แต่ต้องแผ่วเบา และละเอียดอ่อน อย่าหยุดกด ๆ ถ้าหยุดกด ๆ เนี่ยะเราจะมีความรู้สึกว่ามันไม่ไปไหน มันตันน่ะ ทั้ง ๆ ที่สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ไม่มีอะไรตัน แต่ถ้าหยุด หยุดกด ๆ นี่ต้น ต้นได้ มันต้องหยุดนิ่ง อย่างละเอียดอ่อนและแผ่วเบา ทำดูนะจ๊ะ วันนี้เราจะเรียนชั้นอนุบาลเนี่ยะ ไปอย่างนี้ก่อน ไปอย่างง่าย ๆ ไม่พูดถึงพิธีรีตองอะไรต่าง ๆ น่ะ เอาหยุดกับนิ่งให้ได้ตรงนี้ เพราะว่าปีนี้ หลวงพ่ออยากจะตั้งให้เป็นปีแห่งการหยุดนิ่ง 

 


                เพราะหยุดคือทุกสิ่ง หยุดคือตัวสำเร็จ ทั้งทางโลกและทางธรรม ความสำเร็จจะเกิดขึ้นทั้งทางโลกและทางธรรม จะต้องเริ่มต้นจากหยุดนิ่งตรงนี้นะ พระพุทธเจ้าของเราเนี่ยะ ท่านก็หยุดอย่างนี้แหละ ท่านไม่ได้ทำอะไรเลย หยุดนิ่งอย่างละเอียดอ่อน แผ่วเบา นุ่มนวล หยุดอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างสบาย ๆ ซึ่งวิธีการที่จะเข้าถึงมรรคผลนิพพานนะ หรือพูดย่อ ๆ คือจะถึงธรรมกาย หรือย่อกว่านั้น คือจะถึงดวงธรรมภายใน หรือความสุขที่แท้จริงนั้นน่ะ มันกลับตาลปัดกับวิธีการของทางโลก เพราะฉะนั้นอย่าไปใช้วิธีการของทางโลกนะจ๊ะ 

 


                ทางโลกถ้าจะไปให้ถึงที่หมายเร็ว ๆ เนี่ยะ เราต้องเหยียบคันเร่ง ปล่อยกันให้เต็มที่เลย รถถึงจะไปถึงที่หมายโดยปลอดภัย แต่ในทางธรรมนะจ๊ะมันกลับตาลปัด เราต้องเหยียบเบรคด้วยเท้า และดึงเบรคมือด้วยน่ะ ทั้งมือทั้งเท้าเลยต้องนิ่งสนิท นี่กลับตาลปัดอย่างนี้ เพราะฉะนั้นมันจะยุ่งยากในตอนแรก สําหรับลูก ๆ หลาย ๆ ท่านที่ยังไม่เข้าใจ เพราะว่าคุ้นเคยกับทางโลก พอจะมาใช้วิธีอย่างนั้นแล้ว อดลุ้นไม่ได้ อดเค้นไม่ได้ อดพยายามไม่ได้ จนกระทั่งมีอยู่ท่าน ท่านผู้ใหญ่อยู่ท่านหนึ่งได้พูดกับหลวงพ่อ เล่าให้หลวงพ่อฟัง ตอนหลวงพ่อเช็คประสบการณ์น่ะ หลวงพ่อยังนั่งขำท่านอยู่ ท่านพูดอย่างนี้ 

 


                ท่านบอกว่าผมนี่ทำอะไรสำเร็จทุกอย่างเลยเนี่ยะ ในโลกนี้ก็ได้ ออกไปนอกโลกผมก็ทำได้ แล้วผมก็ทำมาแล้วแต่ผมโมโหจริง ๆ เลย ผมทำอย่างนี้ไม่ได้น่ะ ทำหยุดนิ่งไม่ได้น่ะ หลวงพ่อก็บอกท่านไปว่า หยุดนิ่งนี่ง่ายนะ โยมหยุดนิ่งนี่ง่าย ท่านก็สวนขึ้นมาเลยบอก ยากครับหลวงพ่อ ผมว่ายาก นั่นเพราะว่าท่านคุ้นเคยกับสิ่งที่หยาบ ๆ แบบเหยียบคันเร่งรถ แต่ต่อมาเมื่อท่านได้ใช้ความพยายาม ตามหลักการที่หลวงพ่อแนะ คือให้หยุดนิ่งเฉย ๆ อย่างสบาย ๆ ทำต่อไปด้วยวิธีการนี้ เปลี่ยนวิธีการใหม่ แล้วในที่สุดท่านก็สมปรารถนา เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ภายใน มีความเบิกบาน 

 


                เพราะฉะนั้นปีนี้เป็นปีแห่งการหยุด นิ่ง เพราะฉะนั้นให้ลูกชายหญิงทุกคนต้องให้หยุดนิ่งให้ได้ เพื่อเข้าถึงสิ่งอันประเสริฐที่สุดที่จะทำให้ชีวิตของเราเข้าถึงความเต็มเปี่ยมของชีวิต คือการเข้าถึงพระรัตนตรัยหรือเข้าถึงธรรมกายภายในได้อย่างสะดวกสบายเลย จะต้องให้หยุด ให้นิ่ง ให้ใสบริสุทธิ์ หยุดอย่างนี้ไปเรื่อยเลย เดี๋ยวพอถูกส่วนเราจะเห็นกายต่าง ๆ และกายสุดท้าย จะเป็นองค์พระธรรมกายใสบริสุทธิ์ งามไม่มีที่ติ เกตุดอกบัวตูม นั่งขัดสมาธิ หันหน้าออกไปทางเดียวกับเรา นั่นเราจะเข้าถึงนะ 

 


                ที่หลวงพ่อใช้คำว่าเข้าถึงก็เพราะว่า ธรรมกายเนี่ยะท่านมีอยู่แล้วในตัวของเรา เป็นกายตรัสรู้ธรรม เป็นกายที่จะทำให้เรารู้แจ้ง เห็นแจ้ง แทงตลอดในสรรพสัตว์สรรพสิ่งในธรรมทั้งปวง เนี่ยะมีอยู่แล้ว ไม่ใช่ไปมีใครไปทำให้มันเกิดขึ้น มันมีอยู่แล้ว แต่ว่าเป็นของละเอียดซ้อนอยู่ในกลางกายที่หยาบกว่า เป็นกายที่ใสบริสุทธิ์ เมื่อเราเอาใจของเราหยุดนิ่งถูกส่วนเข้า ความละเอียดของเราเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งละเอียดเท่ากับพระธรรมกาย เมื่อละเอียดเท่ากัน เราก็เห็นท่านได้ คือขั้นแรกเราก็จะเห็นท่านผุดขึ้นมาในกลางนั้นน่ะ พระเศียรท่านมาก่อนเลยน่ะ เกตุดอกบัวตูมพระเศียรท่าน แล้วก็เห็นทั้งองค์ท่านลงมาเลย และในที่สุดก็เห็นท่านชัดเจนขึ้น 

 


                เมื่อเราหยุดนิ่งมากขึ้น แล้วก็ใสบริสุทธิ์ สว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน ใหม่ ๆ ก็สว่างไม่มาก แต่ต่อ ๆ ไปก็จะสว่างเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง ยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน ตอนแรกขึ้นมาก็องค์เล็ก ๆ แต่ต่อไปก็องค์ใหญ่ขึ้น กระทั่งเท่าตัวเรา กระทั่งใหญ่กว่าตัวเรา และใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ เลย ไม่มีขอบเขต ใหญ่เท่าไหร่ก็ได้ เกิดขึ้นใสบริสุทธิ์ นี่แหละเข้าถึงอย่างนี้นะ เข้าถึงเพราะว่าใจเราละเอียดเท่ากับท่าน และก็กลืนกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเลย ตอนนี้ทำใจให้ละเอียดก่อน ให้ใสบริสุทธิ์ให้ทุกคนลูก ๆ ชายหญิง ทั้งในและต่างประเทศเนี่ยะ ให้หยุดนิ่ง ให้ใจใสบริสุทธิ์ หยุดนิ่งให้เป็นนะ

 


                หยุดให้เป็นอย่างแผ่วเบาและละเอียดอ่อน นิ่งนะ นิ่งอย่างสบาย ๆ อย่าลืมนะจ๊ะ อย่าลืม ให้นิ่ง ๆ ให้ใจใสใจบริสุทธิ์ทีเดียว ใจของเราก็ยังอยู่ที่ตรงกลาง อย่าให้คลาดเคลื่อนนะ พยายามฝึกเอาไว้นะจ๊ะ ให้ชำนาญ ทั้งหลับตา ลืมตา ทั้งนั่ง ทั้งนอน ทั้งยืน ทั้งเดิน ให้ใจตรึกอยู่ที่ศูนย์กลางกาย เพราะว่าหยุดให้ถูกส่วนที่ศูนย์กลางกายตรงนี้ ถูกทางไปสู่อายตนนิพพาน เป็นทางที่พระพุทธเจ้า พระอรหัต อรหันต์ทั้งหลายท่านเสด็จเข้าสู่อายตนนิพพานด้วยหนทางสายกลางตรงนี้นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นใจของเราต้องหยุดอยู่ตรงนี้น่ะ 

 


                หยุดให้ถูกส่วน จะหยุดให้ถูกส่วนต้องหยุดอย่างแผ่วเบา ละเอียดอ่อน อย่าให้ตึงเกินไป ที่เรียกว่าหยุดกด ๆ หรืออย่าให้หย่อนเกินไป กระทั่งเคลิ้มหลับไปเลยอย่างนั้น ไม่ใช่นะจ๊ะ ถ้าหยุดได้ถูกส่วนพอดี ๆ มันจะสบาย มันจะโล่ง มันจะโปร่ง มันจะเบา มันจะสบายน่ะ ตรงนั้นแหละพอดี ให้รักษาอารมณ์สบาย ๆ นั้นน่ะ ให้ต่อเนื่องกันไป ให้สม่ำเสมอ อย่าให้ขาดตอนนะ ตรงนี้สำคัญนะจ๊ะ เป็นหัวใจทีเดียวนะ ให้หยุดนิ่งให้ถูกส่วน อย่างสบาย ๆ อย่างละเอียดอ่อน และแผ่วเบา หยุดให้ดีนะ หยุดนี้เป็นตัวสำเร็จนะ อย่างที่กล่าวไว้แล้วน่ะ 

 


                หยุดคือตัวสำเร็จ หยุดนี่ ถอดออกมาจากคำสอนของพระบรมศาสดานะ ที่ทรงให้นัยยะอย่างสำคัญแก่พระองคุลีมาลทีเดียว เนี่ยะหยุดตรงนี้นะ สมณะหยุดแล้วน่ะ แต่หยุดในความหมายของพระพุทธเจ้าแตกต่างจากหยุดในความหมายของชาวโลก หยุดในความหมายของชาวโลก หมายถึงว่าจะต้องไม่เคลื่อนไหวร่างกาย แต่หยุดในความหมายของพระพุทธเจ้านั้น แม้ร่างกายเคลื่อนไหวแต่ใจนั้นหยุดนิ่งอยู่ภายใน หยุดติดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทีเดียว ราวกับว่าศูนย์กลางกายตรงนี้น่ะเป็นอวัยวะส่วนหนึ่ง คล้าย ๆ นิ้ว เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายทีเดียว ติดกับมืออย่างนั้นน่ะ ใจจะติดอยู่ที่ตรงนั้น เป็นอันเดียวเลย ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระอรหันต์ทั้งหลายท่านติดอยู่ในกลางนี้ 

 


                กลางกายพระอรหัตหน้าตัก ๒๐ วาน่ะ สูง ๒๐ วา ใจติดเป็นอันเดียวกันตลอด ตลอดเวลาเลย ท่านติดอยู่ตรงนั้นน่ะ ถ้าหากว่าพระอนาคามีที่หย่อนลงมา ใจท่านก็ติดอยู่ที่กลางของพระอนาคามี ถ้าหย่อนกว่านั้นเป็นพระสกิทาคามี ใจท่านก็ติดอยู่ที่กลางกายธรรมพระสกิทาคามี หน้าตัก ๑๐ วาน่ะ ถ้าเป็นพระโสดาบัน ใจท่านก็ติดอยู่ที่กลางกายธรรมของพระโสดาบัน ถ้าเป็นโคตรภูบุคคล ใจท่านก็ติดอยู่ที่กลางกายธรรมโคตรภูหน้าตักหย่อนกว่า ๕ วา นั่นติดลงมาอย่างนั้นตามลำดับเลย ถ้าเป็นฌานลาภีบุคคล ก็ติดตั้งแต่กายอรูปพรหม กายรูปพรหม ติดเรื่อยมาเลย กายทิพย์ กายมนุษย์ละเอียด นั่นฌานลาภีบุคคล ถ้ากัลยาณปุถุชน ใจ ก็ติดอยู่ตรงกลางกายเห็นดวงใส เห็นหนทางไปสู่อายตนนิพพาน ติดกันอย่างนี้แหละ ใจต้องติดอย่างนี้นะ 

 


                ใครเข้าถึงดวงปฐมมรรค เห็นดวงใสบริสุทธิ์ เกิดขึ้นที่กลางกาย อย่างเล็กขนาดดวงดาวในอากาศ อย่างกลางขนาดพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ อย่างใหญ่ขนาดพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน ใครเห็นอย่างนี้ก็เอาใจหยุดไปที่กลางดวงปฐมมรรคนะจ๊ะ ใครเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียด ก็เอาใจหยุดไปที่กลางกายมนุษย์ละเอียด ตรงฐานที่ ๗ ใครเข้าถึงกายทิพย์ เอาใจหยุดไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของกายทิพย์ ใครที่เข้าถึงกายรูปพรหมก็เอาใจหยุดไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของกายรูปพรหม ใครเข้าถึงกายอรูปพรหม ก็เอาใจหยุดไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของกายอรูปพรหม ใครที่เข้าถึงกายธรรม ก็เอาใจหยุดไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของกายธรรม หยุดให้สนิทนะจ๊ะ หยุดอย่างแผ่วเบา ละเอียดอ่อน ฝึกทำให้ได้เดี๋ยวนี้เลย ทุกคน

 


                ให้หยุดในหยุด ๆ ไม่ต้องท่องนะ ให้หยุดคือทำให้มันหยุดได้อย่างที่หลวงพ่อบอกนำน่ะ ให้หยุดอย่างแผ่วเบา ละเอียดอ่อน สำคัญตรงนี้นะ ไม่เค้นภาพ ไม่ลุ้น ไม่เร่ง ไม่เพ่ง ไม่จ้อง หยุดนิ่งเฉย สบาย ๆ อย่าลืมคำนี้แล้วก็ใจเย็น ๆ ใจเย็น ๆ อย่าไปหงุดหงิด ในกรณีหยุดแล้วไม่เห็นภาพอะไรเกิดก็อย่าไปรำคาญ อย่าไปหงุดหงิดเดี๋ยวจิตมันหยาบ เราต้องหยุดอย่างนั้นเฉย ๆ นิ่ง ๆ แม้ว่ามันจะมืด ก็หยุดนิ่งที่ตรงเนี้ยะ กลางความมืด เดี๋ยวมันสว่างเอง หรือเมื่อมันสว่างขึ้นแล้วก็ยังต้องหยุดนิ่งต่อไปอีก หยุดอย่างนี้เรื่อยไปเลย ตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งถึงกายธรรมอรหัต หยุดนิ่งสนิทอย่างนั้น คราวนี้หยุดให้ดีนะ หยุดให้ใสบริสุทธิ์ทีเดียว หยุดนิ่งให้ข้างในกลางกายนี้กลวงไปเลยเนี่ยะ เป็นท่อกลวงเหมือนบ่อไม่มีก้นเลย กลวงใส สบาย

 


                ถ้าใครเข้าถึงแล้วเราจะปลื้มใจทีเดียวนะ มีความสุขอย่างยิ่งเลย ไอ้ที่ปลื้มใจคือ นึกไม่ถึงเลยว่าคนอย่างเราเนี่ยะจะเข้าถึงธรรมอันประเสริฐได้ ซึ่งแต่ก่อนเราคิดว่า ธรรมอันประเสริฐนี้เป็นของละเอียดลึกซึ้ง ยากต่อการเข้าถึง ต้องลำบาก ๆ ต้องยาก ๆ ถึงจะเข้าถึง แต่ว่าเมื่อเรามาพบวิธีการใหม่ คือหยุดใจให้เป็นอย่างละเอียดอ่อนและสบาย เราจะเข้าถึงอย่างง่าย ๆ เมื่อเข้าถึงแล้วก็ปลื้มใจ สุขใจทีเดียว เห็นคุณค่าของตัวเองทีเดียว ตัวเองจะมีคุณค่าทีเดียว รู้สึกปลื้มใจ ดีใจ ภาคภูมิใจเนี่ยะ เพราะฉะนั้นหยุดนี้จึงสำคัญนะ หยุดเนี่ยะเป็นตัวสำเร็จ หยุดให้สนิท ให้นิ่งเบา ๆ อย่างละเอียดอ่อนในอายตนนิพพาน เป็นที่โล่งว่าง ๆ เหมือนอวกาศ โล่ง ๆ ไม่มีอะไรกำบังเลย เป็นที่โล่งว่าง มีแต่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้าเรียงกันเป็นระเบียบ สวยงามมาก สว่างด้วยธรรมรังสีที่ออกจากธรรมกายของ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ สว่าง ใสบริสุทธิ์ทีเดียว สว่างมาก 

 


                คุณยายก็น้อมกราบขอบุญบารมี รัศมี กำลังฤทธิ์ อำนาจสิทธิของพระพุทธเจ้าในอายตนนิพพาน นับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน ให้กระแสธารแห่งบุญนี้ถึงแก่ลูก ๆ ชายหญิงทุกคน ทั้งภายในและต่างประเทศ เนื่องจากปีนี้เป็นปีแห่งการหยุดนิ่ง ขอให้กระแสธารแห่งบุญนี้ ดลบันดาลให้ลูกชายหญิงทุกคนเข้าถึงความหยุดนิ่งภายใน ทะลุปรุโปร่งในวิชชาธรรมกาย ถึงความสุขที่แท้จริง ความเต็มเปี่ยมของชีวิต ความเบิกบาน ความสำเร็จทั้งมวล ความมีสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ สำเร็จในธุรกิจการงานทั้งหลาย ถึงฐานะแห่งความเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ ให้มีสายสมบัติเกิดขึ้นดึงดูดทรัพย์สินหยาบ ให้ไหลมาเทมาทุกทิศทุกทาง ให้ดึงดูดเหตุการณ์ที่ดี ๆ คนดี ๆ สมบัติดี ๆ เข้ามาหาอย่างอัศจรรย์ทันตาเห็น 

 


                ให้เข้าถึงฐานะแห่งความเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ ประดุจอนาถบิณฑิกเศรษฐี และมหาอุบาสิกาวิสาขา ซึ่งมีทรัพย์แล้วก็ได้ใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ชาติ สนับสนุนการขยายวิชชาธรรมกาย เผยแผ่คำสอนของพระบรมศาสดา ของพระพุทธเจ้า ให้เป็นที่พึ่งแก่มวลมนุษย์ชาติ ให้ลูกชายหญิงทุกคน เข้าถึงฐานะอย่างนี้ ไม่ว่าจะอยู่ภายในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม ที่เป็นนักศึกษา ก็ให้มีดวงปัญญาอันเลิศ แทงตลอดในการศึกษาของครูบาอาจารย์ เข้าถึงความเป็นบัณฑิตเป็นนักปราชญ์ สำเร็จปริญญาตรี โท เอกอย่างอัศจรรย์ ท่านที่รับราชการ ก็ขอให้ปฏิบัติภารกิจได้สะดวก สมบูรณ์ มีฐานะตำแหน่งไปให้สูงที่สุด ให้ตำแหน่งนี้มีไว้สำหรับสร้างบารมี สร้างคุณงามความดี ให้ใจของลูก ๆ ทุก ๆ คน เป็นใจที่ตั้งอยู่ในกลางบุญกุศล นำมาซึ่งความสำเร็จทั้งปวงที่ได้ปรารถนาเอาไว้ คิดอะไรก็ให้สมความปรารถนา อย่างอัศจรรย์ทันตาเห็น ให้หลับเป็นสุข ให้ตื่นเป็นสุข ให้นั่งนอน ยืน เดิน เป็นสุข

 


                คุณยายขอบุญบารมี ขอศีล ขอพรอันศักดิ์สิทธิ์ให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ ให้ท่อธารแห่งบุญไหลเกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกาย ติดที่ศูนย์กลางกำเนิดตรงฐานที่ ๗ เป็นดวงใสบริสุทธิ์ สว่างอยู่ในกลางกาย เป็นความสว่างที่ไม่มีประมาณ ยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวันหลาย ๆ ดวง และขยายเบ่งบานความสุขสดชื่นไปทั่วทุกขุมทุกขน ขยายไปให้ทั่วถึงให้หมดเลยเนี่ยะ ลูก ๆ ชายหญิงทุกคนก็เอาใจหยุดนิ่ง และก็อธิษฐานจิต ตามใจชอบให้ดีนะจ๊ะ อธิษฐานใจของเราที่กลางของกลางความบริสุทธิ์ กลางของกลางรัศมีของบุญที่เกิดขึ้นเป็นดวงสว่างในกลางกายนะจ๊ะ ให้เอาใจหยุดนิ่ง ให้ใจใส ใจสบาย ใจเบิกบาน ใจใส ใจสบาย ใจเบิกบาน ลูก ๆ ที่อยู่ที่ลอสแองเจอรีส ก็ดี เบิร์กเลย์ นิวเจอร์ซี เพนซิลวาเนีย ที่แคมป้า ที่แวนคูเวอร์ ไทเป โตเกียว และก็เกียวโตทั้งหมด คุณยายคุมบุญให้ดีเลย 

 


                เพราะว่าอยู่ห่างไกล จะต้องให้ประสบความสำเร็จในการศึกษา และธุรกิจการงานทั้งปวง ให้ได้เป็นอัศจรรย์ส่วนลูก ๆ อยู่ภายในที่ใกล้ชิดกับหลวงพ่อกับหมู่คณะกับคุณยาย นี่ก็ให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ ช่วยกันนำความเจริญรุ่งเรืองให้บังเกิดขึ้นแก่พระพุทธศาสนา ช่วยปกป้องผองภัยที่จะบังเกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา และปฏิบัติธรรมะก็ให้เข้าถึงธรรม ประกอบธุรกิจการงานก็ให้เป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญน่ะ คุณยายซ้อนให้สำเร็จและเก็บอุปสรรคทั้งมวลที่เกิดขึ้น จากงานก็ดี จากตัวเองก็ดี จากคนก็ดี หรือจากสถานการณ์ต่าง ๆ ก็ดี ให้ละลายหายสูญไปให้หมดและอาราธนาพระธรรมกายพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ให้ปกปักรักษาทุกคน ให้อยู่เย็นเป็นสุข ทั้งครอบครัวธรรมกาย 

 

 

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.00172438621521 Mins