อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ สำหรับ ผู้สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะได้รับของที่ระลึกเป็นพระธรรมกายของขวัญ

อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ เรื่องที่ ๒๗๒เตรียมงานศพแล้ว

เรื่องที่ ๒๗๒เตรียมงานศพแล้ว
ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันหามไปไว้ที่วัด เพื่อบำเพ็ญกุศล

 

 

 

 

 

 
 
คุณบรรจง เปรี้ยววงศ์
 
 

อาจารย์วีระ ชินทะวัน อยู่จังหวัดอุบลราชธานี เขาเข้า วัดพระธรรมกาย ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๓๑ เป็นผู้นำบุญและทำบ้านของตนเป็นที่ปฏิบัติธรรม ที่กัลยาณมิตรมาสวดมนต์ทำวัตร นั่งสมาธิเป็นประจำ ได้เล่าให้ฟังเรื่องอานุภาพของบุคคลหนึ่งที่เขาประทับใจมาก คือ คุณบรรจง เปรี้ยววงศ์ เป็นชาวบ้านคำหมากอ่อน บ้านอยู่ใกล้กับโรงเรียนที่ อ.วีระสอนอยู่ และชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ส่วนมากก็มาวัดพระธรรมกายกับ อ.วีระบ่อยๆ ส่วนคุณบรรจง เปรี้ยววงศ์ ไม่เคยมาร่วมงานบุญเลย ถึงแม้ อ.วีระจะชวนแทบทุกครั้งที่มาร่วมงานบุญใหญ่ เธอก็อ้างเหตุผลต่างๆ อยู่เรื่อยๆ เพราะตัวเธอเองชอบดื่มแล้วชอบเล่นการพนัน เพราะอยู่ในชุมชนที่ชอบดื่ม ชอบเล่นการพนัน แต่ อ.วีระก็ไม่ย่อท้อในการชักชวน จนมาถึงงานบวชอุบาสกแก้วเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ที่ผ่านมา เธอจึงยอมมาร่วมงานตามคำเชิญชวนของ อ.วีระ และได้รับพระมหาสิริราชธาตุพิชิตมาร


ต่อมาเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ คุณบรรจงประสบอุบัติเหตุขณะนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ที่ลูกชายเป็นคนขับ เนื่องจากโซ่ของรถขาดกระทันหัน ทำให้ตัวของเธอลอยข้ามรถไป แล้วตกลงมากระแทกกับพื้นถนน เพื่อนบ้านต่างพากันมาช่วยเหลือจับลุกนั่งก็คอพับ ไม่มีสติ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันหามไป "ดอย" ไว้ที่วัด เพื่อบำเพ็ญกุศล (ดอยคือการเอาศพนอนหันศีรษะไปทางทิศตะวันตกแล้วเอาผ้าคลุมศพ)

 
  อาจารย์วีระ ชินทะวัน
ผู้เป็นกัลยาณมิตรให้กับคุณบรรจง
   

เมื่อญาติพี่น้องมารวมกันแล้ว เกิดความสงสัยว่าอาจจะยังไม่ตาย จึงตกลงกันหารถไปส่งโรงพยาบาล ที่ อ.พิบูลมังสาหาร หมอก็ถามว่า ได้ทำประกันชีวิตไหม ญาติก็บอกว่าไม่ได้ทำ เพราะยากจน หมอก็ทำแผลให้ (เย็บ) ส่วนที่แตกตามศีรษะและใบหน้าที่บวมเป่ง และก็ไม่ได้ทำอะไรให้อีก ทั้งให้นำร่างที่ไร้สติกลับบ้าน เมื่อกลับถึงบ้าน ญาติก็ยิ่งมีความกังวลมาก เพราะตัวเย็นลงมาก จึงปรึกษากันว่าจะนำส่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด แต่ก็มีผู้ค้านว่าไปโรงพยาบาลเขาไม่ให้ญาติเข้าไปดูแล หรือบางทีอาจจะไม่ถึงโรงพยาบาลอาจตายระหว่างทาง ถ้าจะตายก็ให้ตายอยู่ที่บ้าน ให้ญาติพี่น้องได้เห็นหน้าจึงงดการนำส่งโรงพยาบาลใหญ่ จึงได้นำร่างที่กำลังเย็นลงๆ ไปเผาไฟ ในขณะนั้นเอง คุณห่ม ชอบดี ผู้นำบุญในหมู่บ้านได้ยินข่าว ก็ได้มาเยี่ยม จึงได้ถามหาพระมหาสิริราชธาตุพิชิตมาร ของคุณบรรจง ที่ได้รับมาว่า ไม่ได้ติดตัวอยู่หรือ ญาติบอกว่าเธอเอาไว้ที่ห้องพระ ถ้าเอาติดตัวกลัวหาย คุณห่มก็ให้นำพระมาอธิษฐานจิต แล้วเอาไปใส่มือคุณบรรจง ซึ่งยังไม่มีรู้สึกตัวจึงช่วยกำมือเธอให้กำพระไว้ ในขณะนั้นเองมือของคุณบรรจง กำพระแน่นขึ้นเองได้ ทุกสายตาที่จ้องมองอยู่ ต่างแทบจะไม่หายใจ อะไรกันนี่ คนที่ไร้สติอยู่นานเกิือบครึ่งวันแล้วเมื่อนำพระมาใส่มือ กลับกำพระจนแน่น


คุณห่ม ชอบดี มีความมั่นใจว่าเพราะอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ จึงมีอาการอย่างนี้ นึกได้ดังนี้จึงรีบไปนำน้ำมนต์ที่ตัวเองทำไว้แล้วที่บ้าน โดยการนำพระแช่น้ำและสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุทุกวัน นำมากรอกปากให้คุณบรรจง และนำน้ำมนต์ไปลูบทาตามใบหน้า โดยเฉพาะหน้าผากที่ปูด บวมเป่ง ไปทั้งใบหน้า ทุกคนต่างเข้าใจว่าตายไปแล้ว ต่างคนต่างจ้อง ต่างคนต่างมองดูทุกอิริยาบท ที่คุณห่มพยาบาลคุณบรรจง อย่างไม่ลดละจากสายตาญาติพี่น้องและชาวบ้านที่มามุงดู จนแน่นลานบ้าน พวกที่กำลังดื่มเหล้า ส่งเสียงเอะอะกันอยู่ก็เงียบ เมื่อได้ยินเสียงคนที่มามุงดู ส่งเสียงอุทานออกมาพร้อมๆ กัน เพราะภาพที่เห็นส่วนที่นูน เป่ง ค่อยๆ แฟบลงๆ ตามที่คุณห่ม ลูบคลำ และแล้วคุณบรรจงก็เริ่มขยับมือเท้าได้ และลืมตาขึ้น ทุกคนก็โล่งใจเมื่อคุณบรรจงพูดขึ้นว่า ซอยข่อยแน ซอยข่อยแน (ช่วยฉันด้วย)

วันที่สองหลังจากที่คุณบรรจงฟื้นแล้ว คุณห่มก็ได้ไปเล่าเหตุการณ์ให้ อ.วีระฟังที่โรงเรียน อ.วีระจึงได้ไปดูอาการ เธอดีใจมาก และพูดว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ต่อไปจะตั้งใจปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม เลิกดื่มเหล้า เลิกเล่นการพนัน และจะไปร่วมงานบุญใหญ่ทุกครั้ง เมื่องานวันมาฆบูชาที่ผ่านมานี้ คุณบรรจงก็ได้มาร่วมงานด้วย และจะแขวนพระมหาสิริราชธาตุติดตัวตลอด เพราะมีความเชื่อมั่นว่า หน้าบวมก็หาย ตายแล้วฟื้น ตื่นขึ้นมาเพราะอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุพิชิตมาร

อันที่จริง ตามที่เล่ามา กว่าจะให้คนเจ็บกำพระมหาสิริราชธาตุได้นั้น คนเจ็บหมดสติมาเกือบครึ่งวันแล้ว จนตัวเย็นลงทุกที เป็นใครก็ต้องคิดว่าตายแน่นอน


แต่ด้วยอานุภาพของพระรัตนตรัย ความเลื่อมใสศรัทธาของคุณห่ม ชอบดี มีพลังของเมตตาจิตอันเปี่ยมล้น ทั้งกระแสพลังของเนื้อธาตุองค์พระ เทพยดาที่รักษาองค์พระ ประกอบรวมกันเข้า ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทส่วนต่างๆ ในร่างกายคุณบรรจงเป็นอัศจรรย์ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่อย่างที่เจ้าตัวพูดจริงๆ


โชคดีที่รอดตายแล้วได้คิด เลิกทำตัวมั่วอบายมุขอย่างแต่ก่อน เป็นการตายจากนางบรรจง เปรี้ยววงศ์ ที่เป็นคนบาป มาเกิดใหม่เป็นนักบุญบรรจง เปรี้ยววงศ์ ต้องขออนุโมทนาบุญเป็นอย่างยิ่ง สำหรับท่านผู้อ่านที่นิยมเรื่องเหล้าเรื่องการพนัน อย่ารอให้เกิดอุบัติเหตุอย่างรายนี้แล้วจึงเลิก เพราะอาจไม่มีโอกาสฟื้น

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล