ธรรมะวันนี้ สัจกิริยา ตอนที่ ๔ มัณฑัพยชาดก

วันที่ 04 เมย. พ.ศ.2560

ธรรมะวันนี้ สัจกิริยา ตอนที่ ๔ มัณฑัพยชาดก,วาไรตี้,บทความประจำวัน

 

ธรรมะวันนี้ สัจกิริยา ตอนที่ ๔ มัณฑัพยชาดก    (ล.๕๙, น.๘๓๙, มมร.)

 

           ๓. พระโพธิสัตว์ ทําสัจกิริยาด้วยตนเองร่วมกับคนอื่น เพื่อช่วยคนอื่น

           ๓.๑ มัณฑัพยชาดก ว่าด้วยความรักที่มีต่อบุตร

(กัณหทีปายนชาดก ว่าด้วยจริยาวัตรของกัณหทีปายนะดาบส) (ล.๕๙, น.๘๓๙, มมร.) ความตอนหนึ่งว่า

   
         ลําดับนั้น มารดาบิดารู้ว่าลูกถูกอสรพิษกัด จึงยกกุมารขึ้นแล้วอุ้มมาที่พระดาบสให้นอนลง แทบเท้าแล้ว

     กล่าวว่า“ ท่านเจ้าข้าธรรมดาบรรพชิตย่อมจะรู้โอสถหรือปริต ขอท่านได้โปรดทําบุตรของข้าพเจ้าให้หายโรคเถิด.”

         พระดาบสกล่าวว่า “ เราไม่รู้โอสถ เราเป็นบรรพชิตจักทําเวชกรรมไม่ได้.”

         พระดาบสถูกเขาขอร้องว่า “ถ้าเช่นนั้น ขอท่านได้ตั้งเมตตาในกุมารทําสัตยาธิษฐานเถิด
”จึงรับว่า “ดีแล้ว เราจะทําสัจกิริยา.” แล้ววางมือลงที่ศีรษะยัญญทัตตกุมาร จึงได้กล่าวคาถาที่ ๑ ว่า 

          “เราเป็นผู้มีความต้องการบุญ ได้มีจิตเลื่อมใส ประพฤติพรหมจรรย์อยู่เพียง ๗ วันเท่านั้น ต่อจากนั้นมาแม้เราจะไม่มีความใคร่บรรพชา ก็ทนประพฤติพรหมจรรย์ของเราอยู่ได้ถึง ๕๐ กว่าปี ด้วยความสัตย์อันนี้ขอความสวัสดี จงมีแก่ยัญญทัตตกุมาร พิษจงคลายออกยัญญทัตตกุมารจงรอดชีวิตเถิด.”

       พร้อมกับสัจกิริยา พิษในกายตอนบนของยัญญทัตตกุมารก็ตกเข้าแผ่นดินหมด กุมารลืมนัยน์ตาขึ้นดูมารดา บิดาเรียกว่า “แม่” แล้วพลิกนอน.

      ลําดับนั้น กัณหทีปายนดาบสจึงกล่าวกับบิดาของกุมารนั้นว่า “กําลังของเรา เราทําได้เท่านั้น ท่านจงทํากําลังของตนบ้างเถิด.”

      เขากล่าวว่า “เราจะทําสัจกิริยาบ้าง.” แล้ววางมือลงที่หน้าอกบุตร จึงได้กล่าวคาถาที่ ๒ ว่า 

      “เพราะเหตุที่เราเห็นแขกในเวลาที่มาถึงบ้านเพื่อจะพักอยู่ บางครั้งไม่พอใจจะให้พักเลย แม้สมณพราหมณ์ผู้เป็นพหูสูต ก็ไม ทราบความไม่พอใจของเรา  แม้เราไม่ประสงค์จะให้ก็ให้ได้ด้วยความสัตย์นี้ขอความสวัสดี จงมีแก่ยัญญทัตตกุมาร พิษจงคลายออก ยัญญทัตตกุมารจงรอดชีวิตเถิด.”

       เมื่อบิดาทําสัจกิริยาอย่างนี้แล้ว พิษในกายตอนเหนือสะเอวก็ตกเข้าแผ่นดิน กุมารลุกขึ้นนั่งได้แต่ยังยืนไม่ได้

        ลำดับนั้น บิดาได้กล่าวกะมารดาของกุมารนั้นว่า
   

      “ที่รัก เราได้ทํากําลังของเราแล้ว ทีนี้เจ้าจงทําสัจกิริยาให้บุตรลุกขึ้นเดินได้.”

      มารดากล่าวว่า“ข้าแต่นาย ความสัตย์ของฉันก็มีอยู่อย่างหนึ่งแต่ไม่อาจกล่าวต่อหน้านาย.”

      บิดากล่าวว่า “อย่างไรๆ ก็กล่าวไปเถอะที่รัก จงทำบุตรของเราให้หายโรค.”

      นางรับคําว่า“ดีแล้ว” เมื่อกระทําสัจกิริยาจึงได้กล่าวคาถาที่ ๓ ว่า :-

       “ลูกรัก อสรพิษที่ออกจากโพรงกัดเจ้านั้นมีเดชมากไม่เป็นที่รักของแม่ในวันนี้เลย อสรพิษนั้นกับบิดาของเจ้า

        ไม่แปลกกันเลย ด้วยความสัตย์นี้ขอความสวัสดีจงมีแก่ยัญญทัตตกุมาร พิษจงคลายออก ยัญญทัตตกุมารจงรอดชีวิตเถิด.”


          พร้อมกับสัจกิริยา พิษทั้งหมดก็ตกลงเข้าแผ่นดินยัญญทัตตเมื่อร่างกายหมดพิษแล้ว ก็ลุกขึ้นเริ่มจะเล่นต่อไป เมื่อบุตรลุกขึ้นได้แล้วอย่างนี้

 

 

ทรงประชุมชาดกว่า

นายมัณฑัพยะในครั้งนั้น ได้มาเป็น พระอานนท์ในบัดนี้

ภรรยาในครั้งนั้น ได้มาเป็น นางวิสาขา

บุตรในครั้งนั้น ได้มาเป็น พระราหุล

ส่วนกัณหทีปายนดาบสในครั้งนั้น คือ พระตถาคตเจ้า

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.013718398412069 Mins