อยากรู้อยากเห็นจนเป็นเรื่อง

วันที่ 29 เมย. พ.ศ.2547

อยากรู้อยากเห็นจนเป็นเรื่อง


.....ช่วงนี้มีเสียงเปรยๆ มาเข้าหูผมว่าชีพจรกำลังลงเท้า ต้องเดินทางบ่อยครั้ง เดี๋ยวไปจังหวัดโน้นโผล่จังหวัดนี้ มีอยู่ครั้งหนึ่งขณะเดินทางด้วยรถตู้ชั้นดีเพื่อนร่วมทางเสียบหนังแผ่นแนวเรื่องแบบลึกลับซ่อนเงื่อนไปหนึ่งแผ่น ก็ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของผมนั่นแหละครับเลยดูเสียจบเรื่องทันทีที่หนังจบทัศนะต่างๆ นานาลอยเข้าหูไม่ขาดแต่สำหรับผมนั้นแอบพึมพำอยู่ในใจ หนังเรื่องนี้ดูแล้วเหมือนไม่มีปมลึกเท่าไหร่นักพูดง่ายๆ ถึงเป็นเงื่อนที่ผูกเป็นปมที่คลายได้ไม่ยากเย็นผู้เขียนบทซ่อนอุปนิสัยของตัวละครออกมาอย่างเด่นชัด นั่นคือความอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวก็ไม่ได้มีอะไรมาก เพียงแต่ว่าหากใครกดเบอร์โทรศัพท์ต้องห้าม แล้วขอในสิ่งที่อยากได้ก็จะสมความปรารถนาแต่มีข้อแม้อยู่อย่างคือต้องแลกด้วยชีวิต ศพแล้วศพเล่าที่เผลอใจกดเบอร์โทรศัพท์และขอสิ่งที่ต้องการนั้นได้สะท้อนความโลภ ความไม่รู้ ความอยากเด่น อยากดัง หรือแม้แต่ความรักที่แต่ละคน ล้วนต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อแลกกับสิ่งที่ต้องการ
 


.....เรื่องราวดำเนินไปเพื่อแสดงให้เห็นอุปนิสัยของวัยอยากรู้อยากเห็นจนครบ สุดท้ายก็ทิ้งข้อคิดไว้อีกข้อว่าความอยากรู้อยากเห็นพร้อมจะทำลายชีวิต ของคนที่ไม่รู้จุดหมายที่แท้จริงของชีวิตได้อีกไม่รู้จักจบสิ้น เขาพบความอันตรายที่คืบคลานไปหาคนที่ว่านี้ผ่านทางนางเอกสาวที่เริ่มเรื่อง จากที่โรงเรียนแห่งหนึ่งเกิดศพปริศนาถูกฆาตกรรมแขวนร่างอยู่ที่เสาธง จนกระทั่งเธอย้ายเข้ามาสู่โรงเรียนอีกแห่งที่เป็นฉากหลักที่ทำให้ตัวละครที่เป็นนักเรียนโรงเรียนนี้ตายไปทีละคน ก่อนจบเรื่องเธอย้ายไปเรียนอีกโรงเรียนหนึ่งเสมือนจะบอกผู้ชมว่าเหตุการณ์ซ้ำๆ กำลังจะเกิดขึ้นที่นี่
 


.....ความอยากรู้อยากเห็นของคนถ้าเราใช้ในทางที่ถูก ผมว่าสังคมเราคงจะเจริญร่มเย็นกว่านี้ เพราะความอยากรู้แล้วค้นคว้าทดลองอย่างนักวิทยาศาสตร์ ที่ไม่ล้มเลิกกลางคัน หรือเป็นการทดลองกับการหาความรู้อย่างเอาชีวิต เป็นเดินพันสิ่งประดิษฐ์หรือทฤษฎีใหม่ๆ ดีๆ จะเกิดขึ้นในบ้านเราอีกเยอะ เรื่องราวทั่วไปแม้มีเหตุผลไม่เพียงพอที่จะต้องเอาชีวิตเดิมพันกันแต่สำหรับเรื่องการทำความดี ละเว้นความชั่วตามที่พระพุทธองค์ตรัสสอนไว้ให้ทำความดีอย่างยิ่งยวดชีวิตหลังความตายจะสบายในสุคติสวรรค์ ทำความชั่วจะต้องตกนรกทุกข์ทรมานยาวนาน เพียงแค่ท่านอยากรู้อยากเห็น ความจริงของชีวิตแล้วเร่งทำความดีอย่างยิ่งยวด ชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพันแล้วแม้สังคมเราจะไม่มีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นแต่ใจที่สะอาดบริสุทธิ์จากการฝึกตัวอย่างยิ่งยวดจากตัวเราสู่ครอบครัว สังคม ประเทศชาติจะทำให้ความร่มเย็นเกิดขึ้นครับ ผมขอท้าทายให้คุณเลือกทำเสียตั้งแต่วันนี้พรุ่งนี้เสียเลยครับ

 

นายตั้ม

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.017707232634226 Mins