วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ เคล็ดลับการเลี้ยงลูก.. ด้วยความรักและหลักธรรม

เคล็ดลับการเลี้ยงลูก..ด้วยความรักและหลักธรรม

สิ่งที่พ่อแม่..กระทำต่อลูกด้วยความรักนั้น มักจะเป็นสิ่งที่ถูกเข้าใจไปเองว่า ..ดีที่สุด ..ถูกที่สุด สำหรับลูกแล้ว แต่ "ลูกรัก" ของหลายครอบครัว กลับต้องเสียคนไป ด้วยเหตุนี้
แล้วอะไรเล่า.. คือสิ่งที่เป็นมากกว่าความรัก .. หรือสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเขา ซึ่งครอบครัวนี้.. มีคำตอบ ...! ! ! สำหรับคุณ 
"ไกล ... อาจจะไกล แสนไกล ... 
อาจจะไกล ... จนสุดสายตา ...
เราห่างกัน ..อาจจะไกลสุดฟ้า ..อาจจะเกินที่จะพบกัน
..แต่ความห่างไกล ไม่เคยห้ามใจ 
.. ที่ยังคิดถึง... ส่งไปให้ถึงใจเธอ...
อยากจะบอกเธอ คิดถึงเธอ เหลือเกิน ..."

เพลงข้างต้น ..เป็นเพลงที่เติ้ลส่งมาให้ครอบครัว ทางอินเตอร์เน็ต
..ตอนนี้ ความคิดถึงของทุกคน ที่มีต่อเติ้ล ไม่แพ้กับที่เติ้ลส่งมาเลย...
เพลงนี้.. ทำให้มีนร้องไห้ เพราะสายใยความผูกพัน ที่พี่และน้องมีต่อกัน
แต่มีน ก็ได้รับการโอบปลอบอย่างทะนุถนอมจากแม่ ..ผู้หญิงที่อบอุ่นที่สุดของลูก
ทุกคนในครอบครัว ..มานั่งล้อมพร้อมกัน .. นั่งฟัง ซ้ำๆ ..ซ้ำ..ซ้ำ.. 
และจดจ่อกับ e - mail ที่เติ้ล จะโต้ตอบกลับมาทุกๆ ๒ วัน ..
เติ้ล เป็นบุตรชายคนที่ ๓ ของครอบครัว (อายุ ๑๖ ปี) ที่ชิงทุนไปเรียนต่อประเทศอเมริกา .. เติ้ลเรียนเก่ง ซึ่งทุกคนก็เรียนเก่งเหมือนเติ้ล มีนสอบได้ที่ ๑ ทุกปี ตาณก็สอบได้ ๓ กว่าทุกเทอม ซึ่งเรียนดีขึ้นเรื่อยๆ และคนสำคัญ... มิ้ง.. พลิกเกรดจาก ๐.๙๗ มาเป็น ๔.๐๐ แล้วยังได้รับรางวัลพร้อมทุนเรียนดีในระดับอุดมศึกษา ทั้งๆ ที่อดีตของมิ้งเกือบเสียคนไปแล้ว...
คุณวีรศักย์ - คุณสุภาภร ผดุงตันตระกูล เจ้าของบริษัทกุลสิริ พลาสแพค จำกัด เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก ตั้งอยู่ที่มหาชัย ...ลูกๆ จะเรียกพวกเขาทั้งสองว่า "ป่าป๊า.. ม่าม๊า .."...
รชยา (มิ้ง) - มธุรา (มีน) - อดิทัต (เติ้ล) - ธนธัช (ตาณ) ...เป็นลูกที่เกิดตามลำดับที่พ่อแม่ได้ทำให้พวกเขาสานสายใยแห่งรักอันงดงามไว้ด้วยกัน จนยากที่จะมีใครแก้ออก..
คุณวีรศักย์ - คุณสุภาภร เข้าวัดพระธรรมกาย เพราะได้มาสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวให้กับคุณพ่อของคุณสุภาพรซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว โดยทราบข่าวจากหน้าหลังของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พอมาถึงเกิดความประทับใจ ที่นี่มาก จากนั้นคุณสุภาภรจึงชวนสามีขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์ และต่อมาก็ชวนกันเข้าวัดปฏิบัติธรรมกันทั้งครอบครัว 
..และธรรมะนี่เอง ได้ทำให้ครอบครัวนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน ของทุกๆ ชีวิต และวันนี้เราจะพาคุณไปสัมผัสกับเรื่องราวเพียงส่วนหนึ่งที่ธรรมะได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงชีวิตครอบครัวของเขาให้เป็นครอบครัวที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นในทุกอณูของความรู้สึกเช่นนี้...
ผู้สัมภาษณ์ : อยากให้พี่สุภาภรช่วยเล่าเรื่องของมิ้งคะ
ม่าม๊า : ช่วงนั้นเราย้ายบ้านมาที่มหาชัย ก็เลยให้มิ้งอยู่กับอากง เพราะเขาเรียนอยู่โรงเรียนสายน้ำผึ้ง พ่อเขาไม่อยากให้ย้าย เพราะโรงเรียนมีชื่อเสียง เป็นโรงเรียนดัง ก็อยากให้ลูกเรียน ที่นี่ เลยเป็นเหตุที่ทำให้มิ้งห่างเรา... 
ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้น ...มิ้งเริ่มมีปัญหารึเปล่า แล้วสังเกต ยังไงคะ 
ม่าม๊า : พี่บังเอิญไปอ่านเจอในไดอารี่ของมิ้ง เขาเขียนว่า ..บ้านใหม่เราสวยมาก เราไม่เคยมีบ้านสวยขนาดนี้ ห้องนอนเรามีตุ๊กตา มีโต๊ะทำการบ้าน และเปิดประตูออกไปก็มีระเบียง มองออกไปเห็นต้นไม้สีเขียว บ้านใหม่ของเราหลังใหญ่และมีสวนหน้าบ้านด้วย... อะไรทำนองนี้ คือมิ้งอยากอยู่กับเรา แต่เขาผิดหวังมากที่ไม่ได้ย้ายมาด้วย ประกอบกับการโดนเพื่อนที่โรงเรียนยุด้วยว่า "พ่อแม่ไม่รักมึงหรอก..." เลยเป็นเหตุให้ไปกันใหญ่ แล้วเขาได้เพื่อนไม่ดีด้วย ก็ยิ่งทำให้แย่ลงเรื่อยๆ อย่างตอนนี้เพื่อนคนนั้นเรียนไม่จบ แล้วก็ติดยาไปแล้ว 
ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้นมิ้งคิดยังไง
มิ้ง : ตอนอยู่กับอากงใหม่ๆ คิดถึงบ้านมาก มิ้งจะเร่งวัน เร่งคืนอยากให้ถึงวันศุกร์เร็วๆ จะได้กลับบ้านมหาชัย แต่ช่วงหลังจากที่ติดเพื่อนแล้ว ไม่อยากให้ถึงวันศุกร์เลย ไม่อยากกลับบ้าน แต่พอป๊ามารับก็ต้องกลับ แต่ก็จะกลับมานอนอย่างเดียวอยู่แต่ในห้อง ไม่ยุ่งกับใคร
ผู้สัมภาษณ์ : ให้คุณแม่ช่วยเล่าต่อคะ
ม่าม๊า : มีอยู่คืนหนึ่ง พี่เองนอนไม่หลับ ตื่นขึ้นมา กลางดึกตอนตี ๓ มาร้องไห้ จนพี่วีถามว่าพี่เป็นอะไร เราสังหรณ์ใจเรื่องมิ้ง แล้วเช้าวันนั้นเองช่วง ๙ โมง ทางโรงเรียนกับน้องสาวโทรมาเรื่องมิ้ง ว่าฝ่ายปกครองเขาจะคัดชื่อมิ้งออกจากโรงเรียน เพราะทำเรื่องไว้เยอะมาก ตั้งแต่หนีเรียน ไปขโมยของกับเพื่อนที่ห้างฯ กินเหล้า สูบบุหรี่ แต่งตัวผิดระเบียบ ไม่ผูกคอซอง ใส่กระโปรงฟีบๆ ยาวๆ ถึงตาตุ่ม เรียนจนตกเกือบทุกวิชา ได้เกรด ๐.๙๗ แล้วตอนนั้นพี่ก็รีบไปพบอาจารย์ ขอให้อาจารย์ให้โอกาส มิ้งซ่อม แต่พออาจารย์นัดมาซ่อม ทั้งกลุ่มไม่ยอมไปซ่อม ไปยืนชูดบาสฯ อยู่หน้าแป้น ท้าทายอาจารย์ 
ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้นมิ้งเป็นแบบนี้ เพราะเพื่อนมีส่วนด้วยหรือเปล่า
มิ้ง : เพื่อนในกลุ่มของมิ้งมี ๔๐ กว่าคน จะมีทุกแบบเลย แต่มิ้งไปสนิทกับคนที่แย่สุดๆ ก็เลยเลวสุดๆ ตามไปด้วย แต่ตอนแรกที่ทำแบบนี้ เพราะประชดป๊ากับม่า แต่ตอนหลังไม่ใช่แล้ว เพราะมันสนุกมากกว่า
ผู้สัมภาษณ์ : คือตอนนั้นไม่ยอมซ่อม แล้วทำยังไงคะ
ม่าม๊า : ตอนหลังให้มาเรียนที่กรุงเทพการบัญชี (BBC) คือตอนนั้นให้ย้ายกลับมาอยู่บ้านที่มหาชัยกับเรา แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ตอนเรียนก็หนีเที่ยวอีก ให้อยู่บ้านก็ปีนรั้วบ้านหลบยามที่โรงงานลอดออกไปได้ ไปมั่วสุมกันที่บ้านเพื่อนๆ กินเหล้า สูบบุหรี่ เล่นไพ่ เปิดเพลง.. 
ผู้สัมภาษณ์ : ตอนที่มิ้งเปลี่ยน .. คุณพ่อคุณแม่มีวิธีการยังไง
ป่าป๊า : ตอนเช้าผมจะไปส่งมิ้งเองที่โรงเรียน ออกรถตอนตี ๔ เราอยากให้ลูกใกล้ชิดเรา ช่วงนั้นในระหว่างขับรถจะคุยกับเขาดีๆ แล้วก็เปิดเทปธรรมะไม่เว้นเลย ฟังวันละชั่วโมง สอนให้เขานั่งสมาธิไปด้วย ทำอยู่แบบนี้นานเลย ก็สังเกตเห็นเขาเริ่มอ่อนโยนลง ฟังเรามากขึ้น บางทีเราไม่ได้สอน เราไม่ได้พูดเอง เราใช้วิธีเปิดเทปธรรมะ ให้ค่อยๆ ซึมเข้าไปในใจเขาทีละนิด
ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้นป๊าพูด ทำไมมิ้งถึงยอมทำตาม
มิ้ง : มิ้งจะเป็นคนค่อนข้างเกรงใจป๊ามาก เพราะป๊าไม่เคยทำไม่ดีให้มิ้งเห็น ป๊าไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ป๊ารักษาศีล ป๊าจับแง่ดีในสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว คือเราเห็นแบบนี้ตั้งแต่เล็กๆ ตรงนี้ทำให้มิ้งเกรงใจป๊า
ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนั้น ป๊ากับม้ามาวัดพระธรรมกายแล้ว มิ้งรู้สึกยังไง
มิ้ง : ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมชวนไปแต่วัด ไปเที่ยวที่อื่นไม่ได้หรือ ตอนนั้นคือเบื่อ แล้วก็ไม่อยากไปด้วย
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วคุณพ่อ คุณแม่คิดยังไงค่ะ
ป่าป๊า : ครอบครัวเรา ภาคปฏิบัติเวลาจะไปไหนจะไปด้วยกันตลอด ไม่เคยทิ้งลูกให้อยู่บ้านเดียวดาย อย่าง ผมไปเล่นแบดฯ ก็จะต้องพาลูกไปเล่นด้วยพร้อมกัน ดังนั้นเมื่อเราไปวัดทำ บุญผมก็ต้องพาพวกเขาไปด้วย ..ความพร้อมของพ่อแม่ ในการยึดหลักธรรมนำหน้าวิถีชีวิตของเรา เป็นการจัดระบบครอบครัวให้มีพลังขับเคลื่อนไปสู่ความสว่าง สง่า สงบ และอื่นๆ ที่ดีงาม สู่ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ
ม่าม๊า : คือตอนแรกลูกจะบ่นว่าเมื่อย ตอนให้นั่งสมาธิที่วัด เราก็ซื้ออาสนะมาให้ แต่เด็กๆ ก็ยังบ่นอยู่ ก็เลยใช้วิธีบอกเขาว่า ถ้าใครมาวัดกับป๊ากับม้า จะให้ค่าขนมคนละ ๑๐๐ บาท ใช้วิธีนี้ได้ผล เขาก็ยอมมาวัดกัน พอลูกกลับมาจากวัด เราก็โน้มน้าวคนที่ง่ายที่สุดก่อน คือน้องมีน ให้เขาสวดมนต์นั่งสมาธิทุกวัน พอน้องมีนทำ ต่อไปก็น้องตาณ พอเด็กๆ ทำเขาจะเห็นว่าการนั่งสมาธิเกิดผลดีกับตัวเขาเอง คือใจสงบ แล้วก็เรียนดีขึ้นมาก ผิดกับแต่ก่อน อย่างลูกมีนนี่ สอบได้ที่ ๑ ทุกเทอมตั้งแต่เริ่มนั่ง ต่อมาเขาติดใจทำตลอด ทำเองไม่ต้องบอกเลย
ผู้สัมภาษณ์ : น้องมิ้งเขายอมนั่งสมาธิไหมคะ
ม่าม๊า : คนนี้ต้องแลกด้วยการบอกว่าจะให้ไป Summer ที่นิวซีแลนซ์ ก็เลยยอมสวดมนต์นั่งสมาธิ
มิ้ง : แต่ตอนหลังมิ้งเองก็ไม่ได้ไป เพราะติดงานฉลองเจดีย์ มิ้งอยากอยู่ฉลองเจดีย์ แล้วอีกอย่างไม่อยากให้ม๊าคิดว่า ที่มิ้งยอมทำวัตร นั่งสมาธิ ไม่ใช่เพราะต้อง การแลกกับการไปนิวซีแลนซ์ ไม่อยากให้ม๊าเข้าใจแบบนี้ 
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วเดี๋ยวนี้ มิ้งนั่งสมาธิตลอดเพราะอะไร
มิ้ง : ก็เห็นผลค่ะ ได้ A หมดทุกวิชา การเรียนดีขึ้น สมาธิมีส่วนช่วยได้มาก ตัวเราเองเข้าเรียนไม่โดด ตั้งใจเรียน ตรงนี้มิ้งให้ ๕๐% ส่วนสมาธิทำให้เราทำตรงจุดนี้ได้สมบูรณ์ขึ้นอีก ๕๐% อย่างเช่น สมาธิช่วยให้มิ้งอ่านหนังสือได้นานขึ้น จำดีขึ้น อย่างมิ้งเองไม่ใช่เด็กที่คร่ำเคร่งเรื่องเรียนตลอดเวลา เวลาเรียนคือเรียน เวลาเล่นคือเล่น แต่สมาธิช่วยให้เรานำศักยภาพออกมาใช้ได้มาก แม้ขณะที่เรามีเวลาจำกัด 
ผู้สัมภาษณ์ : ติดวัดหรือมาวัดประจำ ตอนไหนคะ
มิ้ง : หลังจากที่ป๊ากับม้า พาพวกเราขึ้นไปปฏิบัติธรรม ที่พนาวัฒน์ ๑ อาทิตย์ จากนั้นก็ทำให้มิ้งเข้าใจอะไรมากขึ้น แล้วก็เริ่มรู้สึกชอบ
ผู้สัมภาษณ์ : อยากให้เปรียบเทียบมิ้งคนก่อนกับคนปัจจุบัน
ป่าป๊า : เปลี่ยนไปมาก ตั้งแต่เขาหันมานั่งสมาธิปฏิบัติธรรม มาวัดเป็นประจำสม่ำเสมอ เขาจะเปลี่ยนจาก คำพูดที่ว่า ไม่อยากไปวัด มาเป็น ..เมื่อไรจะไปวัด เดี๋ยวนี้ มิ้งจะช่วยงานบ้าน ช่วยกิจการของครอบครัว ซึ่งจะให้มิ้งรับผิดชอบในส่วนของการออกแบบให้กับลูกค้า ซึ่งเขาก็ทำได้ดี ..ช่วยได้เยอะครับ
ม่าม๊า : ส่วนเรื่องการคบเพื่อน ก็เลิกคบกับเพื่อนกลุ่มเก่าไป เรื่องกินเหล้า สูบบุหรี่ หนีเที่ยวไปมั่วสุมกับเพื่อน มิ้งไม่ทำอีกเลย และเดี๋ยวนี้ เขามีหลักประจำใจในการคบเพื่อน ซึ่งเขาจะใช้ศีล ๕ มาเป็นตัววัด เพราะจะทำให้เขาแน่ใจในระดับหนึ่งว่า คนที่มีศีล ๕ อย่างน้อย ก็มีเปอร์เซ็นต์ ที่จะพาเขาไม่ให้เสียคน 
ผู้สัมภาษณ์ : มีวิธีสอนลูกให้เป็นคนดีได้อย่างไร
ป่าป๊า : พ่อแม่ทุกคน คือตำราที่เดินได้ เราเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดเขาที่สุด ดังนั้นเขาจะอ่านเราทุกวัน คือถ้าเราอยากให้ลูกเราเป็นอย่างไร เราก็ต้องเป็นตัวอย่างให้ลูกดูอย่างนั้น เราต้องเป็นต้นแบบ ทั้งชีวิตครอบครัว ชีวิตการทำงาน มีการรักษาศีล ๕ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ไม่ขาด ..จนเป็นวิถีชีวิตของเรา
ม่าม๊า : จะสอนให้เขาเข้าใจถึงบาปบุญคุณโทษ จะให้เขาสวดมนต์นั่งสมาธิตลอด อย่างลูกเติ้ล ก่อนที่เขาไปอยู่เมืองนอก ก็จะให้เขาสวดมนต์นั่งสมาธิเช้า-เย็น ให้ได้เป็นประจำก่อนไป ๑ เดือน แล้วบอกเขาว่า ถ้าอยู่เมืองไทยเติ้ลยังทำตรงนี้ไม่ได้ ม้าก็ไม่ให้เติ้ลไปหรอก แม้เติ้ลจะสอบได้ เพราะม๊าไม่รู้ว่า จะให้อะไรคุ้มครองลูกของม๊า แต่ถ้าเติ้ลทำได้จนเป็นนิสัยติดตัวไปทำที่โน้น ม๊าก็วางใจ แม้ห่างเติ้ลมากแค่ไหนก็ตาม เพราะม๊าเชื่อมั่นว่า เติ้ลจะมีพระคุ้มครอง บุญจะคุ้มครองเติ้ล ลูกของม๊า พูดอย่างนี้เขาก็ยอมทำค่ะ
ผู้สัมภาษณ์ : ทราบมาว่ามีเคล็ดลับ ที่ทำให้ลูกเรียนดี ทุกคน
ม่าม๊า : คือเราจะสอนเขาเสมอว่า เวลาเรียนให้เอาใจไว้ศูนย์กลางกายนะ จะได้ความจำดีๆ ครูสอนก็จะจำได้ อย่างหนึ่งที่สอนแล้วเขาทำสม่ำเสมอ คือสวดมนต์นั่งสมาธิทุกวัน แล้วก็ตั้งใจอ่านหนังสือ ส่วนเทคนิคส่วนตัว ของครอบครัวนี้ คือก่อนสอบลูกก็จะมาบอกป่าป๊า.. ม่าม๊า เราก็จะให้ลูกอยู่ในบุญตลอด อย่างเราเป็นแม่เราก็จะนั่งสมาธิให้เลย อย่างลูกสอบตอนเช้า เราก็จะนั่งสมาธิให้ตั้งแต่ ๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. อธิษฐานส่งบุญให้กำลังใจเขา แม้วันนั้น เราจะต้องทำกิจการ มีงานยุ่งก็ตาม เพราะลูกจะรู้ว่ายังมีพ่อกับแม่ของเขาที่คอยส่งกำลังใจให้เขาไม่ขาด เราทำอย่างนี้ให้กับลูกทุกๆ คน ไม่ว่าลูกจะสอบอะไรก็ตาม 
ผู้สัมภาษณ์ : ทำอย่างไงลูกถึงรักและผูกพันกันมาก
ปาป๊า : คือเรามีลูกคนที่ ๑ แล้ว มีคนที่ ๒ ตามมา เราจะปลูกฝังลูกคนที่ ๑ เลยว่า "..เขานะ มีหน้าที่แล้ว เขามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบน้อง ดูแลเอาใจใส่น้องให้ดี ทำหน้าที่เหมือนกับแทนพ่อแม่" ซึ่งจากที่เขาเอาใจใส่กันและกันนี่เอง มันทำให้พวกเขาเกิดสายใยความผูกพัน จะทำให้พวกเขา รู้ว่าแต่ละคนต้องการอะไร ชอบอะไร ตรงนี้ แหละ ถ้าวันใดเขาห่างกัน เขาจะระลึกถึงกันมาก เหมือน กับที่เติ้ลไปเมืองนอกตอนนี้ 
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วในบรรดาพี่น้องไม่อิจฉากันบ้างหรือ
มิ้ง : ป๊า .. ม๊า .. จะให้อะไรเท่าๆ กัน เสมอกันตลอด ตรงนี้มิ้งยอมรับป๊ากับม๊ามากเลย ทำให้เรารู้สึกว่า ไม่รู้จะอิจฉากันไปทำไม แล้วมิ้งอยากบอกว่าเป็นพี่น้องกัน ต้องรักกันให้มากๆ มากกว่า ไม่ควรอย่างยิ่งเลยที่จะอิจฉากัน ตรงนี้เลิกคิดได้เลยค่ะ
ผู้สัมภาษณ์ : เมื่อลูกทะเลาะกันทำอย่างไรบ้างค่ะ
ปาป๊า : ผมว่า.. เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต้องไปจัดการอะไร มันเป็นวิถีชีวิต ซึ่งผมว่าสิ่งนี้แหละ จะทำให้พวกเขามองคนออกต่อไปในอนาคต เขาจะเข้าใจคนรอบๆ ข้าง เพราะการทะเลาะกัน เถียงกัน เป็นการทำให้เขาเรียนรู้ซึ่งกันและกันว่าเขาเถียงกันเพราะอะไร หรือรักกันเพราะอะไร 
ผู้สัมภาษณ์ : อะไรที่ทำให้เป็นคุณพ่อ ที่เป็นฮีโร่ในใจของลูกๆ
ปาป๊า : สิ่งที่สำคัญมากๆ เลย จะขอบอกไว้กับทุกครอบครัวที่มาอ่านเจอคอลัมน์นี้ คือผู้ที่เป็นพ่อจะต้องมอบสิ่งนี้ให้กับลูกก็คือ "รักแม่ของพวกเขา" เพราะถ้าเรารักแม่ของเขา แม้จะอยู่ด้วยกันนานแล้ว ลูกจะซึมซับตรงจุดนี้ได้ คนในครอบครัวเราก็จะรักกันเอง และอีกอย่างหลักธรรมะที่นำมาใช้ในครอบครัวที่ใช้อยู่ คือข้อแรก ต้องจริงใจต่อภรรยา ต่อลูก คือมีสัจจะ ข้อ ๒ คือไม่นอกใจ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่น คือ มีทมะ ข้อ ๓ ต้องมีความอดทน เรียกว่าขันติ ข้อ ๔ ต้องรู้จักเสียสละ คือจาคะ หรือเรียกว่าหลักฆราวาสธรรม ซึ่งเป็นหลักธรรมะ ของผู้ครองเรือน
ผู้สัมภาษณ์ : อยากให้ลูกๆ พูดถึงป๊ากับม๊า
มิ้ง : ป๊า .. ม๊า .. เป็นตัวอย่างที่ดีมาตลอด ป๊าจะพูดเสมอว่า ข้อดีให้เอามาใช้ ข้อเสียก็ให้เอามาปรับปรุง ข้อดีของป๊ากับม๊า มิ้งมีหน้าที่ต้องดู เพื่อนำมารวมเป็นตัวมิ้ง ป๊าเป็นคนคิดดี คิดบวก ทำดี ส่วนม๊าจะเป็นคนตั้งเป้าหมาย แล้วต้องไปให้ถึง หรือเรียกว่าอธิษฐานจิต
มีน : รู้สึกดีใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกของป๊ากับม๊า เพราะทำหน้าที่ได้ดีทุกอย่าง ป๊า.. ม๊า.. ไม่ได้เป็นแค่พ่อแม่ของมีน แต่เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นที่ปรึกษา เป็นให้เราแทบทุกอย่าง และก็ไม่ได้ให้เราแต่เพียงทางโลก ยังให้เราในทางธรรมด้วยคะ
ตาณ : ป๊า.. ม๊า.. ก็ส่งเสริมผมในทุกเรื่อง ตอนวันพ่อ ผมทำการ์ดอวยพรให้ป๊าทำระบบคุณภาพของโรงงานให้สำเร็จ ป๊าก็ทำสำเร็จ ..วันแม่ก็ทำการ์ดให้ม๊า ว่าจะเป็นลูกที่ดีของม่าม๊า 
เติ้ล (e - mail) : Please paid little bit attention to the one you called "mom".
โปรดใช้เวลาสักนิด แสดงออกถึงความลึกซึ้ง แด่คนที่เราเรียกว่าแม่ แม้จะไม่กล้าพูดออกมาก็ตามที
Do not ignore the one who closely to your heart. Love her more than you love yourself. อย่าเพิกเฉยกับคนที่ใกล้หัวใจคุณที่สุด รักเธอให้มากกว่าที่คุณรักตัวเอง
..และจากความอบอุ่นในทุกอณูของความรู้สึก ที่ถ่ายทอดออกมานั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่ง จากสิ่งดีๆ ที่มีมากมายของครอบครัวสุขสันต์ครอบครัวนี้ ซึ่งทางทีมงานเชื่อมั่นเหลือเกินว่า หลายๆ ครอบครัว คงจะมีความฝันที่อยากจะทำให้ครอบครัวของเรา เป็นครอบครัวที่ดี กลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่นที่สุดสำหรับทุกคนในบ้าน ซึ่งความฝันนี้ ก็คงจะไม่เป็นเพียงความฝันอีกต่อไป ถ้าเราได้นำหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ..เข้ามาสู่ทุกชีวิตในครอบครัว แล้วทำให้เขาเข้าใจ และนำไปปฏิบัติ จนเกิดผลดีจริงกับตัวเองให้ได้ ซึ่งถ้าคุณทำได้อย่างนี้แล้วล่ะก็ ..ครอบครัวคุณก็จะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นที่สุดไม่แพ้ครอบครัวใดๆ บนโลกใบนี้เลย.. 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

บทความอยู่ในบุญทั้งหมด ฉบับที่ ๑๓๕ เดือนมกราคม ๒๕๕๗

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล