วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ พุทธบุตรใจเพชร ยอมตายไม่ยอมถอย

พุทธบุตร ๒๖๖ วัดภาคใต้ เรื่อง : นักข่าวหัวเพชรลูกพระธัมฯ

 

 

 

พระเคน สมาจาโร วัดชลเฉลิมเขต อ.สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส

 

  ในทุกวันสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การได้ยินข่าวการถูกทำร้ายของหลายชีวิตที่ถูกอาศัยในพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคใต้ บ้างก็บาดเจ็บบางก็เสียชีวิตไป และสื่อต่างๆได้ตีแผ่เหตุการณ์เล่านี้มาเป็นระยะเวลาถึง ๓ ปีแล้ว

 

 

 

 เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ หนังสือพิมพ์ทุกฉบับได้พร้อมใจกันลงข่าว เหตุการณ์ที่พระภิกษุรูปหนึ่งได้รับบาดเจ็บ จากการระเบิดในขณะบิณฑบาต ในตลาดสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ฉบับนี้เราจะนำทุกท่าน ไปเยี่ยมเยือนพระสงฆ์ ผู้อุทิศชีวิตในการทำหน้าที่พุทธบุตร โปรดญาติโยมรูปนี้กัน ท่านชื่อ พระเคน สมาจาโร อายุ ๖๒ ปี วัดชลเฉลิมเขต อำเภอสุไหงโก-ลก ท่านได้เล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟังว่า "วันนี้ได้ไปบิณฑบาต กับเพื่อนสหธรรมมิก ๖-๗ รูป หน้าตลาดสดรถไฟ ในขณะยืนรอโยมเดินข้ามถนนมาใส่บาตร ทันใดนั้นระเบิดในท่อน้ำ ที่อาตมายืนอยู่บนตะแกรงเหล็ก ก็ดังขึ้นพร้อมด้วยแรงอัดของระเบิด ทำให้ตัวของอาตมาลอยขึ้นและล้มลงทันที แต่พอลุกขึ้นไหวจึงใช้มือลูบใบหน้าที่เปื้อนเลือด จีวรก็ทะลุ ฝาบาตรกระเด็นกระจาย ตอนนี้ออกจากโรงพยาบาล แล้วแต่ยังเจ็บหน้าอก ช้ำใน สมองได้รับการกระทบกระเทือนมาก และทุกวันนี้พอมีแรงเดินได้ก็ออกบิณฑบาตทุกวัน ไม่กลัว แม้ว่าใครจะคิดปองร้ายก็จะไม่ยอมถอย จะทำหน้าที่ของพระต่อไป" 

 

พระยศ อภิปุญโญ

พระยศ อภิปุญโญ บวชได้ ๗ พรรษา วัดชลเฉลิมเขต เลขานุการเจ้าคณะตำบลสุไหงโก-ลก ซึ่งเดินบิณฑบาตโปรด ญาติโยมด้วยเช่นกันในวันนั้น แต่ท่านเดินคนละเส้นทางกับพระเคน ท่านเล่าให้ฟังว่า "เช้าวันนั้นอาตมาก็เดินไปบิณฑบาตเป็นปกติ มีอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งคุ้นเคย กันได้บอกว่าให้ระวังตัวให้ดีนะ เห็นไหมมีวัยรุ่นนั่งรถเก๋งไม่มีทะเบียน กำลังเปิดกระจกจ้องมองมาที่พระคุณเจ้า และแจ้งว่า พระเคนท่านโดนระเบิดแล้ว ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล เมื่อ ๒ ปีที่แล้ว อาตมาเคยเจอกับเหตุการณ์หนึ่ง ในขณะที่กำลังเดินไปบิณฑบาตกับพระอีก ๕ รูป บริเวณซอยแห่งหนึ่งในสุไหงโก-ลก ในขณะเดินอยู่นั้นมีวัยรุ่น ๒ คนขับมอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายมา โดยขับวนไปวนมา และมาหยุดตรงหน้าอาตมา พร้อมกับควักปืนออกมา ต่างคนก็ต่างมองตา ไม่พูดอะไร เดชะบุญในขณะเดียวกัน มีชาวบ้านขับรถเข้ามาในซอยนี้ ๓ คัน จึงทำให้วัยรุ่นดังกล่าวหันรถกลับไป รุ่งขึ้นก็ได้ทราบว่ามีระเบิดที่วัดอำเภอสุคิริน แต่ระเบิดไม่ทำงาน อาตมามีพระเพื่อนมากมาย ที่พบเจอเหตุการณ์อย่างนี้ เมื่อก่อนตัวอาตมาเองคุ้นเคย กับเพื่อนๆ ต่างศาสนามาก แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ก็ทำให้ความคุ้นเคยกันจางหายไป สิ่งที่ได้คือความระแวงกัน อาตมาอยากย้อนกลับไป เหมือนเดิมจังเลย ที่ทุกคนอยู่ด้วยกันได้แม้จะต่างศาสนา"

 

วัดชลเฉลิมเขต อ.สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส

 

  พระอาจารย์ยศ ท่านยังกล่าวถึงการมาบวชของท่านว่า"อาตมาคิดเสมอว่า ๗ พรรษานี้ถือว่ายังน้อย แต่ก็ภูมิใจในทุกๆ วันในการทำหน้าที่ของพระ ได้ศึกษาพระธรรมวินัย รักษาศีล ทรงพระปาฏิโมกข์ อีกทั้งได้เทศน์สอนนักเรียน ญาติโยม สร้างวัดวาอาราม บำรุงพระศาสนา แม้ว่าจะมีใครมาปองร้าย ก็ขอยอมสู้ไม่ยอมถอย ออกจากพื้นที่แห่งนี้ มี เจ้าอาวาสที่จังหวัดนนทบุรี นิมนต์ให้ไปอยู่ด้วย เพื่อจะได้ปลอดภัย อาตมาก็ขอขอบพระคุณท่าน แต่ขออยู่เป็นกำลังใจ ให้ญาติโยมที่สุไหงโก-ลกดีกว่า ทุกชีวิตย่อมกลัวตายเป็นธรรมดา ซึ่งเราไม่รู้จะตายเมื่อไหร่ แต่ถ้าเรามีที่พึ่ง คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บุญกุศลนี้จะคุ้มครอง ตัวเราเอง ไม่มีใครหนีความตายได้พ้นหรอก"

 

 

   พระอาจารย์ท่านได้เล่าถึง ความปลื้มปีติใจ ในงานถวายสังฆทาน แด่คณะสงฆ์ทั้ง ๒๖๖ วัดว่า"อาตมาขอบอกสิ่งที่อยู่ในใจเลยว่า การมอบไทยธรรมและปัจจัย ๔ ถือว่าให้ทุกสิ่งแล้ว ให้พลัง ให้กำลัง แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยังพอประทังหากันได้อยู่บ้าง แต่กำลังใจซิหาได้ยากยิ่งในยามนี้ คนรวยมีมากแต่ไม่เห็นใครที่คิดทำ วัดพระธรรมกาย อาคารในวัดก็ยังสร้างไม่เสร็จ แต่หลวงพ่อธัมมชโย ท่านมองเห็นความสำคัญ ของพระสงฆ์ที่อยู่ที่นี่ ท่านมาช่วยทุกเดือน ๒ ปีแล้ว ถ้าเอ่ยถึงท่านแล้วก็ไม่รู้ว่าจะหา คำใดหรือสิ่งใดจะมายกย่อง ท่านมีบารมีสูงจริงๆ" 

           ชีวิตของใคร ใครก็รักก็หวง แต่เพื่อรักษาธรรม แล้วพระสงฆ์ทุกรูป ในพื้นที่นี้ขอเอาชีวิต เป็นเดิมพัน ถือว่าหาบุคคลเช่นนี้ ได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน ทุกรูปอยู่ด้วยความเต็มใจ ที่จะรักษาพระพุทธศาสนา มีใจที่เบิกบาน ในการอยู่เป็นเนื้อนาบุญให้แก่ญาติโยม พุทธบริษัท ๔ ดังนั้นถือว่าเป็นมหากุศล ที่ยิ่งใหญ่ ของบุคคลที่ได้ทำบุญ ถวายสังฆทาน ๒๖๖ วัดอย่างน้อยวัดละ ๑ บาททุกๆ เดือน

 

 

 

 

   พิธีถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์ ๒๖๖ วัด ในพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา) ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑๗ นี้ จัดขึ้นในวันพุธที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ณ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ในช่วงเวลา ๐๗.๓๐ น. จนถึงเวลา ๑๑.๓๐ น. โดยได้รับความเมตตาจาก พระเดชพระคุณพระกวีวงศ์ รองเจ้าคณะภาค ๑๘ วัดราชสิทธาราม กรุงเทพฯ เป็นประธานสงฆ์ และนายศิริพงษ์ ห่านตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส กิจกรรมบุญใน วันนี้เป็นที่ตรึงตราตรึงใจของพุทธบริษัท ๔ เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นพิธีทำบุญตักบาตร ฟังการเปิดใจของพระภิกษุสงฆ์ และผู้แทนชาวพุทธในรายการเสวนาธรรม และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ พิธีอุทิศส่วนกุศลให้แก่พี่น้องผองไทย ที่ล่วงลับไปแล้วในเหตุการณ์ความไม่สงบ ที่พวกเราได้ถวายปัจจัยไทยธรรม แด่คณะสงฆ์จำนวนถึง ๒๖๖ วัดด้วยกัน ซึ่งโอกาสสร้างบุญใหญ่ อย่างนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง เพียงหนึ่งวันสามารถ ทำบุญได้ครบ ๒๖๖ วัด ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ การจะเดินทางไปวัดต่างๆ ก็กระทำได้ยาก จบท้ายรายการด้วยการมอบเครื่องอุปโภค บริโภค ให้พี่น้องทหาร ตำรวจ ที่คุ้มครองทุกชีวิตให้ปลอดภัย

 

 

 


งานในวันนี้ยังได้รับความร่วมมือ จากหลายหน่วยงาน ในจังหวัดยะลา ที่เตรียมความพร้อม ให้ความสะดวก ในการจัดพิธีกรรม เช่น สถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เทศบาลนครยะลา สมาคมรักสันติสุขยะลา และหน่วยงานราชการรวม ทั้งส่วนงานเอกชน ในจังหวัดยะลา ทางคณะกรรมการจัดงาน ขอกราบอนุโมทนาบุญ กับทุกท่าน และในโอกาสต่อไปเราพุทธบริษัท ๔ จะมาร่วมใจรับบุญใหญ่ เชิดชูพระพุทธศาสนา ให้ก้าวไกล สถิตอยู่ในใจ ของทุกชีวิตกันอีก

 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

บทความอยู่ในบุญทั้งหมด ฉบับที่ 49 พฤศจิกายน ปี 2549

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล