ผรุสวาจา (พูดคำหยาบ)

วันที่ 02 กย. พ.ศ.2558

 

ผรุสวาจา (พูดคำหยาบ)

            เจตนาแผ่ไปเผาผลาญจิตของผู้ฟัง ชื่อว่า ผรุสวาจา เจตนาเป็นเหตุประทุษร้าย ก่อให้เกิดความพยายามทางกายและทางวาจา อันเป็นเหตุทำลายไมตรีของผู้อื่น ชื่อว่า ผรุสวาจา อีกอย่างหนึ่ง เจตนาในการพูดเพื่อมุ่งทำลายจิตใจของผู้ฟัง ชื่อว่า ผรุสวาจา8)

 

กรณีศึกษาในเรื่องของกรรมผรุสวาจา

กรณีศึกษาที่ 1 (วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2547) หญิงคนหนึ่งเป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้โมโห และมีสุขภาพไม่ดี มีโรคประจำตัว คือ โรคความดันและมีอาการคันทั้งตัวที่เกิดจากการให้ยาผิดของลูกน้องหมอ ซึ่งอาการคันนี้ภายหลังได้กลายเป็นแผลพุพอง มีลักษณะคล้ายถูกน้ำร้อนลวก ทำให้ปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว

สาเหตุที่หญิงผู้นี้มีสุขภาพไม่ดีเป็นโรคความดันและมีอาการคันจนกลายเป็นแผลพุพอง เพราะกรรมในอดีตชาติเวลาโกรธมักจะด่าว่าให้เจ็บใจทั้งต่อหน้าและลับหลัง ส่วนสาเหตุที่ทำให้ปวดแสบปวดร้อนคล้ายน้ำร้อนลวก เพราะกรรมในอดีตชาติเคยต้มสัตว์ทั้งเป็น เพื่อความอร่อยในการทำอาหาร

 

กรณีศึกษาที่ 2 (วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2548) หญิงคนหนึ่งมีสามีชอบดื่มเหล้า จนบางครั้งเธอกับลูกต้องช่วยกันเชือดคอไก่ เพื่อทำกับแกล้ม และต้องเก็บ กวาด ล้าง ทำความสะอาด กระทั่งค่อนรุ่งกว่าจะได้นอน จึงทำให้ไม่แข็งแรง หัวใจโต และปวดหูมากตลอดเวลาจนนอนไม่หลับ

สาเหตุที่หญิงผู้นี้มีสุขภาพไม่แข็งแรง หัวใจโต เพราะกรรมในอดีตชาติได้ฆ่าสัตว์ทำอาหาร ประกอบกับกรรมในปัจจุบันก็ได้ฆ่าสัตว์ทำอาหาร ส่วนที่ปวดหูและนอนไม่หลับ เพราะกรรมในอดีตชาติชอบด่าว่าด้วยคำหยาบ ประกอบกับกรรมในอดีตชาติที่ตบบ้องหูของหลาน

 

กรณีศึกษาที่ 3 (วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2547) หญิงคนหนึ่งเริ่มล้มป่วยด้วยอาการเป็นไข้ เจ็บตามเนื้อตามตัว เมื่อเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล หมอก็หาสาเหตุของโรคไม่ได้ จึงต้องตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพื่อหาสาเหตุของโรค แล้วสรุปว่าเป็นเส้นเลือดอักเสบ ช่วงนั้นใบหน้าเริ่มบวมและเป็นหนักขึ้นทุกวัน คุณพ่อของเธอจึงไปหาหลวงปู่องค์หนึ่ง ทำให้อาการดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่หายต้องกินยาตลอด ถ้าไม่กินจะเป็นไข้ เหนื่อย ตัวร้อน แล้วอยู่ๆ ร่างกายเกิดอาการผิดปกติ มารู้ภายหลังว่า ยาที่หมอให้กินตอนช่วงป่วยหนักนั้น มีฮอร์โมนเพศชายอยู่ด้วย เพราะร่างกายค่อยๆ เปลี่ยนเป็นผู้ชาย ใบหน้าใหญ่ขึ้น คางค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น ตาค่อยๆ ลึกลง จนกลายเป็นใบหน้าเหมือนลิง มีกล้ามขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น จึงต้องเข้าโรงพยาบาลอีก

ช่วงแรกคุณหมอมาตรวจก็ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร ต่อมาคุณหมออีกคนมาตรวจจึงรู้ว่าเป็นโรคตับอักเสบ จึงให้ยาได้ถูกโรค อาการก็ค่อยๆ ดีขึ้น แต่ร่างกายก็เปลี่ยนอีก คราวนี้มีใบหน้าเป็นเหมือนกะเทย ใครเห็นก็นึกว่าเป็นผู้ชายที่แต่งตัวเป็นผู้หญิง ต่อมาเธอได้ไปขอให้หมอผ่าตัดทำศัลยกรรมใบหน้าใหม่ โดยตัดชิ้นเนื้อบริเวณไหล่ด้านหลังมาใส่ที่บริเวณแก้มด้านซ้าย เพื่อให้ดูเป็นผู้หญิงขึ้น ซึ่งใช้เวลาผ่าตัดถึง 8 ชั่วโมง ออกจากห้องผ่าตัดด้วยสภาพที่ยับเยิน และอีก 3 เดือนก็ต้องไปผ่าด้านขวาอีก

สาเหตุที่หญิงผู้นี้ป่วยเรื้อรังและมีใบหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นลักษณะต่างๆ เพราะกรรมในอดีตชาติที่เกิดเป็นหญิงเคยผิดหวังในความรักจึงไปบวชชี ซึ่งวัดที่ไปบวชมีแม่ชีอาศัยอยู่จำนวนมาก ทำให้ทะเลาะกับแม่ชีอื่นอย่างรุนแรงและได้ด่าแม่ชีที่ทะเลาะกัน โดยด่าคนแรกว่า “    อีหน้าลิง” ด่าคนที่สองว่า “    อีกะเทย” ด่าคนที่สามว่า “    อีหน้าปูด” และมักด่ากระทบกระเทียบทั้งต่อหน้าและลับหลังอยู่เสมอๆ

 

กรณีศึกษาที่ 4 (วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2546) หญิงคนหนึ่งถูกพ่อแม่ปลูกฝังเรื่องกฎแห่งกรรมตั้งแต่ยังเด็ก จึงเชื่อมั่นในผลบุญอย่างมาก ได้ทำบุญทุกบุญอย่างต่อเนื่องและชักชวนคนอื่นให้มาสั่งสมบุญด้วย นอกจากนี้ยังมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี แต่ก็มีชีวิตที่ลำบากและต้องทำงานหนักจนเหน็ดเหนื่อยมาก ภายหลังรู้สึกปวดหัวตัวร้อน แก้มข้างซ้ายไม่มีความรู้สึก ปากเบี้ยวไปด้านขวา ก็พยายามอธิษฐานจิตให้หาย ประกอบกับการรักษาแผนปัจจุบันด้วย ปรากฏว่าภายใน 1 เดือน อาการต่างๆ ก็หายไป ต่อมาอาการดังกล่าวก็กลับมาอีก แต่ครั้งนี้สลับกันจากแก้มซ้ายเป็นแก้มขวา จากปากเบี้ยวข้างขวาเป็นข้างซ้าย

สาเหตุที่หญิงผู้นี้ปากเบี้ยว เพราะกรรมในอดีตชาติเคยเกิดเป็นหญิงสาวในตระกูลที่มีฐานะและเป็นที่รักของบิดามารดา จึงถูกตามใจมาก ทำให้ค่อนข้างจะเอาแต่ใจตัวเอง เวลาพ่อแม่สั่งสอนก็มักจะเถียงพ่อเถียงแม่ หรือบางครั้งถ้าพี่เลี้ยงพูดแนะนำเวลาทำไม่ถูก ก็โกรธและตบหน้า ตบปากเขาบ้าง ส่วนสาเหตุที่ต้องทำงานหนักจนเหน็ดเหนื่อยมาก เพราะกรรมในอดีตชาติเวลาพ่อแม่ชักชวนให้ทำทาน ก็เถียงว่า “    ไม่จริงหรอก คนให้ทานมีแต่จะยากจน คนที่ตั้งใจทำงานต่างหากถึงจะรวย”

 

กรณีศึกษาที่ 5 (วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2548) หญิงคนหนึ่งเป็นคนฝีปากกล้า ชอบด่าคน โดยไม่เลือกหน้า ต่อมามีอาการแผลเน่าทั้งตัว ซึ่งลามมาจากภายในร่างกายและในที่สุดก็เสียชีวิต

สาเหตุที่หญิงผู้นี้ก่อนตายเป็นแผลเน่าทั้งตัว เพราะกรรมในปัจจุบันที่เป็นคนฝีปากกล้า ชอบด่าคนโดยไม่เลือกหน้า

 

-------------------------------------------------------------------
 

8) กถาว่าด้วยวินัย มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม 2. (กรุงเทพฯ : มหามกุฎราชวิทยาลัย,2532), หน้า 109.

GL 203 กฎแห่งกรรม
กลุ่มวิชาเป้าหมายชีวิต

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0013074517250061 Mins