อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ สำหรับ ผู้สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะได้รับของที่ระลึกเป็นพระธรรมกายของขวัญ

อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ เรื่องที่ ๕๙ รอดตายจากมะเร็งร้าย ดังทั่วฮ่องกง

 

เรื่องที่ ๕๙ รอดตายจากมะเร็งร้าย ดังทั่วฮ่องกง
 

สืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้นำเรื่อง ความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในฮ่องกงอันเนื่องมาจากอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุมาเล่าให้ฟัง ได้มีผู้สนใจอยากทราบรายละเอียดกันมาก ดังนั้น ทางศูนย์ฮ่องกงจึงใคร่ขอนำเรื่องความอัศจรรย์นี้มาลงไว้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ถึงเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาสิริราชธาตุที่ปรากฏเกิดขึ้นในต่างประเทศ เรื่องราวมีอยู่ว่า


มีครอบครัวหนึ่งซึ่งผู้เป็นแม่เป็นคนไทยที่ได้แต่งงานกับคนฮ่องกง มีบุตร ๔ คน ลูกสาวคนสุดท้องชื่อ อึ้ง โอย ฟั้น ชื่อเล่น อาฟั้น อายุประมาณ ๑๗ ปี กำลังอยู่ในวัยสดใสร่าเริง ครอบครัวนี้ได้มาทำบุญที่ศูนย์์ฮ่องกงเป็นประจำ โดยการแนะนำของน้าสาว


อยู่มาวันหนึ่ง ประมาณวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑  อาฟั้นล้มป่วยลง มีอาการปวดศีรษะ ต้องเข้าโรงพยาบาลถ่องเหล่อว้าน เมื่อวันที่ ๗ กันยายน หลังจากแพทย์ตรวจสอบพบว่าเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด ต่อมาอาฟั้นได้ย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลทีไฉ่ว้าน เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงและทันสมัยด้านวิชาการแพทย์มาก คณะแพทย์ในโรงพยาบาลลงความเห็นว่า อาฟั้นเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขั้นสุดท้าย และจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินวันที่ ๑๓ กันยายน

อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ พระดูดทรัพย์ เรื่องที่ ๕๙ รอดตายจากมะเร็งร้าย ดังทั่วฮ่องกงน้าสาวซึ่งเป็นกัลยาณมิตร ได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์ที่ศูนย์ฮ่องกงว่า ให้สร้างองค์พระแกนกลาง เพื่อบูชาธรรมครูบาอาจารย์ น้าสาวก็ได้สร้างองค์พระแกนกลางบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย เมื่อวันที่ ๓ สิงหาคมที่ผ่านมา และได้รับพระมหาสิริราชธาตุจากพระอาจารย์เมื่อวันที่ ๓ กันยายน พอรู้ว่าหลานสาวป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือด ก็ได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์ว่า ควรนำพระมหาสิริราชธาตุนี้ไปให้หลานสาว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่คนไข้ เธอจึงนำพระมหาสิริราชธาตุไปให้หลานสาวที่โรงพยาบาล ในวันที่ ๑๐ กันยายน สำหรับคล้องคอ แต่เนื่องจากการรักษาต้องมีการเจาะคอ จึงมีรอยแผลที่คอ ไม่เหมาะกับการสวมใส่สร้อยที่จะแขวนองค์พระได้ จึงได้นำพระมหาสิริราชธาตุไปไว้ข้างๆ ตัวคนไข้

อาฟั้นได้รับการแนะนำจากน้าสาวให้ท่องคำว่า "สัมมา อะระหัง" ก็พยายามสะกดและท่องไปเรื่อยๆ หลังจากที่อาฟั้นได้รับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุแล้ว ก็มีกำลังใจ ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นแม้แต่ความตาย เธอมีความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าร่าเริง และกลับเป็นผู้ให้กำลังใจต่อผู้ที่มาเยี่ยมตลอดเวลา ไม่มีอาการทุกข์ร้อนเลย เมื่อมีเพื่อนๆ มาเยี่ยม อาฟั้นก็ต้อนรับเพื่อนๆ ด้วยอัธยาศัยที่ดี มีเพื่อนรายหนึ่งซึ่งนับถือศาสนาคริสต์บอกว่า จะสวดมนต์ภาวนา ขอต่อพระเจ้าให้ เพื่อให้รอดพ้นจากความตาย อาฟั้นกลับบอกว่า "ไม่ต้องหรอก ฉันมีพระเจ้าของฉันแล้ว นี่ไง เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์" แล้วก็เที่ยวบอกใครต่อใครว่า "ฉันเชื่อว่าฉันไม่เป็นอะไรหรอก เพราะฉันมีพระองค์นี้อยู่ข้างๆ"

จนกระทั่งถึงวันที่ ๑๓ กันยายน ซึ่งหมอได้เคยวินิจฉัยว่า อาฟั้นจะมีชีวิตอยู่ไม่เกินจากวันนี้เด็ดขาด แต่ปรากฏว่า คนไข้ก็ยังมีอาการสดชื่นเหมือนเดิม และดีขึ้นเรื่อยๆ จนคณะแพทย์เกิดความประหลาดใจ คิดว่าตนเองวินิจฉัยโรคผิด จึงได้มีการตรวจสอบกันจนถึงแพทย์ใหญ่ประจำโรงพยาบาล อีกทั้งขอให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญโรคนี้จากโรงพยาบาลอื่นมาตรวจสอบ ก็ได้ข้อสรุปเช่นเดียวกันว่า ไม่มีการวินิจฉัยผิดพลาดแต่ประการใด แต่ก็ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมคนไข้จึงสามารถรอดชีวิตอยู่ได้ และมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ แผลที่เจาะที่บริเวณคอก็ดี หรือที่หน้าอก ตลอดจนกระดูกสันหลังก็ดี ก็หายอย่างรวดเร็ว และหายสนิทจนไม่เห็นแผลเป็น จนแพทย์รู้สึกฉงนสนเท่ห์หาคำตอบไม่ได้ ผู้ที่ทราบเรื่องก็เที่ยวโจษจันกันไปทั่ว และพากันมาดูอาการ เพื่อให้ประจักษ์กับนัยน์ตาของตัวเอง จนกระทั่งข่าวนี้ได้รู้ไปถึงนักข่าวและทีวี ตลอดจนนักจัดรายการวิทยุต่างก็พากันมาขอสัมภาษณ์ออกอากาศกระจายเสียงไปทั่วฮ่องกง

บัดนี้่ อาฟั้นได้รับการเปลี่ยนชุดยาระลอกที่ ๒ พร้อมกับรอดูผลอีกครั้งใน วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ แต่อย่างไรก็ตามคณะแพทย์ก็ลงความเห็น ว่า คนไข้มีสุขภาพที่ดีมาก จึงอนุญาตเป็นพิเศษให้อาฟั้นออกนอกโรงพยาบาลได้วันละ ๒ ชั่วโมง ขณะนี้อาฟั้นสามารถคล้องพระมหาสิริราชธาตุไว้ที่คอได้ตลอดเวลาแล้ว แม้กระทั่งในยามที่อาบน้ำ อาฟั้นเล่าว่า มีความรู้สึกอบอุ่นมากๆ เหมือนกับว่า มีผู้ให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองอยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา ไม่รู้สึกว่าเป็นทุกข์เลย และเชื่อมั่นในบุญมาก

พร้อมทั้งยังย้ำกับน้าสาวอีกว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเธอเชื่อในบุญมาก แล้วยังแถมท้ายกับน้าสาวว่า "น้ารู้มั้ยว่าบุญเป็นอย่างไร ให้เชื่อแล้วก็จะรู้เอง"

เนื่องจากได้เห็นคุณค่าของบุญ อาฟั้นจึงนำเงินมาสร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานภายนอกมหาธรรมกายเจดีย์ และตั้งความปรารถนาไว้ว่าจะมาเมืองไทยให้ได้ เพื่อกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย มาเยี่ยมชมวัดพระธรรมกาย และสักการะมหาธรรมกายเจดีย์
 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล