นิสัยเริ่มเกิดในตัวมนุษย์ตั้งแต่เมื่อไร และแตกต่างกันได้อย่างไร

วันที่ 01 มิย. พ.ศ.2560

นิสัยเริ่มเกิดในตัวมนุษย์ตั้งแต่เมื่อไร และแตกต่างกันได้อย่างไร
 

สูตรสำเร็จการสร้างบารมีเป็นทีม , Pre-Degree , วัดพระธรรมกาย , DOU , ธรรมกาย , ปริญญาตรี , พรีดีกรี , พระพุทธศาสนา , พุทธศาสตร์ , พระไตรปิฎก , สร้างบารมี , หลวงพ่อธัมมชโย , นิสัย , นิสัยเริ่มเกิดในตัวมนุษย์ตั้งแต่เมื่อไร และแตกต่างกันได้อย่างไร

   นิสัยเริ่มเกิดในตัวมนุษย์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา แตกต่างกันเพราะได้รับการฝึกการใช้ปัจจัย 4 ตั้งแต่แบเบาะไม่เหมือนกัน

       ยกตัวอย่างเช่น ถ้าในขณะที่ลูกอยู่ในครรภ์มารดา พอตกเย็นมา แม่กินเหล้าทุกวันเมาเช้าเมาเย็นอยู่อย่างนั้นเป็นปกติ เพียงแค่นี้ก็มีผลต่อการเพาะนิสัยให้แก่ลูกในท้องแล้วทันทีที่ลูกคลอดออกมา พอดูหน้าปุบ ก็รู้เลยว่า ลูกเป็นเด็กปัญญาอ่อน เพราะว่าแม่เพาะนิสัยขี้เมามาตั้งแต่อยู่ในท้อง และนับจากวันคลอดออกมา ก็เลยมีนิสัยขี้เมาโดยไม่ต้องกินเหล้าตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งวันตาย

      เด็กบางคนมีนิสัยเกาก้นในที่สาธารณะ พอสืบสาวไปดูที่มาของนิสัย ก็พบว่าสมัยที่ยังเป็นเด็กทารก พอขับถ่ายออกมาแล้ว พ่อแม่ปล่อยให้นอนแช่ปัสสาวะอุจจาระ จนกระทั่งโรคผื่นคันกินก้นลายไปหมด ไปนั่งตรงไหน ก็เกาขาเกาแข้งไม่เลือกที่เลือกทาง นี่ก็เป็นนิสัยที่เพาะขึ้นมาตั้งแต่ลูกยังแบเบาะ

      นิสัยที่เกิดขึ้นจากการซักเสื้อผ้าไม่เหมือนกัน เช่น เด็กคนหนึ่งซักผ้าทุกวัน ไม่ปล่อยหมักหมมข้ามคืน ก็ได้นิสัยรักษาความสะอาด ได้นิสัยทำอะไรไม่คั่งค้างมา ได้นิสัยถนอมข้าวของติดตัวมาจากการซักเสื้อผ้าอย่างถูกวิธี

      แต่เด็กอีกคนหนึ่ง รอให้ใส่เสื้อผ้าให้หมดตู้ จึงค่อยเอามาซักพร้อมกัน พอลงมือซักก็แช่หมักจนผ้าเน่าข้ามวันข้ามคืน จึงค่อยลงมือซัก เด็กคนนี้ก็ได้นิสัยสกปรกหมักหมม นิสัยไม่รู้จักถนอมข้าวของ นิสัยทำงานคั่งค้าง และอีกสารพัดนิสัยเสีย ๆ จากการใช้เสื้อผ้าไม่ถูกวิธี

       นี่คือตัวอย่างเพียงเล็กน้อยที่แสดงให้เห็นว่า การใช้ปัจจัย 4 ด้วยวิธีการที่แตกต่างกันย่อมได้นิสัยที่แตกต่างกัน

       หากใครได้รับการฝึกให้ใช้สอยปัจจัย 4 อย่างถูกวิธีมาตั้งแต่วันแรกเกิดแล้ว คน ๆ นั้นย่อมถูกฝึกให้รู้จักดูแลสุขภาพกายให้สะอาดแข็งแรง และรู้จักดูแลสุขภาพใจให้ผ่องใสด้วยการควบคุมกิเลสในใจไปโดยอัตโนมัติ โอกาสที่จะฝึกฝนอบรมตนเองให้เข้าถึงธรรมย่อมเกิดขึ้นได้ไม่ยาก

       แต่ถ้าหากใครได้รับการฝึกให้ใช้สอยปัจจัย 4 อย่างผิดวิธีมาตั้งแต่วันแรกเกิดแล้วนอกจากคน ๆ นั้นจะถูกฝึกให้มีนิสัยทำลายสุขภาพ คือไม่สะอาด และหมักหมมไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ยังมีนิสัยดื้อรั้น เจ้าอารมณ์ ชอบทำตามใจตนเองอีกด้วย ซึ่งก็กลายเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงธรรมไปโดยอัตโนมัติ

      นั่นก็หมายความว่า การที่ใครจะบรรลุธรรมได้นั้นสุขภาพกายและสุขภาพจิตต้องสมบูรณ์ จึงต้องเริ่มต้นที่ทัศนคติในการใช้ปัจจัย 4 ให้ตรงก่อน เพราะเป็นทางมาของนิสัยควบคุมใจให้คุ้นกับการพรากจากกิเล เมื่อฝึกนิสัยพื้นฐานนี้ลงตัวแล้ว การฝึกคุณธรรมอื่น ๆ เพื่อการบรรลุธรรมไปตามลำดับ ย่อมเป็นไปได้โดยสะดวก

      การฝึกตนเองให้มีนิสัยรู้จักใช้ปัจจัย 4 ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงด้วยความเหมาะสมพอดี จึงเท่ากับเป็นการพันาตนเองให้สมบูรณ์พร้อมทั้งสติและปัญญา ทำให้มีสติรู้เท่าทันแต่ละวาระจิตของตนเอง และทำให้มีปัญญามองทะลุสรรพสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง เพราะเมื่อมีสติปัญญาที่มองทะลุถึงความพอดีและเหมาะ มในการใช้ปัจจัย 4 ได้ ก็ย่อมเป็นจุดเริ่มต้นของ ติปัญญาที่จะเข้าใจธรรมะที่ละเอียดลึกซึ้ง เช่น เรื่องการเวียนว่ายตายเกิดกฎแห่งกรรม และมรรคผลนิพพานได้ง่าย

      เพราะเหตุนี้ ในการสร้างบารมีเป็นทีมของวัดพระธรรมกาย พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) ท่านจึงกำชับหมู่คณะอยู่เสมอว่า "ถ้างานหยาบยังไม่ละเอียดแล้วจะทำงานละเอียด (นั่งสมาธิ) ให้ละเอียดได้อย่างไร"

      การสร้างบารมีของหลวงพ่อธัมมชโยนั้น ท่านลงมาเคี่ยวเข็ญงานด้านต่าง ๆ ของหมู่คณะด้วยตัวท่านเอง ก็เพื่อจะถ่ายทอดนิสัยสร้างบารมีอย่างทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันให้ถ้วนทั่วแก่สมาชิกองค์กรวัดพระธรรมกายโดยท่านใช้คำว่า "ท่านจะชวนทุกคนสร้างบุญโดยไม่ให้ตกบุญเลย แม้แต่บุญเดียว" นี่คือวิธีฝึกหมู่คณะให้มีนิสัยรักบุญผ่านงานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่าน เพราะท่านต้องการให้เรามีนิสัยละเอียดประณีตในการสร้างบุญ ซึ่งจะส่งผลให้การเข้าถึงธรรมมีความละเอียดประณีตไปด้วย

 

 

*----------------------------------------------------------------------------------------------------------*
หนังสือ PD 002 สูตรสำเร็จการสร้างบารมีเป็นทีม
หนังสือเรียน หลักสูตร Pre-Degree

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0020988345146179 Mins