อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ สำหรับ ผู้สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะได้รับของที่ระลึกเป็นพระธรรมกายของขวัญ

อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ เรื่องที่ ๒๙ พระช่วยชีวิตลูก

เรื่องที่ ๒๙ พระช่วยชีวิตลูก
 

คุณธีรพงษ์ สุภาพรรณวดี เล่าเรื่องญาติไว้ว่า เมื่อประมาณ ๖ เดือนที่ผ่านมา คุณธีรพงษ์กับภรรยาได้พาพี่สะใภ้ของภรรยาไปทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวที่วัด ๑ องค์ เวลานั้นกำลังตั้งครรภ์ได้ ๓-๔ เดือน พอวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๔๑ ได้คลอดลูกออกมาเป็นชาย ช้ากว่ากำหนด ๒ สัปดาห์ ปรากฏว่าเด็กมีลักษณะผอมมาก มีอาการเพียบหนัก เพราะมีสายรกพันรอบคอถึง ๓ รอบ และสายรกยังเสื่อมสภาพ ก่อนคลอดเด็กจึงไม่ได้อาหารจากมารดา มีขี้เทาเข้าไปอยู่เต็มปอด


หลังคลอดจึงถูกส่งเข้าห้องเด็กอาการหนัก ให้ทั้งออกซิเจน น้ำเกลือ และดูดขี้เทาจากปอด แพทย์ที่ดูแลบอกญาติว่า โอกาสรอดมีน้อยมาก และบอกกับบิดาของเด็กว่า "มีอะไรเป็นที่พึ่งทางใจได้ ก็ทำเถอะครับ ของอย่างนี้เชื่อไว้บ้างก็ดี"


บิดาของทารกเป็นคนรักเด็ก จึงกลุ้มใจมาก เพราะเป็นลูกคนแรกเสียด้วย จึงโทรศัพท์มาคุยกับภรรยาของคุณธีรพงษ์ บอกว่า หลานเกิดแล้วแต่อาการหนักมาก ไม่รู้จะรอดหรือเปล่า และยังไม่ได้บอกอาการของเด็กให้ภรรยาของตนทราบ

เวลานั้นคุณธีรพงษ์ทราบเรื่องจากภรรยา จึงแนะนำว่าให้ผู้เป็นสามีบอกภรรยาให้นึกถึงบุญที่สร้างพระธรรมกายประจำตัวอานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ พระดูดทรัพย์ เรื่องที่ ๒๙ พระช่วยชีวิตลูก

วันอาทิตย์ที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๔๑ คุณธีรพงษ์และภรรยาได้รับพระมหาสิริราชธาตุจากทางวัด เนื่องจากทำบุญไว้ และยังได้สร้างองค์พระประจำตัวให้หลานชายที่เกิดใหม่ด้วย

คุณธีรพงษ์รีบนำพระมหาสิริราชธาตุ พร้อมใบอนุโมทนาบัตรเดินทางไปเยี่ยมทารกในเย็นวันนั้น ปกติแล้วพยาบาลจะไม่อนุญาตให้คนเยี่ยมนำสิ่งของอะไรติดตัวเข้าไป เพราะอาจมีเชื้อโรคติดเด็ก แต่วันนั้นยินยอม พ่อของเด็กให้เด็กได้สัมผัสองค์พระมหาสิริราชธาตุที่คุณธีรพงษ์ให้ยืม และอธิษฐานจิตขอให้ท่านดลบันดาลให้ลูกหายวันหายคืน

รุ่งขึ้นตอนเย็น พ่อของเด็กไปเยี่ยมเหมือนเช่นเคย พบว่าอาการของเด็กดีขึ้นมาก ถอดสายน้ำเกลือออกได้ ยังมีอาการหายใจแรงอยู่บ้าง จากนั้นก็ดีขึ้นเรื่อยๆ คุณธีรพงษ์ทราบข่าวรู้สึกดีใจ เชื่อมั่นว่าเป็นเพราะอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ

วันที่ ๒๖ สิงหาคม ได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้ออกจากโรงพยาบาลได้ เพราะอาการปกติแล้ว แพทย์พูดกับพ่อแม่ของเด็กว่า
"คุณโชคดีนะ ที่ลูกรอดปลอดภัยมาได้"

คนเราเกิดมา ไม่ใช่สาเหตุเพียงแค่การผสมกันระหว่างไข่ของมารดากับตัวเชื้อของบิดา ต้องมีปฏิสนธิวิญญาณร่วมอยู่ด้วย ในปฏิสนธิวิญญาณย่อมจะมีชนกกรรมนำมาเกิด นั่นคือกรรมจากอดีต มีกรรมดีนำส่งมา ย่อมได้รูปร่างดี แข็งแรง เจริญเติบโตถูกส่วน ถือกำเนิดสะดวก ตรงกันข้ามหาก มีกรรมไม่ดีติดมาด้วย บางรายถึงกับตายเสียตั้งแต่อยู่ในครรภ์

เมื่อเกิดเป็นตัวตนขึ้นมาแล้ว แม้อยู่ในครรภ์มารดา ก็ต้องพึ่งกรรมอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า อุปถัมภกกรรม คือกรรมตามรักษา คนมีกรรมดีตามรักษา พอมารดาเริ่มตั้งครรภ์ ครอบครัวทำมาหากินราบรื่น ร่ำรวยผิดปกติ บางทีบิดามารดาได้ความเจริญรุ่งเรืองต่างๆ ทำให้มีกำลังดูแลเด็กได้เต็มที่ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ออกจากครรภ์มาแล้ว ก็มีบริวารมาช่วยเลี้ยงดู มีรายได้ไม่ฝืดเคือง คนโบราณจึงเรียกเด็กชนิดมีกรรมดีนำมาเกิด กรรมดีตามมารักษาว่า "ผู้มีบุญมาเกิด"

คนเป็นพ่อแม่หากฉลาด ควรจะสอนเรื่องเหล่านี้ให้เด็กทราบตั้งแต่พอรู้ความ ให้รู้คุณค่าของชีวิตว่าบุญคือกรรมดี มีความจำเป็นอย่างไร โดยเล่าตัวอย่างจริงจากชีวิตของตัวเด็กเองตั้งแต่เกิด เพราะคนเราทุกคนมีสัญชาตญาณรักตัวเองทั้งสิ้น เด็กฟังแล้วย่อมสนใจกว่าเรื่องของคนอื่น ทำให้จิตใจอ่อนโยนในการรับฟังคำสั่งสอน สนใจเรื่องประกอบกรรมดี

กรณีหลานชายของคุณธีรพงษ์ที่เล่าไว้นี้ พ่อแม่ควรต้องเล่าประวัติให้เด็กฟังเมื่อเด็กเติบโตรู้ความ ให้รู้ว่าตนเองเป็นเด็กที่พ่อแม่ และหมอหมดหนทางช่วยเหลือแล้ว มีแต่พระศักดิ์สิทธิ์ท่านช่วยชีวิตไว้ ต้องถือว่าตนเองเป็นลูกพระพุทธเจ้าตั้งแต่เกิด ควรทำตามคำสอนของพระองค์
ด้วยอุบายทำนองนี้ ย่อมสามารถอบรมให้ลูกเป็นคนดีที่น่ารักได้ และ ตามความเป็นจริงก็น่าจะเป็นเช่นนั้น กระแสพลังของวัตถุธาตุที่นำมาสร้างเป็นองค์พระ รวมกับพลังบุญที่ผู้มีฤทธิ์ทางจิตบรรจุไว้ ย่อมเชื่อมต่อกับบุญเดิมของเด็กที่ติดตัวมาจากชาติปางก่อนได้ทัน ช่วยชีวิตไว้ได้ ถ้ามิฉะนั้นกรรมที่เป็นบาปอกุศลซึ่งตามมาทันเด็กด้วยเหมือนกัน อาจจะทำหน้าที่เบียดเบียนตัดรอนกรรมดีฝ่ายกุศลให้หมดกำลังส่งผล เด็กก็ย่อมไม่รอดชีวิต

ควรปลูกฝังให้เด็กเชื่อมั่นว่าเขารอดตายได้เพราะบุญ จะได้มีนิสัยรักบุญ ไม่กล้าทำบาป เท่ากับให้วัคซีนชีวิตที่ดีที่สุดแก่ลูก 
 
บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล