วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ โฮเวิร์ด แมคเครรี่ นักร้องดังระดับโลกผู้ร้องเพลงจากแสงแห่งสันติภาพ

สมาธิเปลี่ยนชีวิต

เรื่อง : Son Backhome

 

 

          ตอน ๗ ขวบ เขาใฝ่ฝันและสวดอ้อนวอนถึงสันติภาพของโลก ย่างสู่วัยหนุ่ม ชายผู้นี้ร้องเพลงขับกล่อมโลก ด้วยแนวเพลงทางศาสนา และในตอนนี้ เขาได้พบแล้วว่า สันติภาพของโลกที่เขาใฝ่ฝัน และสวดอ้อนวอนอยู่เสมอนั้นจะเกิดขึนได้อย่างไร

          โฮเวิร์ด แมคเครรี่ นักร้องเพลง Jazz/ Hibhob / Gospel เคยออกอัลบัมเดี่ยว ชื่อ So Good ซึ่งเป็นแนวเพลงแบบ Gospel ที่เป็นแนวเพลงศาสนา และได้เข้าร่วมร้อง และเรียบเรียงเพลงให้กับ นักร้องชื่อดังหลายท่าน เช่น Michael Jackson, Chaka Khan, Whitney Houston ฯลฯ เคยมี ผลงานอื่นๆ เช่น พากย์ตัวการ์ตูนของซีรีส์ชื่อดัง เช่น California Raisins และร่วมร้องเพลงประกอบภาพยนตร์นินจาเต่า

 

          

          เขามาเมืองไทยครั้งที่แล้ว เมื่อปี ๒๕๑๖ เพื่อมาทัวร์คอนเสริ์ต เขาบอกว่า "เวลามาเมืองไทยเหมือนผมได้กลับบ้าน ผมเดินทางมาเมืองไทย ครั้งล่าสุดในเดือนสิงหาคม ๒๕๔๙ การมาเมืองไทยในครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผม เพราะผมได้มาถึงวัดพระธรรมกาย ผมกล้าพูดตามตรงเลยว่า การมาครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผมตลอดไป ที่นี่เหมือนมีพลังงานมหาศาล อยู่ซึ่งผมรู้สึกได้ตั้งแต่ก้าวแรกลงบนพื้น พลังนั้นพลุ่งพล่านผ่านเท้าของผมขึ้นมา เป็นพลังงานที่แปรไปสู่ความสำเร็จ และผมรู้สึกเหมือนกับว่า ได้อยู่ในสถานที่แห่งความสุข และสันติภาพล้วนๆ วัดนี้สวยงามอย่างที่ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน"

      และที่สำคัญการมาครั้งนี้ เขามีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การนั่งสมาธิ "ผมมาที่ีนี่่ ผมก็ได้เรียนรู้เรื่องการนั่งสมาธิ ว่าจริงๆ แล้ว มันไม่ใช่อะไรที่ต้องซีเรียสอย่างที่เคยรู้สึกเลย มันอยู่ในตัวเราอยู่แล้ว แต่เราต้องรู้วิธีการเข้าไปพบกับความสงบสุขอันนั้นเอง

       ตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมก็ได้สวดอ้อนวอนถึงสันติภาพของโลก แต่ผมก็รู้สึกลึกๆ อยู่ภายใน ว่า ความสงบสุขนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้หรอก จนกว่าสันติสุขแรกจะเกิดขึ้นภายใน จนกระทั่งผมได้ค้นพบสันติภาพภายใน ผ่านการเรียนรู้จากที่นี่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากหลวงพ่อครับ

      หลวงพ่อธัมมชโยท่านเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ และ จุดประกายชีวิตให้กับผม ให้ได้รู้จักกับสมาธิอย่างลึกซึ้ง ท่านมองเห็นและมีดวงปัญญาในการให้ความหวัง และยังแบ่งปันความรักที่อิสระมอบให้กับทุกๆ คน คำพูดของท่านเหมือนบทกวีภาษาไทย ที่แม้ผมจะแปลไม่ได้ แต่ผมกลับเข้าใจความหมายที่วิเศษนั้น ผ่านการแปลโดยล่าม ผมรู้สึกได้ว่าท่านเป็น expert ในเรื่องการมอบความรัก ดวงปัญญา การบริหาร และการเป็นครู ผมบอกตัวเองเสมอว่า ผมจะนั่งสมาธิทุกวัน เพราะคุณครูไม่ใหญ่ได้ จุดประกายไฟแห่งปัญญาและความหวังขึ้นในใจของผม ตั้งแต่ผมได้รับเกียรติให้เข้าพบหลวงพ่อเป็นต้นมา ผมไม่เคยขาดการนั่งสมาธิเลยแม้แต่เพียงวันเดียวครับ

        ผมเชื่อว่าการนั่งสมาธิก็คงไม่ต่างจากการฝึกเล่นเปียโนนัก เมื่อผมเรียนการเล่นเปียโน ผมต้องฝึกหัดทุกวัน ผมไม่ได้เก่งมากมายในตอนแรกแต่ผมก็ฝึกหัดเรื่อยมาอย่างสม่ำเสมอ จนตอนนี้ผมอยู่ในระดับมืออาชีพ ทั้งด้านการประพันธ์เพลง ร้องนำ ร้องประกอบ แต่งเพลง และเล่นเครื่องดนตรีประเภท เปียโน และคีย์บอร์ด ที่หลายคนบอกว่า ผมเป็นมือระดับ "ตำนาน" แต่เป้าหมายในปัจจุบันของผม ก็คือ สักวันหนึ่งผมจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในธรรมะ ผมรู้สึกว่า ตัวเองค่อยๆ พัฒนาขึ้น ก้าวหน้าอย่างช้าๆ และผมรู้ว่า ถ้าผมนั่งสมาธิทุกๆ วัน ผมได้เข้าใกล้เป้าหมายของผมไปทุกขณะ สิ่งที่ผมได้ จากการฝึกสมาธิครั้งแรกนั้น เป็นอะไรที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเจอครับ ปกติแล้วเวลาคนเราหลับตามันจะมืดใช่ไหมครับ แต่พอผมหลับตา ผมกลับเห็นแสงสว่าง และแสงสว่างนั้นก็อยู่ในตัวของผมจริงๆ เมื่อผมนั่งสมาธิ ผมเห็นแสงสว่างส่องอยู่ภายในตัวผม เหมือนพระอาทิตย์ดวงเล็กๆ ขนาดเท่ากับลูกบาสเก็ตบอลเล็กๆ มันเติมความสงบสุข ความเย็นใจและความรักให้กับผม เหมือนผมได้รับพลังงานที่งดงาม ตอนนี้ีความเมตตากรุณาของผมถูกยกระดับขึ้น มีความเข้าใจและต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง เพื่อที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนอื่นๆ ได้ด้วย

         ผมปรารถนาอยากให้ทั้งโลกนี้ได้ฝึกสมาธิ มันเป็นสิ่งเดียวที่เรียกว่า "ใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง" ผมชอบคำของหลวงพ่อที่พูดว่า "It"s free" ไม่ต้องเสียกะตังค์ครับ มันช่างวิเศษมาก ปกติสิ่งที่ผมเห็นบนโลกใบนี้ มีแต่เสียเงินทั้งนั้น แต่สมาธิไม่เสียเงิน เพียงแต่ต้องอาศัยเวลา ความเอาใจใส่ ความรัก และความมุ่งมั่นที่จะทำเท่านั้น

          แต่ละครั้งที่นั่งสมาธิ ผมจะเห็นแสงสว่าง สว่างมากขึ้นและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ผมอยากจะบอกว่า คุณครูไม่ใหญ่ คือ คุณครูที่รักยิ่งของผม ตอนนี้ผมสามารถมองเห็นความหวังของโลกเดียวกัน สมาธิอย่างเดียวกัน แสงสว่างเดียวกัน ความสงบสุขเหมือนกัน ความสว่างไสวของหลวงพ่อช่วยให้ผมมีสมาธิอยู่กับภูเขาใหญ่แห่งจิตวิญญาณที่ผมต้องปีนขึ้นไป ผมมีชีวิตอยู่แต่ละวันก็เพื่อวันนั้น

          และผมมีความฝันในการที่จะเอาอัจฉริยภาพทางดนตรี เพื่อที่จะสร้างโลกแห่งสันติสุข เพราะเพลงเป็นภาษาสากล ที่จะทำให้แต่ละเชื้อชาติ ศาสนา หลอมรวมกันได้ง่ายๆ ง่ายต่อการเข้าใจ เพลงและสมาธิเป็นสิ่งที่เราทุกคนมีอยู่ข้างในตัว ความสงบที่เกิดจากการนั่งสมาธินั้นเป็นสิ่งที่เติมเต็มวิญญาณ นั่นก็คือ แสงสว่างภายในตัว ที่เราทุกคนมีกันอยู่แล้ว เพียงแค่เรารู้ know how ที่จะเข้าไปเปิดสวิตช์ หรือคลิกมันแค่นั้นเอง เราก็จะพบกับความสงบภายใน การฝึกสมาธิทุกวัน เป็นทางของความสงบสุข และยกเกรดของมนุษยชาติให้สูงขึ้น เพื่อให้เรามีโลกที่ดีขึ้นและเต็มไปด้วยความสุขมากขึ้น

        ตอนนี้ผมก็แต่งเพลงขึ้นเพลงหนึ่ง เพลงนั้นเรียกว่า "You and I are one" เพราะเมื่อได้นั่งสมาธิเราจะรู้ว่า "คุณและฉัน เราเป็นหนึ่งเดียวกัน" ความรักที่อยู่ภายในได้เติมเต็ม ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีเธอ ไม่มีฉัน ผมเชื่อว่านี่แหละเป็นวิธีที่จะพบความสงบสุขบนโลกใบนี้ในระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้แสวงหาเรื่อยมา

         ผมเห็นด้วยกับหลวงพ่อที่ว่า ถ้าเราทุกคนเรียนรู้ที่จะฝึกสมาธิ เมื่อนั้นสันติภาพโลกก็จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลอง ผมเชื่อว่าเวลานั้นมันใกล้เข้ามาแล้ว ในชีวิตของพวกเรานี่แหละที่จะได้พบกับสิ่งนั้นครับ"

           นอกจากเขาจะพบกับแสงสว่างภายในตัวแล้ว โฮเวิร์ดยังมีประสบการณ์ภายในที่ดีมากๆ อีกด้วย "ผมเริ่มนั่งสมาธิจากที่นั่งบนโซฟา ขาขวาทับขาซ้าย นึกถึงจุดที่ลมหายใจไปสิ้นสุด และผ่อนคลายร่างกาย ให้อยู่ในสถานะที่ไม่รู้สึกงก ไม่รู้สึกอยากได้ หรือหิว โกรธ กลัว ไม่สงสัย ไม่ว้าวุ่นใจ ความรู้สึกติดลบก่อนหลับตาหายไปเลย มีแต่ความรัก หลับตานิ่งๆ สักพัก ผมได้เห็นดวงแก้วที่ใส สว่าง อยู่ที่กลางตัว ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกเป็นสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และเมื่อผมได้มองต่อไปที่ตรงกลาง ผมก็เห็นใครบางคนนั่งอยู่กลางท้องของผม ตอนแรกผมเห็นแขนและไหล่ก่อน ท่าทางเหมือนพระพุทธรูป ผมก็นึกว่า เอ๊ะ! ตอนนี้พระพุทธรูปทำไมแปลกไป เหมือนไม่ใช่พระพุทธรูปนะ ผมก็มองนิ่งๆ แล้วทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น คุ้นหน้ามากขึ้น จนเห็นชัดเจนว่า คนที่นั่งอยู่ในตัวผมไม่ใช่ใครที่ไหน คือตัวผมเองครับ ผมเห็นตัวเองที่สว่างมาก เหมือนสีทองคำ แต่ใส่ชุดเหมือนหลวงพี่ใส่ ตัวผมข้างในนั้นหล่อขึ้น สวยงามขึ้น อ่อนเยาว์มากขึ้นด้วย เต็มไปความรู้สึกแห่งสันติภาพและความสบาย

        ที่สำคัญตอนนี้ใจและกายของผมใสสะอาด โดยปราศจากเหล้า ผมไม่ดื่มเหล้าอีกแล้ว ถึงแม้จะต้องทำงานในสถานที่ที่มีคนดื่มเหล้า ลูกค้าชอบสั่งเหล้าให้ เพราะเค้าชอบเพลงของผม ก่อนหน้านี้ผมจะไม่ปฏิเสธ แต่ตอนนี้ผม "NO" แล้วคนนั้นก็แปลกใจถามว่า "อ้าวทำไมไม่ดื่มล่ะ" ผมจึงบอกพวกเค้าว่า "ผมไม่สามารถดื่มเหล้าได้แล้วเพราะผมนั่งสมาธิ ผมไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในตัวเองได้หากมึนเมา" เขาจึงถามด้วยความสนใจว่า "สมาธิคืออะไร" อยากรู้มั้ยผมจะเล่าให้ฟัง ผมจึงได้แนะนำการนั่งสมาธิให้เขา และบอกว่า ไม่ว่าศาสนาไหนก็นั่งสมาธิได้ แม้ว่าคุณจะนับถือศาสนาคริสต์ สมาธิจะทำให้เส้นทางการเป็นคริสต์ของคุณสมบูรณ์ขึ้นไปอีก มันสวยงามมากขึ้นไปอีก สิ่งใดๆ ที่มากวนใจไม่มีอีกแล้ว ยิ่งนั่งมากขึ้น อดทนมากขึ้น ชีวิตจะสวยงามขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา แล้วเขาก็สั่งน้ำผลไม้แครนเบอรี่ให้ผมแทน

 

                  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

        สมาธิทำให้ดนตรีของผมพัฒนาขึ้นไปด้วยครับ เวลาเล่นดนตรี ผมสามารถเลือกทางเลือกได้มากขึ้น ผมร้องเพลงมาจากหัวใจ ร้องออกมาจากจุดที่แสงออกมา ผมไม่ได้มองคนที่ตาเนื้อ แต่มองจากตาที่อยู่ข้างใน

          ตอนนี้ผมเหมือนเด็กเล็กๆ ที่ใครๆ ก็มารุมรัก เมื่อก่อนมีแต่คนเบือนหน้าหนี แต่ตอนนี้แม้ไม่รู้จักเขาก็ยิ้มให้ ไม่รู้เป็นผลพวงจากสมาธิหรือเปล่าครับ

        ทุกวันนี้ผมมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะได้มาพบกับ หลวงพ่อ ขอบคุณหลวงพ่อมากๆ ผมจะไม่ยอมหยุดนั่งสมาธิเลยสักวัน และจะไม่ยอมหยุดกราบขอบพระคุณหลวงพ่อ ที่เปิดตาของผมด้วยการสอนให้ผมปิดมันซะ เพื่อจะได้เห็นแสงสว่างภายใน ผมไม่เคยรู้สึกมีความสุขและสมปรารถนาอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต อยากจะบอกจากก้นบึ้งลึกสุดจากหัวใจ ไปจนกระทั่งวันสิ้นชีวิตว่า หลวงพ่อทำให้ผมไม่มีความทุกข์ และเป็นคุณครูที่ยิ่งใหญ่ของผม

          และบรรทัดสุดท้ายนี้ คือ วรรคทองของคำตอบในชีวิตของเด็ก ๗ ขวบคนนั้น ว่า วันแห่งสันติภาพของโลกจะเกิดขึ้นได้อย่างไร "ผมจะทำหน้าที่ป่าวประกาศไปทั่วโลกว่า ถ้าทุกคนได้นั่งสมาธิ โลกจะเต็มไปด้วยสันติสุข"

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

บทความอยู่ในบุญทั้งหมด ฉบับที่ 49 พฤศจิกายน ปี 2549

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล