เรื่องที่ ๔๔๕ ไทยออยล์ระเบิด เกิดปาฏิหาริย์
“ลูกไม่ต้องกลัว เราจะปลอดภัย เพราะเรามีบุญกุศล มีพระคุ้มครองอยู่”
คืนวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๒ ท้องทะเลชายฝั่งตะวันตกของอ่าวอุดม ต.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ดูสงบเงียบ
ห่างจากบ้านคุณมณฑา จิรวัฒนกุล ประมาณ ๘๐๐ เมตร คือเขตรั้วของคลังเก็บน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!
มองฝ่าความมืดไปที่ปากอ่าว เห็นถังบรรจุน้ำมันขนาดใหญ่เป็นเงาตะคุ่ม ดำทะมึนสงบนิ่งอยู่
จุดบริเวณที่ถังน้ำมันของโรงกลั่นไทยออยล์เกิดระเบิด
|
แรงระเบิดทำให้ผู้คนตกตะลึงกันทั้งเมือง
|
เวลา ๕ ทุ่มกว่าแล้ว เจ้าของบ้านคือคุณมณฑา ทำหน้าที่พาพี่หนูไปส่งที่บ้านในตลาดเป็นประจำ ทุกๆ คืน พี่หนูเธอจะเดินทางมาที่บ้านกัลยาณมิตรของคุณมณฑา เพื่อสวดมนต์ นั่งสมาธิด้วยกัน เพราะทั้งสองคนเห็นความสำคัญของการปฏิบัติธรรมว่าการตรึกระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย จะนำมาซึ่งความสงบ ความบริสุทธิ์ของจิตใจ เป็นทางมาแห่งโภคทรัพย์และความดีงาม ทั้งแก่ตนเองและครอบครัว
คุณมณฑาขับรถยนต์ออกมาสู่ถนนใหญ่ ท้องถนนค่อนข้างเงียบ มีสุนัขนอนคุดคู้เรียงรายตลอดทาง บ้านส่วนใหญ่ปิดไฟ พักผ่อนกันเกือบหมดแล้ว ระยะทางจากบ้านคุณมณฑากับตลาดบ้านพี่หนูไม่ห่างไกลกันนัก แต่เป็นยามวิกาลเธอจึงมาส่ง ทั้งสองคนต่างนั่งกันเงียบๆ ปล่อยใจให้ดื่มด่ำกับความสงบภายใน สบายๆ...
สมาชิกบ้านกัลยาณมิตรพบอานุภาพบุญครั้งนี้กันทั่วหน้า
|
ใกล้ถึงทางแยกเข้าตลาดแล้ว วินาทีนั้นเอง เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ชายฝั่งตะวันตกตรงคลังน้ำมันไทยออยล์ เกิดแสงสว่างขึ้นมาปกคลุมทั่วท้องฟ้า พร้อมกับเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ผู้คนตื่นตระหนกตกใจ วิ่งหนีเอาชีวิตรอด ต่อภัยที่เข้ามาถึงตัวบ้าน เกิดความโกลาหลขึ้นทันที แรงระเบิดทำให้ทุกบ้านสั่นสะเทือนรุนแรง ประตูเหล็กบิดงอทันที กระจกและฝ้าเพดานแตกร่วงกราว เหตุการณ์รุนแรงที่ไม่คาดฝันนี้ ทำให้ทุกคนขวัญกระเจิง หอบลูกจูงหลานและทรัพย์สมบัติ ที่พอจะนำติดตัวมาได้ วิ่งออกจากบ้านมายืนรวมกันอยู่เต็มท้องถนนไปหมด เปลวไฟมหึมาลอยพุ่งขึ้นบนอากาศอย่างรวดเร็ว และขยายใหญ่ขึ้นจนท้องฟ้าที่ดำทะมึน เปลี่ยนเป็นสีเพลิง
คุณมณฑายังคงขับรถมุ่งตรงไปบ้านพี่หนูในตลาด ภาพที่เห็นมันน่ากลัวมาก แต่ใจของเธอกลับสงบนิ่ง พูดอย่างมีสติกับเพื่อนร่วมทางว่า “พี่หนู คลังน้ำมันระเบิดแน่เลย พี่เก็บของมีค่าไว้กับตัวนะ พี่ทำใจนิ่งๆ ใสๆ เพราะเราเพิ่งสวดมนต์นั่งสมาธิมา พระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมคุ้มครอง” พี่หนูพยักหน้าอย่างเข้าใจและเห็นด้วยว่า “แปลกนะ เสียงระเบิดดังมากและแรงขนาดนี้ แต่ทำไมเรานั่งอยู่ในรถปิคอัพจึงรู้สึกแค่แรงระเบิดธรรมดา รถก็ไม่เสียการทรงตัวด้วย” ส่วนรถที่วิ่งอยู่ข้างๆ ๒-๓ คัน ต่างเสียการทรงตัวกันหมด วิ่งส่ายไปมาคนละทิศละทาง
เปิดบ้านกัลยาณมิตร
สวดมนต์ไหว้พระกับเพื่อนบ้านทุกวัน |
สีหน้าพี่หนูเริ่มมีแววกังวลใจ นึกถึงบ้านของตนเองในตลาดที่ขายเครื่องใช้ในครัวเรือน หม้อ ชาม เครื่องพลาสติก ที่วางซ้อนกันอย่างแน่นหนา ชนิดมีช่องว่างตรงไหน ซ้อนซุกเข้าไปจนถึงเพดาน ทั้งห้อย ทั้งตั้ง ป่านนี้คงเสียหายไม่เหลือแน่ เพราะตลอดสองข้างทางในตลาด ทุกบ้านล้วนหนีไม่พ้นภัยพิบัติในครั้งนี้ บางรายกลัวจัดขับรถหนีไปไกลข้ามจังหวัด ข้ามอำเภอเลยทีเดียว
บริเวณข้างทาง มีแต่สภาพความเสียหายบ้านทุกหลังที่ติดกระจกโดยเฉพาะกระจกโชว์สินค้าแตกพังพินาศเต็มไปหมด โรงงานประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ที่จัดวางอะไหล่เป็นชั้นสูง ๑๐ ชั้นยุบพังลงมารวดเดียว ความเสียหายมูลค่าหลายล้าน ห่างจากบ้านพี่หนูอีกแค่หลังเดียว กระจกแตกร่วงเต็ม ต่อจากนั้นเป็นบ้านคุณยายเยื้อน แดงโพธิชา มองเห็นป้ายบ้านกัลยาณมิตร ติดอยู่ที่หน้าบ้านแต่ไกล ยังอยู่เป็นปกติดี พี่หนูรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน ลูกสาวเมื่อเห็นหน้าแม่ก็ร้องไห้ โผเข้ามากอดแน่นบอกว่า “แม่จ๋า มันน่ากลัวจังเลย ระเบิดดังกึกก้อง แผ่นดินสะเทือน บ้านเราเหมือนจะทรุดพังลงมา แล้วไฟมันจะลุกลามมาถึงบ้านเราไหม หนูกลัว...” พี่หนูปลอบลูกสาว “คงไม่หรอกเพราะทางคลังน้ำมันเขามีระบบป้องกันไฟดีมาก อีกอย่างครอบครัวของเรา ทำแต่ความดี สร้างบุญกุศลมาตลอด แม่เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องคุ้มครอง ให้เราปลอดภัยแน่นอน แม่เชื่ออย่างนั้น”
บ้านกัลยาณมิตร จุดเริ่มต้นของความสุข และทางมาแห่งสิริมงคล
|
พี่หนูรีบสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในบ้าน ไม่น่าเชื่อสินค้าสารพัดรูปแบบ ทั้งพลาสติก หม้ออลูมิเนี่ยม เตาอั้งโล่ ของหนักที่สุดจนถึงเบาที่สุด ของทุกอย่างยังคงปกติ ไม่มีร่องรอยของความเสียหายแต่อย่างใดเลย
คุณมณฑา เมื่อส่งพี่หนูถึงบ้านปลอดภัยแล้ว เธอรีบกลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพี่หนูเพียง ๑ กิโลเมตร ห่วงบ้านห่วงลูกเพราะในบ้านมีแต่น้องแนน ลูกสาววัย ๑๐ ขวบ และเจ้าไข่เค็ม กับเจ้าลีโอ สุนัขที่เลี้ยงไว้นอนเป็นเพื่อนลูกสาว...
ขับรถฝ่าฝูงชนที่ยืนอออยู่เต็มถนนเสียงของพระเพลิงที่โหมกระหน่ำคำรามดังก้อง เธอพยายามสวดบทสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุให้ได้ตลอด แต่ก็สามารถนึกสวดได้แค่ สิชัฌตุ...สิชัฌตุ...อย่างนั้นตลอดทางเธอนึกไปถึงบ้านเช่าของตนเองที่ดัดแปลงเป็นห้องโชว์สินค้า และที่พัก ในพื้นที่ของปั๊มน้ำมันทำธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์ ซึ่งใช้กระจกขนาดบางแค่ ๖ มม. เท่านั้น เพื่อตกแต่งให้เป็นโชว์รูม โดยลงทุนแบบประหยัดสุด แล้วบ้านของเธอจะไปเหลืออะไร
คุณยายเยื้อน ปลอดภัย ไม่หวั่นไหวทั้งบ้านทั้งคน
|
เมื่อขับรถเลี้ยวเข้าในบริเวณปั๊มน้ำมันถังน้ำมันที่เรียงซ้อนกันอยู่ล้มระเนระนาด หลังคาจุดจำหน่ายน้ำมันหล่นไปทั้งแถบ สิ่งแรกที่เธอทำก็คือ ดูกระจกบ้านก่อน ไม่มีเศษของกระจกแตกเลยเอื้อมมือไปสัมผัสกระจกที่กรุบ้านอีกเพื่อความแน่ใจ...เอ๊ะ! ยังอยู่นี่ ขวดสเปรย์ น้ำยาขัดเงา ฯลฯ ยังคงตั้งเรียงราย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้องแนนยังคงนอนหลับอยู่ในห้องสวดมนต์ เจ้าไข่เค็มกับเจ้าลีโอ หลับคุดคู้อยู่ในที่ของมัน น้องแนนถูกแม่ปลุกให้ตื่น พร้อมกับอาการตกใจที่เห็นท้องฟ้าสว่างแดงด้วยสีเพลิง “ลูก... คลังน้ำมันระเบิด” น้องแนนผวาหาอ้อมกอดของมารดา... “แม่แนนกลัว เมื่อกี้ตอนแนนนอนหลับอยู่ แนนฝันว่ามีผู้คนวิ่งหนีสับสนอลหม่านไปหมด แล้วร้องบอกไฟไหม้...ไฟไหม้ พอแม่มาเรียก หนูก็ตกใจตื่น ไฟไหม้จริงๆ ด้วย หนูกลัวค่ะ แล้วเราจะทำอย่างไร” “ลูกไม่ต้องกลัว เราจะปลอดภัย เพราะเรามีบุญกุศล มีพระคุ้มครองอยู่” คุณมณฑาบอกลูกอย่างเชื่อมั่นในคุณของพระรัตนตรัย
หลายชั่วโมงแล้วไฟยังคงโหมไหม้ เสียงผู้คนอึงมี่ราวกับเกิดจราจลขึ้นกลางเมือง ทุกชีวิตในอ่าวอุดมไม่สามารถข่มตาหลับได้
แสงสีเงินสีทอง...เริ่มจับขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเริ่มวันใหม่แล้วความสว่างช่วยให้สถานการณ์ที่น่ากลัวคลายตัวลง
คุณมณฑา เดินสำรวจความเสียหายภายในตัวบ้านอีกครั้ง เดินไปขนลุกไป ความดีและบุญกุศลที่เพียรทำมา ด้วยความเชื่อมั่นในศรัทธา ถึงแม้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์จับต้องได้ด้วยกายเนื้อ หรือเห็นด้วยตาได้ แต่เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า “บุญ” นั้นได้ตามคุ้มครองผู้เป็นเจ้าของ ถ้าใจของเจ้าของหยุดนิ่งเป็นสมาธิ ย่อมพลิกสถานการณ์จากร้ายให้กลายเป็นดีได้
ของทุกชิ้นภายในบ้านไม่มีสิ่งใดเสียหายเลย กระจกที่บางแค่ ๖ มม. ก็ไม่มีรอยแตกร้าว ส่วนปั๊มน้ำมันที่อยู่ติดกัน กระเบื้อง หลังคา และฝ้าเพดานหล่นแตกเสียหายอย่างมาก
แม้แรงระเบิดก็ไม่สามารถทำลายกระจกบางๆ ของบ้านนี้ได้
|
ด้วยความตื่นเต้นรีบขับรถพาน้องแนนไปบ้านพี่หนูในตลาด เมื่อพบหน้ากันต่างฝ่ายต่างดีใจกับเหตุอัศจรรย์ในครั้งนี้ พี่หนูจูงมือคุณมณฑาไปบ้านคุณยายเยื้อน ซึ่งเป็นร้านขายของชำร่วย...ดอกไม้ พวงหรีด แต่ของที่ซ้อนกันส่วนใหญ่น้ำหนักเบาๆ ก็ไม่ได้รับความเสียหายเช่นกัน ตึกแถวที่อยู่ติดกันอีก ๒ ห้อง กลับได้รับความเสียหาย กระจกแตกหมด ข้าวของภายในร้าน ร่วงล้มระเนระนาด
ทั้งสามคนจับมือกันแน่นเหนือคำอธิบาย ปีติซาบซึ้งในบุญกุศล ที่เกิดจากการเปิดบ้านกัลยาณมิตร ปฏิบัติธรรมเป็นประจำ ครู่ต่อมาเสียงของพี่เปียที่ขายดอกไม้สด ตะโกนทักมาแต่ไกล “บ้านเป็นยังไงบ้าง บ้านพี่ปลอดภัย ไม่มีอะไรแตกเสียหายเลย พี่ว่าเป็นอานิสงส์ที่เราเปิดบ้านสวดมนต์กัน ทุกวันแน่ๆ เลย” “นั่นน่ะซิคะ อยากให้ทุกๆ บ้าน ได้เปิดบ้านกัลยาณมิตร สวดมนต์ นั่งสมาธิกันให้หมดเลยนะพี่ เมื่อเจอเหตุอันตรายใดๆ จะได้เผชิญกับมันอย่างมีสติ รักษาใจให้ดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระรัตนตรัยท่านคอยคุ้มครองเราอยู่ ขอให้เรามีสติส่งจิตระลึกถึงท่านด้วยความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น ชีวิตก็จะปลอดภัยในทุกๆ ด้าน” คุณมณฑาพูดด้วยความเชื่อมั่นในคุณแห่งพระรัตนตรัยที่ช่วยคุ้มครองให้เธอและเพื่อนบ้านรอดพ้นจากอัคคีภัยในครั้งนี้