การดำเนินชีวิตที่ไม่ประมาทในการประพฤติพรหมจรรย์เป็นอย่างไร

วันที่ 03 มิย. พ.ศ.2560

การดำเนินชีวิตที่ไม่ประมาทในการประพฤติพรหมจรรย์เป็นอย่างไร
 

สูตรสำเร็จการสร้างบารมีเป็นทีม , Pre-Degree , วัดพระธรรมกาย , DOU , ธรรมกาย , ปริญญาตรี , พรีดีกรี , พระพุทธศาสนา , พุทธศาสตร์ , พระไตรปิฎก , สร้างบารมี , หลวงพ่อธัมมชโย , การดำเนินชีวิตที่ไม่ประมาทในการประพฤติพรหมจรรย์เป็นอย่างไร , 5 ห้องชีวิต , ประพฤติพรหมจรรย์

     การประพฤติพรหมจรรย์ได้ตลอดรอดฝังนั้น จำเป็นต้องรู้ว่าสิ่งที่ควบคุมใจ คือ นิสัยและนิสัยนั้นเกิดจากการใช้ปัจจัย 4 ในระหว่างดำเนินชีวิตไปในแต่ละวัน

   หากการใช้ปัจจัย 4 ในแต่ละวันขาดสติและปัญญาพิจารณาด้วยความระมัดระวังอีกทั้งปล่อยใจให้ตกอยู่ในอำนาจของกิเล ด้วยแล้ว นั่นย่อมกลายเป็นการเพาะนิสัยชั่วขึ้นมาควบคุมใจ และนิสัยชั่วนั้นก็กลายเป็นการประพฤติกรรมชั่ว ที่นำไปสู่การก่อบาปกรรมโดยอัตโนมัติเป็นประจำอยู่ทุกวัน โดยที่ตนเองไม่รู้ตัว

   ผลสุดท้ายย่อมกลายเป็นอาสวกิเลสที่หมักดอง ห่อหุ้ม บีบคั้น กัดกร่อน ผูกมัดใจให้จมอยู่กับความอาลัยอาวรณ์ในการเวียนว่ายตายเกิดไปอีกนับภพนับชาติไม่ถ้วน

    ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่จะดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทได้นั้น เขาจึงต้องมองออกว่าห้องแห่งกำเนิดนิสัยดีชั่วในตัวมนุษย์ ตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งวันตายนั้น มีทั้งหมด 5 ห้อง ได้แก่ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ห้องครัว และห้องทำงาน

    ผู้ที่มีสติปัญญาในการประพฤติพรหมจรรย์นั้น ต้องปิดกั้นไม่ให้นิสัยชั่วจากการใช้ปัจจัย 4 รั่วรดเข้ามาในใจผ่านห้องแห่งนิสัยทั้งห้านี้ได้ จึงจะสามารถปิดนรก เปิดสวรรค์ ถางทางไปพระนิพพานได้สำเร็จตลอดรอดฝัง


หนึ่ง คือ ห้องนอน
       ตามความเข้าใจของชาวโลกทั่วไปนั้น ห้องนอน คือ ห้องที่พักผ่อนและผลิตทายาท

    แต่ห้องนอนในสายตาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น กลับตรงกันข้าม คือ เป็นห้องที่ผลิตบุญ โดยมีคำอธิบายง่าย ๆ ว่า หลับอยู่ในอู่ทะเลบุญ ตื่นอยู่ในอู่ทะเลบุญ จากนั้นพระองค์ก็ทรงชี้ไปที่โคนไม้ อันเป็น สถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนาเพื่อการบรรลุธรรม

โคนไม้ นี้เอง คือ ห้องนอนของพระอริยเจ้าที่ใช้สำหรับเพาะนิสัยทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อการบรรลุธรรม


สอง คือ ห้องน้ำ
     ตามความเข้าใจของชาวโลกนั้น ห้องน้ำคือห้องที่แสดงรสนิยมในการใช้ชีวิตส่วนตัวได้หรูหราที่สุด บางคนถึงกับสร้างโถส้วมสำหรับขับถ่ายด้วยทองคำ

     แต่ห้องน้ำในสายตาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น กลับตรงกันข้าม คือเป็นห้องเพื่อการตรวจสุขภาพ เพราะสิ่งที่แสดงถึงความมีสุขภาพดีหรือสุขภาพไม่ดีได้ชัดเจนที่สุด ก็คืออุจจาระและปัสาวะในตัวของคน ๆ นั้นนั่นเอง เช่น ถ้าขาดน้ำก็ท้องผูก ถ้าถ่ายเหลวก็ท้องเสียมีเชื้อแบคทีเรียในท้อง ถ้ามีสีเลือดติดมากับอุจจาระ ก็แสดงว่าอาจมีแผลในลำไส้ เป็นต้น การสังเกตสีปัสสาวะและอุจจาระในแต่ละวันเช่นนี้ ย่อมทำให้เยียวยารักษาสุขภาพได้ทันท่วงที

     ในเวลาเดียวกัน การฟื้นฟูสุขภาพของแต่ละคน หากฉุกเฉินหายารักษาไม่ได้ โอสถวิเศษประจำตัวก็คือ น้ำปัสสาวะที่กลั่นออกมาจากภายในตัวของคน ๆ นั้นนั่นเอง นี่คือ ห้องน้ำของพระอริยเจ้าที่ใช้สำหรับเพาะนิสัยทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อการบรรลุธรรม


สาม คือ ห้องแต่งตัว
    ตามความเข้าใจของชาวโลกนั้น ห้องแต่งตัวคือห้องที่เสริมบุคลิกภาพให้เป็นที่ติดตาต้องใจผู้คนที่พบปะในสังคม หลายคนจึงทุ่มเททรัพย์สินเงินทองที่หามาได้ด้วยความยากลำบากหมดไปกับการแต่งตัว บางรายถึงกับยอมเป็นหนี้เป็นสินเพื่อซื้อเครื่องสำอาง น้ำหอมนานากลิ่นสินค้าแบรนด์เนม ฯลฯ เพื่อตกแต่งร่างกายภายนอกให้หรูหราโดดเด่นในสังคมห้องแต่งตัวของชาวโลก จึงเป็นห้องที่ฟุ้งซ่านปรุงแต่งด้วยกิเลสอย่างหนัก

    แต่ห้องแต่งตัวในสายตาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น กลับตรงกันข้าม คือเป็นห้องเพื่อพิจารณาอสุภะและมรณานุสติ

   จีวรที่พระภิกษุนุ่งห่มนั้นพระองค์ให้ไปเอามาจากผ้าห่อศพ สิ่งที่พบในป่าช้าก็คือซากศพที่อืดเน่าเฟะ สิ้นความงามอยู่ตรงหน้า อันเป็นการเตือนสติตนเองอย่างชะงัดว่า ตัวเราเองนั้น แท้จริงก็คือ ซากศพเคลื่อนที่ที่ยังมีชีวิตอยู่ และอนาคตที่แน่นอนของทุกคน ก็คือความตาย นี่คือ ห้องแต่งตัวของพระอริยเจ้า ที่ใช้สำหรับเพาะนิสัยทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อการบรรลุธรรม


สี่ คือ ห้องครัว
 ตามความเข้าใจของชาวโลกนั้น ห้องครัวคือห้องที่แสดงฐานะความเป็นอยู่ที่หรูหราทางเศรษฐกิจของครอบครัวได้ดีที่สุด ยิ่งมีอาหารการกินที่วิเศษพิ ดารเหนือกว่าชาวบ้านมากเท่าไร ยิ่งเป็นความภาคภูมิใจในฐานะความเป็นอยู่ที่หรูหรามากเท่านั้น ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว ยิ่งการจัดเลี้ยงใดมีการทุ่มเทให้กับการประดิดประดอยอาหารการกินให้เลิศหรูมากเท่าไรห้องครัวยิ่งกลายเป็นห้องที่มีการล้างผลาญทรัพยากร ชนิดกินทิ้งกินขว้างอย่างมากที่สุด ทำลายสุขภาพอย่างหนักที่สุดสิ้นเปลืองงบประมาณมากที่สุด และกระตุ้นให้เกิดกำลังในการเสพกามราคะมากที่สุด

      แต่ห้องครัวในสายตาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น กลับตรงกันข้าม คือเป็นห้องเพื่อการควบคุมกามกิเลส

   พระองค์จึงกำหนดให้พระภิกษุเลี้ยงชีวิตด้วยการบิณฑบาต และกำหนดให้ฉันภัตตาหารเพียงมื้อเดียวหรือสองมื้อ คือเช้ากับเพลเท่านั้น เพื่อตัดเสบียงกาม และให้รู้จักประมาณในการรับ พิจารณาในการใช้ โดยต้องคำนึงถึงสุขภาพ ความพอดี และความเหมาะสมเป็นหลัก แล้วเอาเรี่ยวแรงที่ได้รับจากข้าวปลาอาหาร มาประพฤติปฏิบัติธรรม ญาติโยมก็ได้บุญ ตนเองก็เป็นเนื้อนาบุญ เมื่อถึงคราวเผยแผ่พระพุทธศาสนาก็เป็นกำลังสำคัญที่ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณมากมายในการเลี้ยงดู นี่คือ ห้องครัวของพระอริยเจ้าที่ใช้สำหรับเพาะนิสัยทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อการบรรลุธรรม


ห้า คือ ห้องทำงาน
  ตามความเข้าใจของชาวโลกนั้น ห้องทำงานคือห้องแห่งการหาทรัพย์สมบัติมาเลี้ยงชีวิตถ้ามีนิสัยดีก็หาสมบัติได้ไม่ยาก แต่ถ้าทำงานแบบมักง่ายก็ได้แต่ความวิบัติ

       ห้องทำงานของใครก็เป็นไปตามลักษณะอาชีพของคน ๆ นั้น

       ถ้าเป็นเกษตรกร ห้องทำงานก็คือ เรือกสวนไร่นา

       ถ้าเป็นพนักงานบริษัท ห้องทำงานก็อยู่ในตึก ในอาคาร

       ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ห้องทำงานก็อยู่บนหลังมอเตอร์ไซค์

       สิ่งที่ล้างผลาญให้เศรษฐกิจของชาวโลกถึงกาลวอดวายได้รวดเร็วที่สุด ไม่มีอะไรเกินอบายมุข

    สถานที่ทำงานใดที่ปล่อยให้อบายมุขบุกครอบครองเมื่อไรสมบัติที่คิดว่าจะได้ จะกลายเป็นวิบัติทันที กิจการที่เคยดี ก็จะยิ่งถดถอย ยิ่งประกอบมิจฉาชีพด้วยแล้ว เพียงไม่นานนักทั้งอบายมุขและมิจฉาชีพก็จะช่วยกันถล่มทลายให้หน้าที่การงานล้มละลายถึงแก่กาลล่มลายเร็วกว่าเดิม

    สำหรับห้องทำงานในสายตาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น คือ ห้องแห่งการฝึกสติและปัญญาที่ใช้สำหรับเพาะนิสัยทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อการบรรลุธรรม

      พระองค์ทรงสอนว่า "ภิกษุทั้งหลาย ทุกย่างก้าวที่เธอนั่ง นอน ยืน เดินไปนั้น ต้องพึงระวังให้ดี อย่าให้มีสิ่งใดที่เป็นข้าศึกต่อการประพฤติพรหมจรรย์มาจับตัวเธอไปได้

      พึงระวังข้าศึกทางตา คือรูปสวย ๆ ที่มาทิ่มตาแล้วทำให้ใจหลงใหลติดอยู่ในรูปสวย ๆ

      พึงระวังข้าศึกทางหู คือเสียงหวาน ๆ ที่มาทิ่มหูแล้วทำให้ใจหลงใหลติดอยู่ในเสียงเพราะ ๆ

      พึงระวังข้าศึกทางจมูก คือกลิ่นหอม ๆ ที่มาทิ่มจมูกแล้วทำให้ใจหลงใหลติดอยู่ในกลิ่นหอมๆ

      พึงระวังข้าศึกทางลิ้น คือ รสอร่อย ๆ ที่มาทิ่มลิ้นแล้วทำให้ใจหลงใหลไปกับรสอร่อย ๆ

      พึงระวังข้าศึกทางกาย คือสัมผัสที่ถูกใจมาทิ่มกายแล้วทำให้ใจหลงใหลไปกับสัมผัสที่ถูกใจนั้น

      และพึงระวังข้าศึกทางใจ คือ อกุศลจิตที่เกิดขึ้นมาทิ่มใจแล้วทำให้ใจหลงใหลไปกับอกุศลจิต

    ถ้าเธอพึงระวังข้าศึกต่อการประพฤติพรหมจรรย์อย่างนี้ได้ทุกย่างก้าว ใจของเธอก็จะปลอดภัย การดำเนินชีวิตของเธอย่อมมีสติ ไม่นานนักสัมมาสมาธิย่อมเกิด เธอย่อมเข้าถึงธรรมได้ไม่ยาก"

     ทุกย่างก้าวที่ดำเนินไปด้วยสติและปัญญา ระแวงภัยที่น่าระแวง มองเห็นโทษภัยในสิ่งเล็กน้อยที่จะนำไปสู่อกุศลจิต นี่คือ ห้องทำงานของพระอริยเจ้าที่ใช้สำหรับเพาะนิสัยทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อการบรรลุธรรม

    เพราะฉะนั้นการดำเนินชีวิตอยู่ในห้องแห่งการพิฆาตกิเลสทุกลมหายใจเข้าออกเช่นนี้ คือการดำเนินชีวิตที่ไม่ประมาทต่อการประพฤติพรหมจรรย์

 

 

*----------------------------------------------------------------------------------------------------------*
หนังสือ PD 002 สูตรสำเร็จการสร้างบารมีเป็นทีม
หนังสือเรียน หลักสูตร Pre-Degree

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0014671007792155 Mins