ผลของบุญ

วันที่ 11 กพ. พ.ศ.2565

650211_B.jpg

ผลของบุญ

650211_p01.jpg

อยากแก่ช้า อายุยืน มาทางนี้

           สรรพสิ่งในโลกล้วนตั้งอยู่บนแผ่นดิน ขาดแผ่นดินรองรับแล้วสรรพสิ่งไม่สามารถดำรงอยู่ได้ อายุก็เช่นเดียวกัน รองรับสรรพสิ่ง ทั้งโลกียทรัพย์ คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ ความสุข และอริยทรัพย์ คือ การบรรลุมรรคผลนิพพาน ขาดอายุแล้ว โลกียทรัพย์ และอริยทรัพย์ แม้มีอยู่ก็เหมือนไม่มี

           ชีวิตที่เคยผิดพลาดมาในอดีต ถ้าอายุยืนยังสามารถแก้ไขทำสิ่งที่ดีงาม สั่งสมบุญกุศล ให้บุญกุศลส่งผลก่อน เหมือนหินก้อนใหญ่อาศัยเรือเดินสมุทร สามารถขนหินนั้นข้ามมหาสมุทรไปสู่เป้าหมายปลายทางได้

           ดังตัวอย่างขององคุลีมาล ถูกอาจารย์หลอกให้ไปฆ่าคน ๑,๐๐๐ คน เพื่อได้เรียนวิชาศักดิ์สิทธิ์จะได้เป็นใหญ่ในโลก ฆ่าไปได้ถึง ๙๙๙ คน คนสุดท้ายก่อนทำมาตุฆาต คือ ฆ่ามารดา

           พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปโปรด องคุลีมาลได้ฟังธรรมจนเกิดศรัทธา ออกบวช บำเพ็ญสมณธรรม จนได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ไม่ต้องไปชดใช้วิบากกรรมปาณาติบาต ในอบายภูมิอีกยาวนาน

          อีกตัวอย่างหนึ่ง เมื่อพระบรมศาสดาตรัสรู้ใหม่ๆ ทรงตรวจดูเวไนยสัตว์ที่มีบารมีมากพอจะบรรลุธรรมได้ ทรงระลึกถึงอุทกดาบสทกับอาฬารดาบส อาจารย์ที่เคยสอนพระองค์เมื่อครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ แต่ทั้ง ๒ ท่านหมดอายุขัยไปเสวยสุขอยู่ในพรหมโลก ก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้เพียงไม่กี่วัน หมดโอกาสที่จะได้ฟังธรรมไม่ได้บรรลุมรรคผล นิพพาน ยังต้องท่องไปในวัฏสงสาร จนกว่าจะพบและได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าในอนาคต ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะอีกนานเท่าไร? นี้เป็นคุณค่าของอายุ

          ในพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงเหตุที่ทำให้ได้อายุไว้หลายประการ เช่น

๑. ไม่ทำปาณาติบาต

๒. ให้ชีวิตสัตว์เป็นเป็นทาน รวมไปถึงการบริจาคโลหิต

๓. ให้อาหาร และน้ำ

๔. ให้ยารักษาโรค

๕. อ่อนน้อมถ่อมตน กราบไหว้ท่านผู้เจริญอยู่เป็นนิตย์

           อายุยืนสัก ๑๒๐ ปี ดีไหมครับ

 

กรรมที่ทำให้รูปงาม

650211_p02.jpg

           เทคโนโลยีเสริมความงามในปัจจุบันก้าวหน้ามาก หน้าตาโดยกำเนิดไม่สวย สามารถทำศัลยกรรม ผ่า โปะ ฉีด แทง เสริม ตัดร้อยไหม ฯลฯ ทำให้สวยได้ ถึงขนาดเดินทางข้ามประเทศไปทำแล้ว ตอนเดินทางขากลับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ไม่ให้ผ่าน เพราะไม่เอาหน้าเดิมตอนเข้าประเทศมาแสดง ใบหน้าเป็นคนละคนไปเลย สถาบันเสริมความงามต้องทำใบรับรองยืนยันให้ว่า หน้าใหม่นี้ แปลงมาจากหน้าเดิม !!!

          ในทรรศนะกฎแห่งกรรม คุณครูไม่ใหญ่ได้เล่าเอาไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC เรื่องวิบากกรรมที่ทำให้รูปวิบัติ และกรรมที่ทำให้รูปงาม เอาไว้ว่า ดอกไม้สดตกลงไปเรื่อยๆ ศัลยกรรมก็ทำให้สวยได้ แต่คงสวยเหมือนดอกไม้ประดิษฐ์ ต่างกันที่ว่า ดอกไม้ประดิษฐ์ อายุความงามยั่งยืนกว่าความงามจากศัลยกรรม !!!

          ในทางพระพุทธศาสนาแบ่งความงามไว้ ๔ ระดับ คือ

๑. งามอาภรณ์ เครื่องแต่งกาย

๒. งามรูปกาย

๓. งามมรรยาท

๔. งามจิตใจ

          คงรู้แล้วว่าจะจบอย่างไร !!!

 

อยากผิวสวยไหมล่ะ

650211_p03.jpg

        ผิวเป็นสิ่งที่ปรากฏให้เห็นเป็นอย่างแรก ทำหน้าที่ห่อหุ้มอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย เป็นสิ่งที่ส่งเสริมบุคลิกภาพ

           โรคเกี่ยวกับผิวหนังมีมากมาย เช่น หิด ลมพิษ หัด ผื่นคัน สะเก็ดเงิน ผิวหนังพุพอง ผิวหนังอักเสบ เป็นสิวทั้งตัว เป็นต้น

           ในทรรศนะกฎแห่งกรรม คุณครูไม่ใหญ่เคยตอบคำถามไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC เรื่องตัวอย่างวิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคผิวหนัง...

๑. ในอดีตชาติ ด่าว่า ใส่ร้าย ล้อเลียน เถียงพ่อแม่และผู้ใหญ่

๒. ในอดีตชาติ ทำสถานที่สาธารณะ ให้สกปรก เปรอะเปื้อน

๓. ในอดีตชาติ ใช้หมามุ่ยโรยที่นอนเพื่อกลั่นแกล้งคน

๔. ในอดีตชาติ เผาบ้านเรือน เผาที่นา ปิ้งย่างสัตว์

            พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงลักษณะของผิวพรรณที่สวยงามของลักษณะมหาบุรุษเอาไว้ว่า

          ทรงมีพระฉวีสีทอง (คล้ายทองคำ) ในอดีตชาติ ทรงไม่มีความโกรธ ไม่มีความแค้นใจ แม้ถูกด่าว่าอย่างรุนแรงก็ไม่ขัดเคือง ไม่โกรธ ไม่พยาบาท ไม่แสดงความโกรธให้ปรากฏ และเป็นผู้ให้เครื่องลาดมีเนื้อดี ฯลฯ

          ทรงมีพระฉวีละเอียด จนละอองไม่อาจติดพระวรกายได้ ในอดีตชาติ ทรงเข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์ แล้วซักถามว่า

อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล

อะไรเป็นมีโทษ อะไรไม่มีโทษ

อะไรที่ทำแล้ว เป็นไปเพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขตลอดกาลนาน

อะไรที่ทำแล้ว เป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อความทุกข์ตลอดกาลนาน ฯลฯ

          สรุปว่า อยากมีผิวสวยข้ามชาติด้วยกำลังบุญ ไม่ต้องไปขัดผิว อาบน้ำนม

๑. ละเว้นวิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคผิวหนัง

๒. ไม่มักโกรธ

๓. ทำบุญด้วยผ้าไตรจีวร บริจาคเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม

๔. เข้าไปสอบถาม สนทนาธรรมกับผู้รู้

๕. ทำความสะอาดพระพุทธรูป เสนาสนะ ในเขตสงฆ์ (ข้อนี้แถม)

           ขอแสดงความยินดีกับ Miss ผิวสวยคนต่อไป

 

กรรมที่ทำให้ขางาม

650211_p04.jpg

           ขาเรียวงาม เป็นคุณสมบัติประการหนึ่ง ของผู้เข้าประกวดนางงามจักรวาล บางคนขาไม่สวย เช่น ขาสั้น ขายาวเกินไป ขาลีบเป็นตะเกียบ ขาโก่งยืนเท้าชิดกันแล้วน้องแมววิ่งลอดได้ ขาใหญ่อย่างกับขาหมูคากิ เป็นต้น

           โรคที่ขาก็มีหลากหลาย เช่น โปลิโอ ขาลีบ ขาพิการ ใช้หลังเท้าเดิน มีนิ้วเท้าบางนิ้วยาวผิดปกติ นิ้วเท้าหงิกงอ เข่าเสื่อม เป็นต้น

           คุณครูไม่ใหญ่ ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับโรคที่ขา ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC เกี่ยวกับตัวอย่างวิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคที่ขาเอาไว้ว่า

๑. ในอดีตชาติ ใช้แรงงานคน หรือสัตว์หนักเกินไป

๒. ในอดีตชาติ ทุบตี ทำร้าย ผูกมัด กักขัง วางกับดัก ทำให้คนและสัตว์ ได้รับบาดเจ็บที่ขา ได้รับทุกขเวทนามาก

๓. ในอดีตชาติ ล้อเลียนคนมีขาพิการ

           พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงลักษณะขาที่งดงาม และมีพละกำลังมากของลักษณะมหาบุรุษเอาไว้ว่า พระมหาบุรุษมีพระชงฆ์เรียวดุจแข้งเนื้อทราย คือ ขาเรียวงาม

            พวกเนื้อทรายมันไม่มีอาวุธอะไร มีแต่ขาที่ทรงกำลัง เอาไว้วิ่งหนีในคราวมีภัย โคนขาใหญ่แล้วเรียวไปที่ปลายขา สัตว์ทุกชนิด แม้กระทั่งคนที่เป็นนักวิ่งลมกรด ก็จะมีลักษณะขาคล้ายกัน คือ ขาเรียว ทำให้ขามีพละกำลังมาก ไม่เหนื่อยง่าย

           พระองค์ตรัสเล่าว่า ในอดีตชาติ ทรงเป็นผู้ตั้งใจสอนศิลปะวิชา จรณะ หรือกรรม โดยประสงค์ว่า ทำอย่างไรชนทั้งหลายจะพึ่งรู้ได้เร็ว พึ่งปฏิบัติได้เร็ว ไม่พึงลำบากนาน ฯลฯ จึงทำให้มีพระชงฆ์เรียวดุจแข้งเนื้อทราย

           สอนด้วยปากแต่ทำไมไปได้ที่ขา ?

           เรื่องนี้ ท่านผู้รู้ได้อธิบายเอาไว้ว่า ศิลปวิทยาที่เป็นเลิศมักจะอยู่ที่ตัวบุคคล กว่าจะได้ความรู้ศิลปวิทยามาได้ จะต้องเดินทางไกลไปหาครูอาจารย์ที่ทรงรักษาความรู้นั้น ๆ ไว้ ในปัจจุบันความรู้ในบางสาขาวิชาไม่มีสอนในประเทศ จะต้องเดินทางไปศึกษากับผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศ

           ดังนั้น ถ้าผู้สอนปรารถนาให้ผู้เรียน รู้ได้เร็ว ปฏิบัติได้เร็ว ไม่หวงวิชาความรู้ หาทางทำเรื่องยากๆ ให้เข้าใจได้ง่าย ทำให้ผู้เรียนไม่ต้องลำบากเดินทางหาความรู้จนน่องโต ขาใหญ่ จึงมีอานิสงส์ทำให้ขาเรียวงาม มีพละกำลังมาก

           อยากได้ขาเรียวงาม มีพละกำลังมาก ให้ละเว้นวิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคขา และให้ความรู้ด้วยความตั้งใจว่า ทำอย่างไรผู้เรียนจะรู้ได้เร็ว ไม่หวงวิชา

 

ทำอย่างไรให้ปากสวย ปากหอม

650211_p05.jpg

          ปากมีลักษณะพิเศษกว่าอวัยวะอื่น ๆ บนใบหน้า ตามี ๒ ตา ทำหน้าที่ดูอย่างเดียว หูมี ๒ หู ทำหน้าที่ฟังอย่างเดียว แต่ปากมีปากเดียว แต่ทำหน้าที่ ๒ อย่าง คือ ทั้งกิน ทั้งพูด จึงต้องสับหลีก แบ่งเวลาใช้งาน แต่บางคนก็ใช้ไปพร้อมกันทั้ง ๒ อย่าง คือ ทั้งกิน ทั้งพูดในเวลาเดียวกัน

          กินได้ แต่กินไม่เป็น มีปัญหาตามมา ทั้งไขมันในเลือดสูงและเบาหวาน

          พูดได้ แต่พูดไม่เป็น มีปัญหาตามมา เขาเรียกว่า แกว่งปากไปหาเท้า

          พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงองค์ประกอบที่พระองค์จะกล่าว หรือไม่กล่าวเอาไว้ว่า

๑. คำไม่จริง ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่ชอบใจ เช่น คำใส่ร้ายป้ายสี ใส่สีตีไข่ ปรารถนาทำลายชื่อเสียงคนอื่น เป็นต้น พระองค์ไม่ตรัส

๒. คำจริง ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่ชอบใจ เช่น คำนินทา เอาความไม่ดีของคนอื่นมานินทาลับหลัง แม้เป็นคำจริง แต่ไม่เป็นประโยชน์ เป็นต้น พระองค์ไม่ตรัส

๓. คำจริง เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่ชอบใจ เช่น คำแนะนำตักเตือน ไม่นิยมพูดตักเตือนในที่สาธารณชน จะทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นการประจาน ถ้าปรารถนาดี ควรเรียกมาแนะนำเป็นการส่วนตัว เป็นต้น พระองค์ตรัสแต่จะดูเวลา สถานที่ที่เหมาะสม

๔. คำจริง ไม่เป็นประโยชน์ แต่เป็นที่ชอบใจ เช่น คำส่อเสียด ยุยงให้แตกแยก เอาความข้างนี้ไปบอกข้างโน้น เพื่อทำลายคนข้างนี้ เอาความข้างโน้นมาบอกข้างนี้ เพื่อทำลายคนข้างโน้น พระองค์ไม่ตรัส

๕. คำไม่จริง ไม่เป็นประโยชน์ แต่เป็นที่ชอบใจ เช่น คำยกยอปอปั้น เกินความเป็นจริง หวังผลประโยชน์ จากคนที่ถูกยกยอปอปั้น เป็นต้น พระองค์ไม่ตรัส

๖. คำจริง เป็นประโยชน์ เป็นที่ชอบใจ เช่น คำยกย่องชมเชย ควรกล่าวในที่สาธารณชน เป็นการให้กำลังใจ และเป็นแบบอย่างอันดีงาม แก่ผู้ได้ยินได้ฟัง เป็นต้น พระองค์ตรัส แต่จะดูเวลา สถานที่ ที่เหมาะสม

          ข้อ ๓ และ ๖ ที่พระองค์ตรัส คือ ต้องเป็นคำจริง และเป็นประโยชน์ ส่วนชอบใจ หรือไม่ชอบใจ ไม่ใช่องค์ประกอบที่สำคัญ อุปมาคนไข้ที่ไม่ชอบรสชาติของยา แต่กินแล้วหายจากโรค พระองค์จะดูเวลา และสถานที่ๆ เหมาะสม

          อยากให้ปากสวย ปากหอม “พูดคำจริง เป็นประโยชน์ และถูกกาลเทศะ”

 

อยากฟันสวยมาทางนี้

650211_p06.jpg

          ฟันมีหน้าที่หลัก คือ ฉีก บด อาหารให้คลุกเคล้ากับน้ำลาย และเป็นส่วนสำคัญในการพูด และออกเสียง เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้บุคลิกภาพดูดี เกิดความเชื่อมั่น

          ฟันคนจะมี ๒ ชุด คือ ฟันน้ำนมมี ๒๐ ซี่ กับฟันแท้มี ๓๒ ซี่ แต่โดยส่วนใหญ่จะมีฟันชุดที่ ๓ คือ ฟันปลอม

          โรคฟันมีหลากหลาย เช่น ฟันผุ ฟันคุด ฟันห่าง ฟันเก ฟันซ้อน ฟันเหยิน ฟันแตก เสียวฟัน รากฟันอักเสบ เลือดออกตามไรฟัน ฯลฯ

           ในทรรศนะกฎแห่งกรรม คุณครูไม่ใหญ่เคยตอบคำถามไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ถ่ายทอดทาง DMC ว่า วิบากกรรมที่ทำให้เป็นโรคฟันเกิดจาก

๑. ในอดีตชาติ พูดคำหยาบ ด่าว่า ล้อเลียน นินทา พูดให้เจ็บช้ำน้ำใจ เป็นพ่อสื่อแม่ชัก เป็นต้น

๒. ในปัจจุบัน ดูแลรักษาฟันไม่ทั่วถึง

          ลักษณะฟันที่สวยงามที่กล่าวไว้ในลักษณะมหาบุรุษมีอย่างน้อย ๔ ประการ เกิดการทำกุศลกรรมอย่างต่อเนื่องมายาวนาน คือ

๑. มีพระทนต์ ๔๐ ซี่

๒. มีพระทนต์เรียงชิดกัน ไม่ห่าง

           ข้อ ๑ - ๒ เกิดจากในอดีตชาติ พระองค์ทรงเว้นคำพูดส่อเสียด (ยุให้แตกแยก) สมานคนที่แตกกัน ส่งเสริมคนที่ปรองดองกัน พูดแต่คำสร้างสรรค์สามัคคี มีอานิสงส์ทำให้ทรงมีบริวารไม่แตกแยก

๓. มีพระทนต์เรียบเสมอกัน

๔. มีพระเขี้ยวแก้วขาวงาม

           ข้อ ๓ - ๔ เกิดจากในอดีตชาติ พระองค์ทรงละมิจฉาอาชีวะ เว้นการโกง การล่อลวง การตลบตะแลง การขู่กรรโชก เป็นต้น ดำรงชีวิตอยู่ด้วยสัมมาอาชีวะ มีอานิสงส์ทำให้ ทรงมีบริวารที่สะอาดทั้งกาย วาจา ใจ

          สรุปที่เรียกว่าฟันสวย คือ มีฟัน ๔๐ ซี่ เรียงชิดกัน เรียบเสมอและสีขาวงาม เกิดจากการไม่พูดส่อเสียด พูดสมานสามัคคี และประกอบสัมมาอาชีวะ

          อยากได้ฟันสวยงามตามธรรมชาติไม่ต้องไปนอนอ้าปากเมื่อยกราม ให้หมอใส่เหล็กดัดฟัน ไม่ต้องทำวีเนียร์ฟัน ครอบฟัน ฟอกฟันขาว ทำแค่ 2 อย่างเท่านั้น ไม่พูดส่อเสียดกับไม่ขี้โกง ง่ายนิดเดียว !!!

 

ทำอย่างไรจึงจะได้บรรลุธรรมก่อนใครๆ

650211_p07.jpg

          วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ๔ ประการ คือ

๑. เป็นวันแรกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงปฐมเทศนา บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร

๒. เป็นวันแรกที่พระบรมศาสดาได้ปฐมสาวก คือ ท่านอัญญาโกณฑัญญะ

๓. เป็นวันแรกที่พระสงฆ์เกิดขึ้นในโลก

๔. เป็นวันแรกที่บังเกิดพระรัตนตรัยครบ คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์

          พอใกล้ถึงวันอาสาฬหบูชา มีสิ่งที่น่ามาทบทวน คือ ทำไมท่านอัญญาโกณฑัญญะ จึงได้บรรลุธรรมก่อนใครๆ มีเรื่องเล่าว่า ในอดีตชาติ ท่านมีอัธยาศัยชอบให้ทานตามกาล ให้ทานก่อนใครๆ ที่เรียกว่า ให้ทานตามกาลนั้นมี ๕ ประการ คือ

๑. ให้ทานแก่ผู้ที่มา

๒. ให้ทานแก่ผู้ที่เตรียมจะไป

๓. ให้ทานในสมัยที่ข้าวยากหมากแพง

๔. ให้ข้าวออกใหม่แก่ผู้มีศีล

๕. ให้ผลไม้ออกใหม่แก่ผู้มีศีล

          ในสมัยพระวิปัสสีพุทธเจ้า ท่านเกิดเป็นเกษตรกรฐานะดี ได้จัดภัตตาหารอันเลิศถวายพระบรมศาสดาและพระสาวก ในคราวเก็บเกี่ยวถึงปีละ ๙ ครั้ง คือ

๑. ฤดูหว่าน ก็ถวายทาน

๒. ข้าวสาลีตั้งท้อง เป็นน้ำเหลวในข้าวเปลือก เอามาทำเป็นข้าวยาคู นำไปถวายทาน

๓. เป็นข้าวเม่า เริ่มแข็งตัวแต่ยังนิ่มๆ เอามาทำข้าวเม่า ใส่มะพร้าว น้ำตาล และน้ำเกลือ เอาไปถวายทาน

๔. ข้าวสุกแล้วเกี่ยว ก็เอาข้าวชุดแรก ไปถวายทาน

๕. ข้าวเขนดมัดเป็นกำๆ ก็ถวายทาน

๖. ข้าวมัดเป็นฟอนๆ หลายๆ กำ มัดเป็น ๑ ฟอน) ก็ถวายทาน

๗. ขนข้าวเข้าในลาน ก็ถวายทาน

๘. นวดข้าวที่ออกจากรวง ก็ถวายทาน

๙. ขนข้าวเข้าเก็บในยุ้งฉาง ก็ถวายทาน

           พระบรมศาสดาตรัสอานิสงส์ของกาลทานเอาไว้ว่า ย่อมทำให้มีโภคสมบัติมาก ประสงค์สิ่งใด ย่อมสำเร็จตามที่ปรารถนาได้โดยเร็วพลัน

           ท่านอัญญาโกณฑัญญะจึงได้บรรลุธรรมก่อนใครๆ เป็นปฐมสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระสงฆ์รูปแรกที่ทำให้พระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ ด้วยอานุภาพของกาลทาน

          ใกล้เข้าพรรษาแล้ว สมัยก่อนถวายเทียนเข้าพรรษา เดี๋ยวนี้ถวายหลอดไฟฟ้า สมัยก่อนถวายผ้าอาบน้ำฝน เดี๋ยวนี้ถวายผ้าเช็ดตัวร่วมด้วยก็ได้ ถึงคราวบุญส่งผลจะได้บรรลุธรรมเป็นคนแรกกับเขาบ้าง

 

จากหนังสือ ราตรีสว่าง

พระครูวิบูลนิติธรรม (ไพบูลย์ ธัมมวิปุโล)

**บทความ แนะนำ/เกี่ยวข้อง

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0016992847124736 Mins