ใจไม่ดำ ทำไม่ลง

วันที่ 05 กพ. พ.ศ.2559

ใจไม่ดำ ทำไม่ลง

            สาเหตุที่ตรัสชาดก พระทศพลทรงปรารภถึงพ่อค้าโกง ได้ตรัสแก่พ่อค้าที่มาเฝ้าแล้วทรงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่าดังนี้..

             กาลครั้งหนึ่ง มีพ่อค้าสองพี่น้องขึ้นเรือไปค้าขายได้เงินมาถึงพันกหาปณะ ระหว่างรอขึ้นเรือกลับบ้าน พ่อค้าผู้พี่โยนอาหารให้ปลากินแล้วอุทิศส่วนบุญให้เทวดาแถวๆ นั้น จากนั้นก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน น้องชายไม่รอช้า รีบเอาผ้ามาห่อกรวดเก็บไว้ เรือมาพอดีพี่ชายจึงตื่นทั้ง สองขึ้นเรือกลับบ้าน ขณะอยู่บนเรือ เรือเกิดโคลง น้องชายพลางควักห่อผ้าจากอกเสื้อมาห่อหนึ่งอุทานร้องบอกพี่ว่า..
"อ๊ะ! พี่ ห่อเงินตั้งพันตกลงน้ำไปแล้ว ทำอย่างไรดี"


พี่ชายปลอบน้องว่า..
"น้องเอ๋ย! มันตกน้ำไปแล้วจะทำอย่างไรได้ล่ะ อย่าไปคิดถึงมันเลย"

             ขณะนั้น เทวดาประจำแม่น้ำที่ได้รับส่วนบุญจากพ่อค้าผู้พี่ รู้เห็นเหตุการณ์เบื้องหลังทั้งหมดคิดจะตอบแทนคุณพ่อค้าจึงบันดาลให้ปลาใหญ่กลืนห่อทรัพย์นั้นไว้ส่วนน้องชายกลับถึงบ้านก็ดีใจรีบแก้ห่อผ้าออก แล้วก็คล้ายดั่งถูกสายฟ้าฟาดกลางกระหม่อมใบหน้าซีดเผือดลงทันที เพราะพลันพบเห็นในห่อผ้ามีแต่ก้อนกรวด แสดงว่าห่อที่ตกน้ำคือเงิน!

 

             พี่ชายเห็นน้องป่วยกระแซ่วเอาแต่นอนกอดแม่แคร่เตียงอยู่ จึงมาเยี่ยมดูแลน้อง ขณะนั้นมีชาวประมงประกาศเร่ขายปลาตายราคาพันกหาปณะเจ็ดมาสก ประชาชนพากันหัวเราะเยาะว่า..
"แหม! ปลาราคาตั้งพันกว่าไม่เคยเห็นนะ พ่อคุณ!"

 

            ชาวประมงไม่สนใจ เดินขายมาถึงบ้านพ่อค้าสองพี่น้อง เห็นหน้าพ่อค้าแล้วถูกชะตาลดราคาให้เหลือแค่เจ็ดมาสก ตกลงปลาเป็นของพ่อค้า ภรรยาผ่าท้องปลาเห็นห่อทรัพย์พันกหาปณะรีบมาแจ้งสามี พ่อค้าตรวจตราดูห่อทรัพย์นั้นจำได้ไม่ผิดว่าเป็นของตน เทวดาตนหนึ่งก็พลันปรากฏบนอากาศเล่าเรื่องน้องชายให้ฟังจบ แล้วกล่าวว่า..
"คนคิดร้ายย่อมไม่มีวันเจริญดอก! ท่านอย่าให้ทรัพย์นี้แก่น้องชายโจรของท่านเลย เก็บไว้คนเดียวทั้งหมดเถอะ คนเยี่ยงน้องชายท่านหน่ะ! เทวดาก็ไม่บูชา ใครทำกรรมชั่วยักยอกเอาทรัพย์มาแล้วไม่ต้องการให้พี่ชาย เทวดาไม่บูชาผู้นั้นเลย"

 

            แต่พ่อค้าผู้พี่ไม่อาจหักใจทำกับน้องชายอย่างนั้นได้ กล่าวขอบคุณเทวดาแล้วแบ่งเงิน 500กหาปณะไปให้น้องชาย น้องชายหายป่วยฟื้นขึ้นมาอย่างสบายใจ.. ถึงอย่างไรพี่ชายก็ไม่ใจดำ ทำได้ลงคอ


ประชุมชาดก
             พระทศพลทรงประชุมชาดกว่า น้องชายครั้งนั้นมาเป็นพ่อค้าโกงในบัดนี้ส่วนพี่ชายมาเป็นตถาคตแล

               จากชาดกเรื่องนี้ ถึงน้องเห็นแก่ตัวเอาเปรียบพี่ แต่พี่ก็ไม่ซ้ำเติมน้อง ไม่คิดแก้เผ็ดหรือยินดีที่เห็นน้องทุกข์ใจ มองความสุขของผู้อื่นสำคัญกว่าการติดอยู่กับความทุกข์ของตน การได้เห็นความสุขของผู้อื่นนั่นแหละ! คือความสุขล้นของตนประการหนึ่ง

"นิสัยสุขใจเมื่อทำให้ผู้อื่นเป็นสุข, ไม่ยินดีที่เห็นความทุกข์ของผู้อื่น, ชอบให้ความสุข
ผู้อื่นมากกว่าถือสาหาความ และไม่เคืองเเค้นผูกใจเจ็บผู้คิดร้าย" ทั้งหมดนี้จึงนับเป็นนิสัยในวิถี
นักสร้างบารมีที่นับเนื่องเข้าในเมตตาบารมี

-----------------------------------------------

SB 405 ชาดก วิถีนักสร้างบารมี

กลุ่มวิชาพุทธวิธีในการพัฒนานิสัย

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.001118016242981 Mins