ลิงสงบใจพลิกวิกฤติ

วันที่ 08 กพ. พ.ศ.2559

ลิงสงบใจพลิกวิกฤติ

              สาเหตุที่ตรัสชาดก ภิกษุนั่งสนทนากันในธรรมสภาถึงพระปัญญาของพระทศพล พระตถาคตเสด็จมาทรงทราบความนั้นแล้วตรัสว่า มิใช่แต่บัดนี้เท่านั้น ถึงในกาลก่อน ตถาคตก็ฉลาดในอุบายเหมือนกันแล้วทรงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่าดังนี้..

 

           ในอดีต มีลิงตัวหนึ่งปกครองฝูงลิงจำนวนมากในป่าชนบท คราวหนึ่ง ฝูงลิงคิดอยากกินผลมะพลับในเขตแดนชาวบ้าน จึงพากันไปขออนุญาตหัวหน้า หัวหน้าลิงห้ามปรามมิให้ไป เพราะไหนเลยจะไม่มีอันตราย แต่ฝูงลิงจะขอไปตอนเที่ยงคืน ต่างพากันมาอ้อนวอนจนหัวหน้าใจอ่อน หัวหน้าจึงอ่อนใจยินยอมอนุญาต

            ครั้นพอตกดึก พวกลิงพากันไปรุมกินผลไม้ หัวหน้าลิงคอยดูแลความปลอดภัยให้ แต่พาลมีชายคนหนึ่งออกมาอุจจาระกลางดึก ชายนั้นเหม่อมองท้องฟ้าดูดาว แต่กลับเห็นลิงเต็มฟ้า ทั้งยังรู้ว่ามิใช่ดาวลิง! จึงรีบตะโกนบอกคนในหมู่บ้านว่า..
"เฮ้! เฮ้! พวกลิงมารุมกินผลไม้กันหมดแล้ว"

 

             ชาวบ้านเร็วปานลมพัดคว้าธนู ถือหอกพร้อมอาวุธต่างๆ มาล้อมบริเวณที่ฝูงลิงอยู่ไว้หมดสิ้นต้นไม้อยู่โดดเดี่ยวกลางทุ่ง ฝูงลิงไร้ต้นไม้ไหนเลยจะรอดได้ ดูท่า นอกจากลิงจะเหาะได้แล้ว นอกนั้นไม่เห็นทางรอดเลย..

              รุ่งเช้าแล้ว ชาวบ้านเห็นลิงถนัดชัดเต็มตา ฝูงลิงนับหมื่นก็เห็นชาวบ้านถนัดชัดเต็มตาเช่นกันโดยเฉพาะอาวุธในมือ ลิงทั้งฝูงต่างตกใจกลัวตาย ยืนตั่วสั่นงันงกทั่วหน้าสถานการณ์ตอนนี้คับขันมากแล้ว ท่าทางชาวบ้านจะเริ่มลงมือแล้ว หัวหน้าฝูงจำต้องสงบอารมณ์ให้เยือกเย็นที่สุด นิ่งที่สุด! แต่บัดนี้นิ่งไม่ได้อีกแล้ว หากไม่กล่าวคำปลอบโยนบริวารเสียบ้างรับประกันได้ว่า ลิงทั้งหมดแม้ไม่ถูกอาวุธตายก็ต้องกลัวจนหัวใจแตกตายแน่! หัวหน้าจึงบอกกับฝูงลิงว่า ..
"พวกเจ้าสงบอารมณ์ไว้! อย่าเพิ่งกลัวไป รอดูไปก่อน พวกมนุษย์มักมีกิจธุระมาก ตอนนี้เพิ่งแจ้งเท่านั้น พวกเขาแค่คิดจะฆ่าพวกเรา แต่ยังไม่ได้ลงมือ ถึงเวลานั้นคงมีเรื่องอะไรเข้ามาเบี่ยงเบนพวกชาวบ้านไปได้ ใจเย็นๆ ก่อนสงบใจไว้ให้ดี ว่าแต่! ตอนนี้ยังพอมีเวลาอยู่อีกนิด เหลือเฟือที่จะเก็บกินผลไม้ได้อย่างจุใจ ขอให้เก็บกินผลมะพลับกันให้อิ่มหนำสำราญกันเถิดพวกเรา"

 

              อาการลนลานของลิงพลันสงบลง ฝูงลิงค่อยๆ หายกลัว ทุกตัวยืนกินผลไม้ รอคอยเวลาอย่างเยือกเย็น ขอเพียงสงบใจรอดูเหตุการณ์ อาจบางทีมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้ ในเมื่ออย่างไรก็ต้องตายมิสู้สงบใจไว้จะประเสริฐกว่า แต่ฝูงลิงดูท่าไม่ต้องตายแล้ว เนื่องเพราะหัวหน้าได้เรียกบริวารให้ช่วยกันนับจำนวนลิงทั้งหมดอย่างละเอียดอย่าให้ตกหล่นแม้แต่ตัวเดียว จึงพบว่าลิงชื่อเสนกะผู้เป็นหลานของหัวหน้าไม่อยู่ในที่นี้ พริบตานั้นเอง! เกิดเหตุไฟไหม้โหมกระหน่ำที่กลางหมู่บ้าน พวกชาวบ้านสะดุ้งตกใจรีบวิ่งกลับไปดับไฟอย่างไม่คิดชีวิต เมื่อชาวบ้านไปหมดแล้ว ลิงเสนกะเดินเข้ามาที่ต้นไม้อย่างสบายใจ ลิงเสนกะนอนตื่นสายเลยมาร่วมวงสังสรรค์ช้าไปนิด ทำให้ต้องอยู่นอกวงล้อม..

             ชาวบ้านดับไฟแล้ว และชีวิตลิงก็มิได้ดับ ลิงทุกตัวได้กินอิ่มท้อง ชาวบ้านก็มิต้องทำปาณาติบาตฝูงลิงไม่ต้องตาย บ้านเรือนไม่ทันเสียหาย เหตุการณ์คลี่คลายได้ดี

 

ประชุมชาดก
         พระทศพลทรงประชุมชาดกว่า เสนกะวานรครั้งนั้นมาเป็นมหานามศากยะ พญาวานรมาเป็นตถาคตแล

 

         จากชาดกเรื่องนี้ ลิงทุกตัวตกในวงล้อม หากหัวหน้าไม่ควบคุมสติ เกิดหุนหันสั่งการหนีทันทีก็เท่ากับเร่งเวลาตาย จ่าฝูงแม้ไม่เห็นทางรอดก็ไม่ลนลาน การแก้ปัญหาด้วยปัญญาจึงเริ่มขึ้น หากใจไม่นิ่งความคิดก็ฟุ้งซ่าน หนทางแก้ไขยิ่งดิ่งลงสู่หายนะ! จะเห็นว่าความวิตกกังวลก็ตาม ความลนลานกลัวตายก็ตาม ความตื่นเต้นไม่ปล่อยวางอารมณ์ก็ตาม ล้วนเป็นอุปสรรคต่อความนิ่งของใจ นักสร้างอุเบกขาบารมีจึงจำเป็นต้องฝึกฝนที่จะคลายความผูกพันในสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะสิ่งที่ตามใจกิเลสไม่พึงตามใจมันสละวางความปรารถนาลงให้จงได้ จึงจะค่อยๆ มีกำลังตัดใจมากขึ้นเรื่อยๆ จนแข็งแกร่งพอที่จะปล่อยวางอารมณ์ได้ทุกสิ่ง เมื่อใจนิ่งทุกสิ่งนั้นก็ไม่ยาก

 

"นิสัยใจคอหนักแน่น, ไม่ตื่นเต้นยามคับขัน, ไม่หุนหันตัดสินใจ, ไม่ตื่นตกใจใน
ทุกสถานการณ์, ไม่ลนลานกลัวภัย, ไม่ผูกพันในชีวิต, ไม่ติดในทรัพย์ ชื่อเสียงคำเยินยอ และ
กามสุข, รักการทำใจหยุดนิ่งสม่ำเสมอ และไม่เผลอลำเอียง" ทั้งหมดนี้จึงนับเป็นนิสัยในวิถี
นักสร้างบารมีที่นับเนื่องเข้าในอุเบกขาบารมี

-----------------------------------------------

SB 405 ชาดก วิถีนักสร้างบารมี

กลุ่มวิชาพุทธวิธีในการพัฒนานิสัย

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.016011881828308 Mins