กระต่ายในดวงจันทร์

วันที่ 26 พย. พ.ศ.2558

กระต่ายในดวงจันทร์


            สาเหตุที่ตรัสชาดก ณ นครสาวัตถี กุฎมพีคนหนึ่งถวายทานประณีตตลอด 7 วัน พระทศพลทรงทำอนุโมทนา ตรัสว่า ทานนี้เป็นวงศ์ของบัณฑิตทั้งหลาย ด้วยว่าบัณฑิตทั้งหลายได้บริจาคชีวิตแก่ยาจกผู้มาถึง แม้ชีวิตของตนก็ได้ให้แล้ว เมื่อกุฎมพีทูลอาราธนา พระองค์จึงทรงนำเรื่องในอดีตมาสาธกดังต่อไปนี้..

       ครั้งหนึ่ง มีกระต่ายป่านามว่า บัณฑิต มีนาก ลิง จิ้งจอกเป็นสหาย คืนหนึ่งกระต่ายเห็นพระจันทร์ใกล้เต็มดวงก็รู้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันพระแน่แท้ จึงชวนเพื่อนๆ มารักษาศีล 8 กัน โดยพูดกับนาก ลิง จิ้งจอก ว่า..

"เพื่อนเอ๋ย! การให้ทานกับผู้ทรงศีลนั้นมีผลมากนะ พรุ่งนี้ถ้ามีใครมาขออาหารกับพวกเราพวกเรามาให้อาหารรสเลิศกันเถอะ!"

 

        เพื่อนๆ ต่างรับคำ รุ่งขึ้นนากไปริมฝังแม่น้ำคุ้ยทรายเห็นปลาจึงนำออกมา ฝ่ายจิ้งจอกออกหาเนื้อที่ท้องนาพบเหี้ยย่างถูกวางทิ้งไว้ในกระท่อมร้างจึงนำมาเก็บไว้ส่วนลิงก็ปีนต้นไม้เก็บมะม่วงมาตุนไว้ ทว่ากระต่ายนับว่าหมดโอกาสหาเนื้อเพราะเป็นสัตว์กินหญ้าแต่หาได้ปิดโอกาสตนไม่ กลับคิดว่า..

"ถ้าใครมาขออาหารเรา เราจะมัวหาของอย่างอื่นไปทำไมกัน ก็เนื้อเรานี่แหละ! ไม่ต้องไปเดือดร้อนผู้อื่นด้วย เราจะให้ตัวเรา!"

 

            กระต่ายตัวนี้คิดอย่างไร ผู้ที่กลัวตายอาจบางทีไม่มีปัญญาเข้าใจเลย บางคนกลัวที่จะให้ทานกลัวสูญเสียความสะดวกสบายของตนไป ยังให้ไม่ได้แม้สิ่งของเครื่องใช้ อย่าว่าแต่จะให้ชีวิตเลยกระต่ายป่า บัณฑิตยามนี้ปลอดโปร่งโล่งใจอย่างยิ่ง ..แล้วพราหมณ์คนหนึ่งก็เดินมา กระต่ายเริงร่ารีบเข้าไปถามพราหมณ์ว่า..

"ท่านพราหมณ์! ท่านมาเพื่อต้องการอะไรไหม"
"ข้าพเจ้าต้องการอาหารแล้วจะเข้าป่าบำเพ็ญธรรมน่ะ" พราหมณ์ตอบกระต่ายคล้ายรอฟังคำนี้อยู่เกิดปีติถึงขีดสุดรีบบอกกับพราหมณ์ว่า..
"ประเสริฐๆ ท่านมาดีแล้ว วันนี้เราจะให้ทานที่ยังไม่เคยให้ใครมาก่อน แต่ท่านมีศีลย่อมไม่ฆ่าสัตว์ ขอท่านโปรดนำฟืนมาก่อไฟตรงนี้ให้ทีเถิด เดี๋ยวข้าพเจ้าจะกระโดดเข้ากองไฟ เมื่อสุกแล้วท่านก็กินก่อนเถิด แล้วค่อยไปปฏิบัติสมณธรรม"

 

            พราหมณ์ก่อไฟขึ้นแล้ว กระต่ายก็อยู่หน้ากองเพลิงแล้ว ไฟร้อนอย่างยิ่ง พระจันทร์ก็สว่างอย่างยิ่ง ใจกระต่ายสว่างยิ่งกว่า กระต่ายสลัดขนจนมั่นใจว่าไม่มีชีวิตอื่นอยู่ในขนของตนแล้วก็กระโดดโลดเต้นมีใจเบิกบานไม่อาลัยในชีวิต แล้วกระโดดเข้ากองเพลิงทันที! ไฟที่เคยให้ความร้อนแต่ตอนนี้ความร้อนของไฟนี้ไม่ด้อยไปกว่าน้ำแข็ง กระทั่งยังเย็นกว่าน้ำแข็ง ที่แท้เป็นไฟอะไรกัน หรือเป็นไฟอัศจรรย์ที่คู่ควรกับใจอัศจรรย์! กระต่ายมิอยากเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ เพราะแม้สักขุมขนในร่างกายก็ไม่ไหม้กระต่ายป่าในกองเพลิงถามพราหมณ์ว่า..

"ไฟที่ท่านก่อไว้ไฉนกลับเย็นยิ่งนัก นี่อะไรกัน"
"เราคือท้าวสักกะ! มาทดลองใจท่าน"
พราหมณ์ตอบกระต่ายกล่าวเด็ดเดี่ยวว่า..
"ท่านคือท้าวสักกะหรือ! อย่าว่าแต่พระองค์เลย มาตรว่าผู้ใดทั้งโลกจะทดลองข้าพระองค์ด้วยการให้ทาน ก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นข้าพระองค์ไม่ให้ทานเลย บัดนี้ข้าพระองค์ให้แล้วซึ่งกายทั้งสิ้นโดยไม่มีเหลือคือ ขน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก และชิ้นหัวใจ เพื่อหนุนสันดานบ่มบารมีให้แก่รอบขึ้นแล้ว"

        ท้าวสักกะทรงเลื่อมใสนิยมยินดีในกระต่ายเหลือประมาณ ทรงประสงค์จะประกาศคุณธรรมล้ำเลิศของกระต่ายผู้กล้าหาญตนนี้ จึงกล่าวว่า..
"ท่าน บัณฑิต! เราขอให้คุณธรรมของท่านได้ปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดกัปนี้เถิด"

        ท้าวสักกะทรงบีบเขาบรรพต เขียนภาพกระต่าย บัณฑิตไว้ในดวงจันทร์ แล้วเสด็จกลับสู่เทวโลกส่วนสหายทั้ง 3 ได้พร้อมเพรียงรักษาศีลบันเทิงใจในป่า สืบไป..

          ..รูปสลักกระต่าย บัณฑิตในจันทร์เพ็ญ ยังคงปรากฏเห็นเป็นกระต่ายชัดเจนตราบจนวันนี้และจะปรากฏตราบจักรวาลสาบสูญสิ้น กระทั่งปรากฏในใจผู้คนจนนิจนิรันดร์ค่ำคืนเพ็ญ เมื่อทุกหมู่ผู้คนเหม่อมองท้องนภา จิตใจจึงแช่มชื่นกว่าทุกวัน..


ประชุมชาดก
           พระทศพลทรงประชุมชาดกว่า นากในกาลนั้นได้เป็นพระอานนท์สุนัขจิ้งจอกได้เป็นพระโมคคัลลานะ ลิงเป็นพระสารีบุตร ท้าวสักกะเป็นพระอนุรุทธะส่วน บัณฑิตเป็นเราตถาคตแล"เขาว่ากระต่ายนั้นหมายจันทร์ จันทร์ต่างหากที่หมายมั่นกระต่ายป่าเพราะต้องการให้เห็นเด่นเต็มตา เพื่อผู้คนค้นหาวีรกรรม"จากชาดกเรื่องนี้ เป็นตัวอย่างของการให้ทานที่ยิ่งกว่าการสละอวัยวะ เพราะผู้ให้มุ่งให้ชีวิตผู้ให้จะต้องมองเห็นการตายเป็นเรื่องเล็กน้อยกว่าการได้บารมี เห็นว่าบารมีเป็นสิ่งคุ้มค่าที่ได้มาความรักในการให้ทานจึงต้องอยู่ในระดับสูง ที่ไม่มีอะไรติดพันในใจได้อีกแล้ว ถือเป็นยอดทานบารมีหากผู้ใดทำได้เนืองนิตย์ ก็จะได้นิสัยแห่งทานบารมีที่อุกฤษฏ์มาครอบครอง"นิสัยรักการให้ทาน, มองเห็นการตายเป็นเรื่องเล็กกว่าการได้ทานบารมี และให้ทานโดย
ไม่มีใจติดพันกับสิ่งใด" ทั้งหมดนี้จึงนับเป็นนิสัยในวิถีนักสร้างบารมีที่นับเนื่องเข้าในทานบารมี

-----------------------------------------------

SB 405 ชาดก วิถีนักสร้างบารมี

กลุ่มวิชาพุทธวิธีในการพัฒนานิสัย

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.010590199629466 Mins