เหตุการณ์ที่ไม่มีวันเลือน

วันที่ 22 มค. พ.ศ.2559

เหตุการณ์ที่ไม่มีวันเลือน

           สาเหตุที่ตรัสชาดก ภิกษุนั่งในธรรมสภากล่าวถึงคุณของพระสารีบุตรเถระเจ้าที่รู้พระอัธยาศัยของพระทศพล พระตถาคตเจ้าเสด็จมาทรงทราบเรื่องสนทนา แล้วทรงนำอดีตมาตรัสดังนี้..

         ครั้งหนึ่ง ณ ป่าใหญ่ ได้มีละมั่งตัวหนึ่งกำลังวิ่งหนีการไล่ล่าของพระราชาอย่างสุดชีวิต ละมั่งวิ่งเข้าไปในป่าลึกได้กลิ่นน้ำโชยมาแตะจมูกแต่ไม่เห็นว่ามีน้ำอยู่ตรงไหน ได้กวาดสายตาสอดส่องแหล่งน้ำจึงรู้ว่าภายใต้หญ้าเขียวที่ปกคลุมเบื้องหน้าคือบ่อน้ำลึกละมั่งไวปานลมขณะใกล้จะล้มตกลงบ่อก็รีบกระโดดเบี่ยงฉีกออกไปได้ทัน พระราชาวิ่งกวดตามมาไม่ทรงทราบว่ามีบ่อน้ำซ่อนอยู่ได้พลัดตกลงไปในบ่อลึก หาที่ยึดจับปีนขึ้นมาไม่ได้ ดิ้นรนอยู่ในบ่อรอความตาย กรรมตามสนองพระราชาบ้างแล้ว!

 

            ละมั่งวิ่งหนีไม่เหลียวหลังไปจนไกลแล้วหันกลับมาดู ก็รู้ว่าพระราชาพลัดตกบ่อน้ำ ตนเองปลอดภัยแล้ว เกิดความโล่งอกโล่งใจแต่ก็อดมิได้ที่จะวิ่งย้อนกลับมาดูพระราชา เมื่อเห็นพระราชาดิ้นทุรนทุรายอยู่ภายใต้บ่อน้ำก็เกิดคิดสงสารขึ้นมา มิได้คำนึงถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ชายผู้นี้ไล่ล่าหมายเอาชีวิตตนอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต ละมั่งวิ่งไปที่ก้อนหินแล้วไสกลิ้งหินลงบ่อทีละก้อนๆ เพื่อถมพื้นบ่อให้สูงขึ้น จนผ่านไปหลายชั่วยาม ในที่สุดพระราชาก็กระโดดขึ้นมาได้ ละมั่งยืนดูท่าทีพระราชาอยู่ห่างๆ ก็รู้ว่าพระราชาเป็นมิตรไม่คิดฆ่าตนแล้ว จึงให้ขึ้นหลังวิ่งพาออกจากป่าไปส่งถึงที่ตั้งค่ายทหารแล้วขอให้พระราชารักษาศีล 5 พระราชาเกิดความซาบซึ้งในคุณธรรมของละมั่ง ทรงถึงกับชวนให้มาครองราชย์ร่วมกัน แต่ละมั่งกล่าวว่า..

 

    "ข้าพระองค์เป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่ต้องการราชสมบัติหรอก ถ้าพระองค์มีไมตรีในตัวข้าพระองค์แล้วไซร้ โปรดให้ชาวเมืองรักษาศีล 5 กันเถิด แม้พระองค์เองก็รักษาด้วย"

 

              ละมั่งกล่าวจบแล้ววิ่งเข้าสู่ป่าลึกตามเดิม พระราชาสุดแสนจะอาลัยรักละมั่งเป็นที่สุด พระอัสสุชนหลั่งไหลเต็มพระเนตร รับสั่งให้ตีกลองป่าวประกาศให้ชาวเมืองทุกคนรักษาศีล 5 ทุกคน จากนั้นมาพระราชาก็ทรงยินดีแต่การสั่งสมบุญกุศล หมั่นให้ทานแจกจ่ายแก่ชาวเมือง แล้วให้พสกนิกรตั้งอยู่ในธรรม ใครที่ตายไปแล้วก็ได้ไปสวรรค์กันเนืองแน่นจนท้าวสักกะเห็นหมู่เทพบุตร เทพธิดาหน้าใหม่ๆเกิดขึ้นมาอย่างมากมาย ได้ทรงตรวจดูสาเหตุจึงรู้ว่าเป็นเพราะโอวาทของละมั่งที่ให้ไว้แก่พระราชาและพระราชาได้ปฏิบัติตามเป็นอันดีแล้วนั่นเอง ชาวสวรรค์จึงเกิดขึ้นมาอย่างมากมาย แล้วทันใดนั้น!พระองค์ก็ทรงหายแว็บไปจากดาวดึงส์พิภพทันที

 

            วันนั้น พระราชากำลังทรงฝึกซ้อมยิงธนูเพื่อไว้ลายข่มขู่ข้าศึกที่อาจมาคุกคามในอนาคต จู่ๆก็มีละมั่งมายืนอยู่ที่วิถีลูกศร ปุโรหิตวันนี้ก็ผิดเป็นคนละคน กลับเร่งให้พระองค์ทรงปล่อยลูกศรยิงละมั่งที่อยู่ตรงหน้าพระพักต์ให้ตายโดยเร็ว ทั้งที่ปกติปุโรหิตนี้เป็นคนยึดมั่นในศีล 5 เป็นที่สุด ปุโรหิตกล่าวว่า..
"พระองค์จะทรงลังเลไปไยอีกเล่า ยิงไปเลย พระเจ้าข้า ละมั่งตัวนี้เป็นอาหารชั้นดีโดยแท้"
"ท่านปุโรหิต เรานั้นรู้ดีว่าละมั่งนี้เป็นอาหารชั้นดีของเหล่ากษัตริย์ แต่เราไม่อาจฆ่าละมั่งได้เพราะละมั่งทำคุณไว้กับเรา เราบูชาคุณที่ละมั่งทำไว้ในปางก่อน ฉะนั้นเราจะไม่ขอฆ่าเนื้อละมั่งเป็นเด็ดขาด!" พระราชาตรัสตอบอย่างเด็ดเดี่ยว

 

             "ข้าแต่มหาราชผู้กล้าหาญ! ข้าพระองค์จะทูลให้ทรงทราบ นั่นมิใช่ละมั่งหรอกแต่เป็นท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่กว่าอสูรทั้งหลาย ถ้าพระองค์ฆ่าแล้วก็จะได้เป็นใหญ่เสียเองไงล่ะ! ถ้าขืนพระองค์ยังทรงลังเลไม่รีบยิงละมั่งนี้ มันจะทำให้ตัวพระองค์เองและพระชายากระทั่งโอรสของพระองค์ต้องไปตกนรกของพระยายมนะ พระเจ้าข้า" ปุโรหิตข่มขู่พระองค์จะให้ทรงยิงให้ได้

 

             "อะไรกัน! ท่านปุโรหิต หากแม้นเป็นเช่นนั้นจริง ถึงชาวเมืองทั้งหมด ทั้งพระโอร มเหสีและสหายที่รักของเราจะต้องไปนรกกันทั้งหมดก็ตามเถอะ เราก็จะไม่ฆ่าผู้ที่ให้ชีวิตแก่เราเป็นอันขาด!ท่านปุโรหิต ละมั่งตัวนี้ได้ให้ชีวิตแก่เราในป่าอันน่ากลัว เราไม่เคยลืมสิ่งที่ละมั่งตัวนี้ทำกับเราเลย เราจะฆ่าผู้มีพระคุณนั้นได้อย่างไรกัน"

 

ท้าวสักกะออกจากร่างปุโรหิตมายืนอยู่บนอากาศ ตรัสชื่นชมว่า..
          "พระองค์ช่างมีไมตรีต่อมิตรโดยแท้ ขอจงทรงพระชนม์ชีพอยู่ยั่งยืนนานเทอญ ขอทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์ด้วยคุณธรรม และขอทรงบันเทิงพระทัยดั่งในสรวงสวรรค์เหมือนกับเราพระองค์อย่าได้ทรงพิโรธโดยเด็ดขาด ทรงผ่องใสไว้เสมอ หมั่นบำรุงสมณพราหมณ์ผู้ยิ่งด้วยธรรม เช่นนี้มิว่าผู้ใดก็มิอาจติเตียนพระองค์ได้ เมื่อละโลกไป พระองค์จะได้ไปเสวยยศใหญ่ในสวรรค์ ข้าพเจ้าความจริงประสงค์มาเพื่อจับผิดพระองค์ แต่พระองค์มิให้ข้าพเจ้าจับผิดได้เลย ขอพระองค์จงอย่าประมาทเถิด" แล้วท้าวสักกะก็เหาะเสด็จจากไป..

 

ประชุมชาดก
            พระทศพลทรงประชุมชาดกว่า ราชาครั้งนั้นมาเป็นอานนท์ ปุโรหิตมาเป็นพระสารีบุตร ละมั่งมาเป็นตถาคตแล


             จากชาดกเรื่องนี้ กวางไม่ถือโทษโกรธเคืองผู้หมายฆ่าตน กลับเข้าช่วยเหลือศัตรูให้พ้นอันตรายส่วนพระราชาเป็นผู้มีสัจจะยิ่ง ยินดีมอบราชสมบัติให้แทนคุณ เมื่อถูกยั่วยุให้ลุแก่กิเลสมีทรัพย์และตำแหน่งอันน่ายั่วยวนมาล่อ กระทั่งถูกข่มขู่ด้วยชีวิตตนและญาติมิตรทั้งหมด ทั้งยังมีแรงสนับสนุนจากคนใกล้ชิดอีก ก็ไม่โลเล ไม่ทำลายสัจจะ ยอมสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างทั้งชีวิตตนและครอบครัว แต่ไม่ยอมทำชั่วเนรคุณคนเด็ดขาด


"นิสัยไม่ทำร้ายผู้มีพระคุณ และยึดมั่นในมิตรธรรม" จึงนับเป็นนิสัยในวิถีนักสร้างบารมี
ที่นับเนื่องเข้าในสัจจบารมี

-----------------------------------------------

SB 405 ชาดก วิถีนักสร้างบารมี

กลุ่มวิชาพุทธวิธีในการพัฒนานิสัย

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0048519015312195 Mins