อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ สำหรับ ผู้สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะได้รับของที่ระลึกเป็นพระธรรมกายของขวัญ

อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ คอลัมน์พิเศษ "ตรวจสอบวัดพระธรรมกาย!"

คอลัมน์พิเศษ "ตรวจสอบวัดพระธรรมกาย!"

การสนทนาระหว่าง พระภาวนาวิริยคุณ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณอาคม เอ่งฉ้วน และผู้สื่อข่าว
เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๑


 

รัฐมนตรี:การสร้างพระผ่อนส่งนี่แล้วแต่เขาศรัทธาใช่ไหมครับ
หลวงพ่อ: ใช่ เพราะการทำบุญเราบังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว

รัฐมนตรี:ที่ผมดูนะหลวงพ่อ ส่วนใหญ่ที่วัดพระธรรมกายมีชื่อเสียงมากก็เรื่องนั่งสมาธิ หลวงพ่อมีหลักอย่างไร จึงทำไห้คนเป็นแสนๆ มานั่งวิปัสสนาได้
หลวงพ่อ:ประเด็นจริง ๆ มีอยู่นิดเดียว
รัฐมนตรี:เป็นจุดขายของวัดนี้ใช่ไหม
หลวงพ่อ:อย่าใช้คำว่าจุดขายเลยนะ พระพุทธองค์ทรงสอนไว้เลยว่าในการอบรมคนที่ได้ผล
(๑) ต้องเทศน์หรือต้องเลคเชอร์ให้เข้าใจหลักการก่อน
(๒) พอเข้าใจหลักการแล้วต้องลงมือรักษาศีลด้วยตัวเองเพื่อควบคุมกายกับวาจา
(๓) ลงมือฝึกสมาธิเพื่อควบคุมใจ เมื่อทั้งกายวาจาใจถูกควบคุม แล้วก็ฟังเลคเชอร์ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจในทางดีก็เกิดขึ้น ถ้าพูดอีกทีหนึ่งการรักษาศีล และการนั่งสมาธิ เรียกรวมๆ ว่า การปฏิบัติ ส่วนการฟังเทศน์ก็คือปริยัติทั้งปฏิบัติและปริยัติต้องคู่กัน ถ้าไม่คู่กันผลไม่ออก ที่วัดพระธรรมกาย ภาคเช้าเป็นการปฏิบัติ ภาคบ่ายเป็นการเทศน์หรือปริยัติ ทั้งสองอย่างควบคู่กันไป จึงเกิดผลทางด้านศีลธรรมขึ้นในจิตใจของประชาชน และที่สำคัญคือพระอาจารย์ที่สอนคือ เจ้าอาวาสทำสมาธิได้ดีเมื่อทำสมาธิได้ดี คนเห็นผลของการทำสมาธิเพราะท่านสอนถูกประเด็นเข้าประเด็นทุกเรื่องไป เขาฝึกตามนั้น ได้ผลตามนั้น เขาจึงมาฝึกอย่างต่อเนื่อง และไปชักชวนกันมาเพิ่มมาก

รัฐมนตรี:ทีนี้มันมีประเด็นอยู่ประเด็นหนึ่ง ตามที่ผมเข้าใจนะ เพราะว่าหลวงพ่อให้ผมดูศาลาตั้งแต่ศาลาหลังเล็กเมื่อ ๑๐ ปีที่แล้ว ๒๐ ปีที่แล้วคนมากขึ้น มากขึ้นจนกลายมาถึงศาลาหลังนี้คนจุได้เป็นแสน
หลวงพ่อ:ขณะนี้ชั้นบนชั้นล่างของสภาธรรมกายสากลก็รองรับคนราวสองแสน กำลังขยายต่อไปอีก เพราะขณะนี้คนมาปฏิบัติธรรมล้นแล้ว
รัฐมนตรี:ผมเข้าใจครับหลวงพ่อ เพราะผมมาตามที่หลวงพ่อพามาดูนะครับ ตามที่เราเริ่มสร้างวัดขณะนี้ ๓๐ ปี ประเด็นก็คือว่า มีคนตั้งข้อสังเกตว่า หลวงพ่อสร้างตอนที่เศรษฐกิจไม่ดี
หลวงพ่อ:ศาลาหลังนี้สร้างมาแล้วเข้าเป็นปีที่ ๓ แล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาสร้างกันในวันสองวัน เพราะฉะนั้นมาบอกว่าสร้างตอนเศรษฐกิจไม่ดี ไม่ใช่เพิ่งเริ่มสร้าง แต่สร้างมาแล้วเป็นปีที่ ๓ แต่ขณะนี้ยังไม่เสร็จดี ถามว่าใช้งานได้ไหม ได้แล้วขณะนี้ หมดไปประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านเศษๆ แต่ถามว่า พันล้านกับการให้ประชาชนมาปฏิบัติธรรมได้ประมาณสองแสนคนคุ้มไหม
ผู้สื่อข่าว:แล้วงบประมาณที่เอามาสร้างนี้เอามาจากไหนค่ะ
หลวงพ่อ:งบประมาณที่ใช้ในการสร้าง ก็เอามาจากการบริจาคของสาธุชน ที่มาทำบุญกันนั่นแหละ
ผู้สื่อข่าว:มหาเถรสมาคมเคยมีมติว่า เศรษฐกิจไม่ดีควรงดการก่อสร้างหมดทุกวัด
หลวงพ่อ:ฟังให้ชัดนะ มหาเถรสมาคมไม่ได้ห้ามสร้างวัดตอนเศรษฐกิจไม่ดี แต่บอกว่า (๑) ให้ประหยัด (๒) ที่สร้างอยู่แล้วมีความจำเป็นจะต้องสร้างให้เสร็จ ก็สร้างต่อไปแต่ไม่ควรเริ่มใหม่ ของเก่ามันค้างอยู่แล้วก็ต้องทำให้เสร็จ ไม่อย่างนั้นมันเสียหาย ประเด็นอยู่ตรงนี้
ผู้สื่อข่าว:ใช้งบประมาณอีกเท่าไหร่จึงจะเสร็จสมบูรณ์
หลวงพ่อ:งบประมาณอีกเท่าไหร่อยู่ตรงนี้ ขณะนี้พื้นอาคารยังเป็นซีเมนต์อยู่ ถามว่าใช้งานได้ไหม ใช้งานได้ แต่ว่าถ้าจะให้ดี จะปูพื้นด้วยคอนกรีต จะปูพื้นด้วยหินอ่อน จะปูพื้นด้วยกระเบื้องหรือจะปูพื้นด้วยอะไร ราคาต่างกันมาก แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะว่าเมื่อไหร่เศรษฐกิจดี เมื่อนั้นเราค่อยปู แต่ขณะนี้ใช้งานได้แล้ว ชัดเจนไหม
รัฐมนตรี:ส่วนใหญ่คนที่มานั่งสมาธิ จะมีปัญหาในเรื่องของจิตใจ บ้างไหมครับ เช่นเศรษฐกิจตกต่ำ อกหักมาบ้าง หรือพวกที่ติดยาเสพติด มาให้หลวงพ่อสอนแล้วก็นั่งสมาธิแล้ว ได้รับการบำบัดที่ดี มีตัวเลขไหม
หลวงพ่อ:พวกติดยาเสพติดเวลาเขามา เขาไม่อยากให้เรารู้ว่าเขาติดยาเสพติด แต่ว่าเขาหนักใจเรื่องอื่นเขาจะมาปรึกษา เลยทำให้เรารู้ใครหนักใจเรื่องอะไร เราเทศน์รวมให้ไปเลย แต่พวกติดยาเสพติดมักจะหลบๆ เลี่ยงๆ ไม่อยากจะแสดงตัวให้ใครเห็น มักจะมาฟังเทศน์กันอยู่ท้ายๆ ศาลา
รัฐมนตรี:วัดนี่มีหลายอย่างที่ในเวลานี้อยู่ในข้อสนใจของประชาชน แต่ว่าเท่าที่ผมดูว่ามันเป็นเรื่องที่ดีอยู่เรื่องคือ กัลยาณมิตร ตรงนี้วัดมีคำอธิบายอย่างไร หมายความว่าคนที่มาทำบุญนี่ เขาจะดูแลอย่างดีเวลาคนมาทำบุญควรจะได้รับการดูแลอย่างดี เขาเรียกว่ากัลยาณมิตร
หลวงพ่อ:เจริญพร
รัฐมนตรี:อันนี้มันเป็นยุทธวิธีหรือเป็นอะไรของวัด
หลวงพ่อ:ประเด็นแล้วจริงๆ ไม่ใช่เรื่องของการทำบุญ ประเด็นแล้วคือว่า ไม่ว่าหลวงพ่อ หลวงพี่จะเทศน์อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะซักถามให้รายละเอียด มีน้อย เพราะคนมามาก ในกรณีอย่างนี้เราก็ฝึกพระอาจารย์ และฝึกสมาธิให้กับผู้ที่เคยมาเป็นประจำ แล้วก็ศึกษาพระไตรปิฏกให้มากขึ้น พวกเหล่านี้เองจะกลายเป็นหัวหน้าหมู่ ใครสงสัยธรรมะอะไรก็ช่วยกันอธิบาย ถ้าเขาช่วยในเบื้องต้นได้เขาช่วย ช่วยตอบปัญหาให้ ถ้าตอบปัญหาได้ไม่ชัด เขาก็จะมาถามพระ มาถามหลวงพ่อ


รัฐมนตรี:ผมมีอีกประเด็นหนึ่ง ในฐานะที่ผมเป็นผู้ดูแลกรมการศาสนา ผมก็อยากให้ทุกฝ่ายได้ทำความเข้าใจ ทั้งฝ่ายที่วิจารณ์และฝ่ายที่ถูกวิจารณ์ มีอยู่ประเด็นเดียวก็คือว่า เรื่องอภินิหาร ผมอยากให้หลวงพ่อพูดนิดเดียวว่า ทางวัดไม่ได้มุ่งหรือเป็นเรื่องที่ประชาชนคิดกันเอาเอง
หลวงพ่อ:วันนั้นอาตมานั่งอยู่ด้วยในบริเวณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ ประกอบพิธีกันจนเสร็จจวนจะเลิกอยู่แล้ว ประชาชนกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นแล้วก็ชี้ไปที่ดวงอาทิตย์ อาตมาก็จะคว้าไมค์มาบอกว่าคุณนั่งเถอะ พระยังไม่ทันกลับเลย คุณลุกขึ้นมาทำไม แต่พอคว้าไมค์ขึ้นจะพูดก็เห็นคนยิ่งลุกมากขึ้น ชี้ไปที่ดวงอาทิตย์ อาตมาก็เหลียวไปดูตามเขาบ้าง พอเหลียวไปดูตามเขาบ้าง เออ แปลก ดวงอาทิตย์ที่เคยสว่างแดงๆ ไม่มีใครจะมองได้ด้วยตาเปล่า ตอนห้าโมงเย็นเท่านั้น ปรากฏว่าดวงอาทิตย์ใสเหมือนแก้วแล้วก็มองทะลุได้ เหมือนกับที่มองดวงแก้วเจียระไน แล้วยังไม่พอ พอเห็นอย่างนั้นเข้าแล้วก็ซูมเข้าซูมออกก็ได้ เปลี่ยนสีก็ได้ พอเป็นอย่างนี้ก็หันกลับมาอีกที สาธุชนก็ยืนกันหมด ทั้งสองหมื่นคนเขาก็ชี้กันดู สำหรับอาตมาเห็นอย่างนี้ ตั้งแต่หนึ่งนะ มองทะลุได้ สองซูมเข้าซูมออกชัดเจน สามเปลี่ยนสีได้ แล้วก็หมุนได้ ที่ว่าเปลี่ยนสีได้ เปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีทองเป็นสีม่วงเป็นสีฟ้า แล้วสีฟ้าก็เป็นสีฟ้าเข้ม อาตมาเห็นเท่านี้ แต่ว่าญาติโยมนั้นก็แล้วแต่ ส่วนนี้เขามักจะเห็นเหมือนกัน แต่บางคนเขาเห็นหลวงพ่อวัดปากน้ำอยู่กลางอากาศ ดวงอาทิตย์อยู่ในท้องท่าน ก็เรื่องของเขาเห็น บางคนเห็นเป็นว่าดวงอาทิตย์ขยาย แล้วหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านอยู่ในดวงอาทิตย์ ตรงนี้คนเขาเห็นประมาณสองหมื่นคน พระอีกประมาณเจ็ดแปดร้อย ก็เขาเห็นอย่างนั้น มันก็คงไม่ใช่ความผิดของอาตมานะ เขาเห็น แล้วก็อาตมาก็เห็น


ผู้สื่อข่าว:หลวงพ่อค่ะ อีกคำถามหนึ่งค่ะ อยากให้ท่านบอกเคล็ดลับนิดหนึ่งว่า ทำอย่างไรถึงได้ดึงเยาวชนเข้ามาโดยเฉพาะนิสิตนักศึกษา
หลวงพ่อ:คุณฟังให้ชัดเลยนะ


ประการแรก ตั้งแต่เริ่มสร้างวัด เราก็ตั้งใจเทศน์ตั้งใจอบรมตั้งใจสอนการนั่งสมาธิเพราะเห็นว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญในการเรียน ก็เลยพยายามทำเรื่องนี้
ประการที่สอง คุณก็ผ่านเข้ามาในวัดแล้วนะ เราพยายามปลูกต้นไม้ให้บรรยากาศร่มรื่น
แล้วก็โคนไม้นี่แหละคือที่นั่งสมาธิของเขา
ประการที่สาม ชัดเจนลงไปเลยว่านักเรียนนักศึกษาไม่มีค่ารถเดินทางมา ดังนั้นตั้งแต่เริ่มต้นสร้างวัด เราจึงจัดรถให้เลย (๑) ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (๒) ที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง (๓) ที่หน้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (๔) ที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือ สนามหลวงนั่นแหละ เพราะฉะนั้นนิสิตนักศึกษาถ้าจะมาสามารถขึ้นรถได้ฟรี แล้วประการต่อมาก็อาศัยญาติโยมนั่นแหละ เลี้ยงข้าวด้วย
ผู้สื่อข่าว:มีโครงการที่จะไปรับจากต่างจังหวัดเข้ามาด้วยไหม


หลวงพ่อ:ต่างจังหวัดที่ทราบข่าวนี่ พวกโรงเรียนต่างๆ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการนั่นแหละ ถ้าจะมาเขามาเอง ถ้ามาก็มีข้าวเลี้ยง เอาข้าวมาจากไหน ก็ญาติโยมที่มานั่งสมาธิเป็นแสนนี่แหละช่วยกัน


รัฐมนตรี:เห็นหลวงพ่อบอกว่าเอเชี่ยนเกมส์ก็จะมีคนติดต่อมาดูแล้วใช่ไหม
หลวงพ่อ:ก็ท่านอธิบดีกว้าง รอบคอบ ท่านก็เตรียมแล้วว่าอยากจะให้ลูกหลานไทยในต่างจังหวัดได้มีโอกาสมาดูเอเชี่ยนเกมส์ แต่ว่าค่าใช้จ่ายมันสูงนะ วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือรับเด็กจากต่างจังหวัด แล้วก็มาค้างกันที่ศาลาที่เห็นกันนี่แหละ แล้วท่านก็ถามว่าช่วยเลี้ยงอาหารด้วยได้ไหม ได้ เลี้ยงอาหารเสร็จเช้าก็ไปดูเอเชี่ยนเกมส์ แล้วเย็นก็กลับบ้าน ชุดใหม่ก็หมุนกันมาอย่างนี้
รัฐมนตรี:นอนในกลดใช่ไหมครับหลวงพ่อ
หลวงพ่อ:นอนในกลด
ผู้สื่อข่าว:แล้วกรมสามัญได้ช่วยค่าใช้จ่ายไหม
หลวงพ่อ:เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายน่ะซิ กรมสามัญจึงถามว่ามาพักที่นี่ได้ไหมแล้วก็เลี้ยงอาหารที่นี่ด้วยได้ไหม หลวงพ่อตอบว่าที่พักมี แล้วเรื่องอาหารเดี๋ยวจะบอกบุญญาติโยมให้ คุณช่วยไปบอกบุญญาติโยมแทนหลวงพ่อด้วยยิ่งดี

 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณอาคม เอ่งฉ้วน
แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๑

รัฐมนตรี:เรื่องการก่อสร้างวัดได้อธิบายชัดเจนว่า ไม่ได้สร้างตอนยุคไอเอ็มเอฟนะ วัดสร้างต่อเนื่อง ในแง่ของกระทรวงศึกษาธิการ เวลานี้เราคิดอยู่ประเด็นเดียวคือว่าวัดมีอยู่ ๔ หมื่นวัด ทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย ที่เราประสบปัญหาในเวลานี้คือ คนไม่เข้าวัด เราจะพบความจริงว่าในชนบทขณะนี้วัดแทบจะเป็นวัดร้าง บางวัดก็เป็นวัดร้างไปแล้ว เหตุผลที่คนไม่เข้าวัดมีข้อมูลชัดเจนว่า เกิดจากพระหรือเจ้าอาวาสไม่ใช่เป็นนักเผยแพร่ พูดง่ายๆ ก็คือว่าคนที่อยู่นอกวัดรู้มากกว่าพระ เขาก็เลยไม่ไปวัดอันนั้นคือข้อที่หนึ่ง ข้อที่สองก็คือเศรษฐกิจ คนต้องทำงานมากขึ้นเลยไม่ไปวัด กรมการศาสนากระทรวงศึกษาธิการ ก็ต้องหายุทธวิธีให้คนไปวัด อย่างเช่น เปิดโครงการลานวัดลานใจลานกีฬา แต่ว่าที่น่ายินดีมากก็คือวัดนี้ทำอย่างไร มีคนมาวัดทีเป็นแสน แม้ว่าจะมีอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่คนยังคลางแคลงใจก็ตาม แต่ข้อดีของวัดก็คือว่า ทำให้คนมาวัดได้เป็นแสน อันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่กรมการศาสนาสนใจมาก ส่วนว่าจะผิดจะถูกอย่างไรในเรื่องของการเผยแพร่ ผมคงตัดสินไม่ได้ สื่อมวลชนเอง ผมเชื่อว่าไม่กล้าตัดสินว่าวัดผิดหรือถูก เพราะว่ามันเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ ประเทศเรา นี่ต้องยอมรับว่ามีกฎหมายรองรับพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๓๕ แก้ไขเพิ่มเติมมาจาก พ.ศ.๒๕๐๕ เวลานี้ผมเข้าใจว่าดีที่สุดก็คือว่า มหาเถรสมาคมจะต้องออกมาพูดเท่านั้นเอง ถ้ามหาเถรออกมาพูดว่าสิ่งที่วัดทำอยู่นั้น อันไหนวัดทำดีแล้ว อันไหนที่วัดควรจะปรับปรุง และผมก็คิดว่าเรื่องนี้ถ้าไม่มีใครนำเสนอ ผมยินดีที่จะนำเสนอให้มหาเถรสมาคมพิจารณา


ผู้สื่อข่าว:ในปีนี้หรือเปล่าค่ะ ในประเด็นไหนค่ะ

รัฐมนตรี:ในประเด็นที่คนสงสัย ในประเด็นที่ว่าขัดหลักพระพุทธศาสนาหรือไม่ ในประเด็นอภินิหารอะไรทำนองนี้ ซึ่งผมเข้าใจว่าสื่อที่ออกมานี้ วัดเองก็ไม่ได้ทำ บางครั้งมันก็มีการเอาไปขยายผลเอง เพราะวัดมีผู้ปฏิบัติธรรมมากเป็นแสน แล้วถ้ารวมกันแล้วผมว่าเป็นล้านถ้าทั่วประเทศ เพราะวัดมีสาขาทั่วประเทศ อันนี้ก็เป็นประเด็นหนึ่ง ผมยังมองในแง่บวกอยู่นะว่า ในแง่ของวัดยังเป็นประโยชน์อยู่
ผู้สื่อข่าว:ท่านจะเสนอมหาเถรสมาคมได้เมื่อไหร่
รัฐมนตรี:จะกลับไปปรึกษากับอธิบดีกรมการศาสนา เพราะมหาเถรสมาคม นี่เราจะเสนอได้ทุกวันที่ ๑๐ ขอให้ผมไปรวบรวมเอกสาร ที่จริงผมมีเอกสารเยอะแยะแล้ว วันนี้ผมได้ฟังคำชี้แจง ที่จริงมันก็ไม่ถึงขนาดคำชี้แจง ผมเข้าใจว่าเป็นคำอธิบายของวัดมากกว่า ซึ่งพวกเราอยู่ด้วยกันก็เห็นพร้อมๆ กัน


ผู้สื่อข่าว:แล้วกรณีที่สร้างองค์พระผ่อนส่งล่ะครับ ที่หลวงพ่อท่านบอกแม้กระทั่งเด็กนักเรียนยังมีการผ่อนส่ง ไม่มีการห้ามปรามหรือมีการตักเตือน
รัฐมนตรี:วัดคงไม่ปฏิเสธนะครับว่าบางครั้ง ยกตัวอย่าง การเช่าพระในวัดอื่น ๆ ก็เช่าใช่ไหมครับ วัดนี้ก็ให้เช่า และวัดนี้เช่าก็ไม่ได้เช่ากลับบ้านนะครับ เช่าไว้ในธรรมกายเจดีย์แต่ว่าก็มีพระสำหรับจะเอาไปติดตัวก็มีเหมือนวัดอื่น บางทีก็กำหนดอัตราราคาไว้ ถูกไหมครับ มันก็เหมือนวัดอื่นอีกเหมือนกัน องค์ละห้าร้อยบ้างพันสองพันบ้าง


ผู้สื่อข่าว:ท่านมองว่า ถ้าวัดธรรมกายยังเหมือนเดิม ท่านจะดำเนินการอย่างไร


รัฐมนตรี:คงต้องฟังก่อนนะว่า มหาเถรสมาคมจะว่าอย่างไร เวลานี้ให้ผมเข้ามาฟังข้อมูลทั้งหลาย ฟังคำอธิบายแล้วตัวผมเองก็ได้ถามชัดไม่ปิดบัง หลวงพ่อท่านก็เปิดเต็มที่ สื่อก็เขียนไปตามข้อเท็จจริงผมเข้าใจว่าอย่างนี้ยุติธรรมที่สุดนะครับ แต่ว่าถ้าใครเอาไปเขียนบิดเบือนนะครับ ประชาชนคนอ่านหรือว่าคนดูสื่อเขาก็จะได้ตัดสินเอง ผมเข้าใจว่าอย่างนี้ยุติธรรมที่สุดนะครับ ใครอย่าไปเขียนบิดเบือนนะครับ วันนี้วัดเขาก็ถ่ายรูปเอาไว้ด้วย หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นก็เดือดร้อนเอง ถ้าบิดเบือนคนเขาไม่ซื้อ หนังสือพิมพ์ก็จะกลายเป็นกระดาษเปื้อนหมึก

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล