โอวาท..การบวชเป็นการลงทุนข้ามชาติ

วันที่ 12 มีค. พ.ศ.2554

โอวาท..การบวชเป็นการลงทุนข้ามชาติ

             การบวชเป็นพระไม่ใช่ง่ายนะ ต้องสั่งสมบุญกันข้ามภพข้ามชาติ กว่าจะมาเป็นผู้ชายกว่าจะมีกุศลศรัทธาอยากบวชก็ไม่ง่าย และต้องมีคุณสมบัติที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตเอาไว้ครบถ้วนบริบูรณ์ ถึงจะบวชได้ ...เป็นการลงทุนข้ามชาติทีเดียวคือ ชาติที่ผ่านมาจะต้องสั่งสมบุญให้ได้เกิดเป็นผู้ชาย บุญน้อยก็ด้อยโอกาส บุญมากก็ได้โอกาส ต้องสั่งสมบุญมาก เป็นกะเทยก็บวชไม่ได้ ผู้หญิงก็ไม่ได้ ต้องผู้ชาย ขนาดเห็นว่าเป็นผู้ชาย ยังต้องถามกันในโบสถ์เลย ปุริโสสิ ผู้ชายรึ ไม่น่าเชื่อ เห็นกันจะ จะ ขนาดนี้ ยังต้องถาม เดี๋ยวนี้ต้องถามกันให้หนักยิ่งขึ้นไปอีก สมัยก่อนในโบสถ์เขาถามกันครั้งเดียว ปุริโสสิ ผู้ชายรึ ทีนี้ต้องถาม ๓ ครั้ง ไม่ค่อยจะมั่นใจ ถ้าเกิด ผู้ชายฮ่ะ อะไรอย่างนี้ยุ่งเลย

 

            สมัยก่อนมีธรรมเนียมปฏิบัติเกี่ยวกับการบวชซึ่งถือเป็นประเพณี นั่นคือ การทำขวัญนาค แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกเจือจางไปแล้ว หลวงพ่อยังเห็นด้วยกับประเพณีนี้ เพราะการบวชนาคสมัยก่อนเสียขวัญนะ จะต้องเรียกขวัญกันโดยหมอทำขวัญหมอทำขวัญนี่น่านับถือจริง ๆ เขาจะพูดถึงพระคุณของบิดามารดา ซึ่งปกตินาคตอนก่อนบวชจะไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อแม่สักเท่าไร เพราะความคุ้นเคย เลยมองข้ามไป เห็นท่านใจดีก็เฉย ๆ เตือนอะไรก็ทำเป็นหูทวนลม เพราะว่ายังไม่แจ่มแจ้ง มองไม่เห็นคุณของบิดามารดาตอนทำขวัญนาคนี่แหละ หมอทำขวัญแหล่ทีหนึ่งนะ นาคนี่ร้องไห้เลย ซาบซึ้งกว่าพระเทศน์อีก พระเทศน์เรื่องพระคุณของบิดามารดา สู้หมอทำขวัญไม่ได้เพราะเขาเป็นอาชีพ อาชีพเขาจะต้องทำให้ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งนาคต้องร้องไห้ ถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ และก็มีความจำเป็นมาก ๆ ในการที่หมอทำขวัญจะต้องพูดให้ซาบซึ้งว่า การบวชคราวนี้ นอกจากเพื่อตัวเองแล้วเพื่อใคร และใครคนนั้นมีพระคุณต่อเราอย่างไร ต้องให้ซึ้งขนาดนั้น บางทีเขาแหล่กันทั้งคืนเลย หมู่ญาติพี่น้องก็รวมประชุมกัน ต้องลงทุนบางครั้งเป็นหมื่นเลย ขายนา ขายวัว ขายควาย เอามาทำขวัญนาค แล้วก็เลี้ยงแขกที่มาร่วมงานในวันนั้น

 

             ถามว่า คุ้มไหม หลวงพ่อว่า คุ้ม ในด้านจิตใจ ในด้านคุณธรรม แต่ในด้านเศรษฐกิจนี่ดูเผิน ๆ แล้วมันก็ไม่น่าจะคุ้ม บางคนก็เป็นหนี้เป็นสิน แต่ถ้าคิดระยะยาวว่า นาคซาบซึ้ง เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของนาคนั้น จากแต่เดิมสำมะเลเทเมา ไม่รู้คุณบิดามารดามาซาบซึ้ง เพราะความซาบซึ้ง ทำให้ตั้งใจบวช ตั้งใจเป็นพระแท้ เพราะช่วงสั้น ๆ แค่พรรษาหนึ่ง และก็ยังมีความเคารพบิดามารดาซึ่งเป็นคุณธรรมที่เกิดขึ้นในใจ จากคนดีน้อยก็จะดีมาก จากดื้อมาเป็นดีนั่นแหละ และดีตรงนี้จะทำให้เป็นพระดีและภาพเหล่านี้จะไปปรากฏตอนช่วงสุดท้ายก่อนละโลก เห็นแล้วปลื้ม คุณธรรมที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา แล้วบวชเป็นพระแท้ช่วงสั้น ส่งผลตอนใกล้จะละโลก แม้หากพลาดพลั้งไปยมโลก เพราะอาจจะมีเรื่องทำให้ใจหมองบ้าง ก็ยังได้รับการทบทวนจากพญายมราช ซึ่งจะไม่พูดเรื่องเศรษฐกิจเลย พญายมราชจะไม่ถามว่า เป็นไงขายเต้าฮวย ขายเฉาก๊วยรวยไหม ไม่ถาม ถามแต่เรื่องบุญ เรื่องบาป และภาพตรงนี้จะไปปรากฏให้เห็นบนจอ อดีตนาคหรืออดีตพระแท้ซึ่งอาจจะพลาดพลั้งตอนชิงช่วง ช่วงชิง ศึกชิงภพ จะปลื้มปีติในตอนนั้น แล้วทำให้ชีวิตไม่ต้องไปอยู่ยมโลก หรือไปอบาย แต่ไปสู่สุคติภพ

           ถามว่าการลงทุนในคราวนั้นคุ้มไหม คุ้มนะ แต่ต่อมามีพระรูปนั้นรูปนี้เทศน์ว่า เป็นการเปลืองเศรษฐกิจ ทำให้เป็นหนี้เป็นสินไม่คุ้มกัน ประเพณีนี้ก็เลยค่อย ๆ เลือนรางหายไป จนเหลือน้อยเต็มที ซึ่งน่าเสียดายถ้าใครยังนึกถึงพระคุณพ่อแม่ไม่ออก ที่บ้านไหนมีการทำขวัญนาคให้ไปนั่งฟัง จะซาบซึ้งจริง ๆ นี่ก็เป็นการลงทุนนะ กว่าจะบวชได้ แล้วหมู่ญาติก็เข้ามากันอีก บริขารเอย จะต้องใช้เงินใช้ทองซื้อกัน ลงทุนกันมากมาย ลงทุนเป็นทรัพย์ก็ยังพอว่า แต่ลงทุนด้วยหัวใจที่อยากจะบวชนี่สิ ไม่ใช่ง่าย อยากจะบวชเอาบุญนี้ให้ตัวเอง ให้โยมพ่อ โยมแม่ หมู่ญาติ บรรพบุรุษ บุพการี
 

วันอังคารที่ ๑๓ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
จากหนังสือชีวิตสมณะ.....จัดพิมพ์ปี พ.ศ.๒๕๔๖

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0013200640678406 Mins