ทบทวนบุญ
เรื่อง : อัญชลี เรืองจิต

 

 

 

         รอคอยกันมานาน ตั้งแต่คุณครูไม่ใหญ่ได้แจ้งข่าวในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาว่าจะมีพิธีตักบาตรพระ ๑๐,๐๐๐ รูป ณ ทุ่งธารตะวัน จ.ลพบุรี ครั้งแรกของโลก เหล่าผู้มีบุญต่างรู้สึกดีใจที่จะได้เห็นภาพงานบุญใหญ่ ท่ามกลางทุ่งดอกทานตะวันบานสะพรั่ง เหลืองอร่ามงามสดใส สวยงามที่สุด ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงความฝัน แต่เกิดขึ้นจริงแล้วในวันนี้           

          บรรยากาศตั้งแต่ก่อนวันงาน เหล่าสาธุชนจาก ทั่วสารทิศต่างทยอยเดินทางมาที่ศูนย์อบรมเยาวชน ลพบุรีกันตลอดทั้งคืน ขบวนรถบัส และรถยนต์ ส่วนบุคคลนับร้อยนับพันคัน มุ่งสู่อำเภอโคกสำโรง เหมือนมีงานมหกรรม ทำให้ละแวกชุมชนที่เคย เงียบสงบ กลับคึกคักแจ่มใสอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร อปพร. และอาสาสมัคร ต้องทำหน้าที่กันอย่างหนัก ในการอำนวยความสะดวกให้กับรถทุกคันเข้าสู่พื้นที่ลานจอดอย่างทั่วถึง

          เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. เราจะมองเห็นป้าย รถจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ ไม่ว่าจะอยู่ไกลถึงเชียงใหม่ เชียงราย หรือแม้กระทั่งจังหวัดภูเก็ต สงขลา พัทลุง ฯลฯ ต่างทยอยเดินทางเข้าสู่พื้นที่เหมือนขบวนคาราวาน ทำให้ลานของศูนย์อบรม ที่ตอนนี้แม้จะขยายพื้นที่เพิ่มเติมนับพันไร่ แต่ก็ยัง ดูคับแคบลงไปถนัดตา เมื่อทุกพื้นที่เนืองแน่นไปด้วย เหล่าผู้มีบุญในชุดขาวมากมายจำนวนเรือนหมื่น

         ๐๔.๐๐ น. คณะสงฆ์จากจังหวัดต่างๆ ทยอย เข้าสู่พื้นที่ตักบาตร ไม่เพียงแต่พระสงฆ์ในจังหวัดลพบุรีและภาคกลางเท่านั้น แต่ยังมีพระสงฆ์จากภูมิภาคอื่นๆ อีกหลายจังหวัด เช่น จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา ฯลฯ ท่านก็เมตตาเดินทางมารับบาตร ในวันนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน ยังความปลาบปลื้มใจ ให้กับเหล่าสาธุชนเป็นอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าเป็นภาพบุญใหญ่ที่ลืมไม่ลง คงไม่ลืม ปลื้มไปทุกๆ ชาติกันเลยทีเดียว

 

 

         ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีกรรมตักบาตรในภาคเช้า ได้ มีการร้องเพลง "ทุ่งธารตะวัน" ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ เหล่าสาธุชน ต่างพร้อมใจกันโบกธงดอกทานตะวันสีเหลืองสดใสสะบัดพลิ้วไปทั่วพื้นที่อย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เห็นแต่รอยยิ้มเปี่ยมสุขของคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็กเล็กไปจนถึงวัยคุณปู่คุณย่า นับเป็นภาพที่งดงามน่าประทับใจจริงๆ

          ๐๖.๒๐ น. พิธีสวดสรรเสริญพระรัตนตรัยเป็น ทำนองสรภัญญะ เสียงบทสวดมนต์ที่ออกมาจากดวงใจ น้อมบูชาพระรัตนตรัยของคนหมู่มาก ทำให้บรรยากาศท่ามกลางลมหนาวในยามนี้ ศักดิ์สิทธิ์และสงบเย็น นิ่ง ดิ่งกลางใจ พร้อมกับแสงรุ่งอรุณของวันใหม่เริ่มฉายความสว่างไสวขึ้นทีละน้อย เผย ให้เห็นหมอกจางๆ ยามเช้า จนต้องหันไปมองดวงตะวันดวงกลมโตสีส้ม ที่ค่อยๆ โผล่พ้นขอบฟ้า ทางทิศตะวันออก เหล่าช่างภาพทั้งหลายต่างไม่ยอม พลาดโอกาสรัวกดชัตเตอร์เก็บภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึก

         เมื่อท่านประธานสงฆ์ คือ พระเดชพระคุณพระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย พระเถรานุเถระ และคณะพระสังฆาธิการ เดินทางมาถึงศูนย์กลางพิธี ประธานในพิธี คือ นายจารุพงศ์ พลเดช ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย

 

 

 

          ๐๖.๔๐ น. นายสถาพร ศิริภักดี ปลัดจังหวัดลพบุรี กล่าวต้อนรับผู้มาร่วมงาน ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของชาวเมืองลพบุรี เพราะวันนี้นับเป็น ภาพงานมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด และต้องจดจารึก ไว้ในบันทึกของเมืองเลยทีเดียว

          จากนั้น ดร.กฤษฎา จ่างใจมนต์ ผู้จัดการใหญ่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เนเจอร์กิฟ ประธานคณะกรรมการ จัดงาน กล่าวรายงานต่อท่านประธานในพิธี คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายจารุพงศ์ พลเดช กล่าวเปิดงาน

          ต่อด้วยพิธีถวายภัตตาหาร จตุปัจจัยไทยธรรม เป็นสังฆทานแด่คณะสงฆ์ และพิธีกล่าวคำอธิษฐานจิต ซึ่งในครั้งนี้หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ให้เกียรติมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารปืนใหญ่ ผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษที่ ๑ ผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรลพบุรี ปลัดจังหวัด นายอำเภอ และผู้อำนวยการ เขตพื้นที่การศึกษาต่างๆ ร่วมกับภาคเอกชนจำนวนมาก

          หลังจากที่ประธานสงฆ์ได้กล่าวสัมโมทนียกถา และให้พรแล้ว คณะสงฆ์แปรแถวรับบาตร ซึ่งเป็นเวลาที่ทุกคนตั้งตารอคอย คณะสงฆ์จำนวนเรือนหมื่น ก้าวเดินด้วยอาการสงบ สำรวมน่าเลื่อมใส สง่างาม ดังกองทัพธรรมที่พร้อมย่ำธรรมเภรีไปทุกแห่งหน โดยมีธงชัยพระอรหันต์โบกสะบัด ภาพจีวรเหลืองเรืองรองไปทั่วทั้งลานบุญ ตัดกับสีเหลืองสดใสของทุ่งดอกทานตะวัน ที่บานสะพรั่งอยู่รายรอบ พร้อมกับ รอยยิ้มอิ่มบุญของเหล่าสาธุชนที่น้อมถวายภัตตาหาร ด้วยความเคารพ ปีติเบิกบานใจในมหาทานบารมีที่เกิดขึ้นได้โดยยาก คือความทรงจำอันงดงามที่ถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องที่ดีที่สุดในโลก นั่นคือดวงใจของเราที่ศูนย์กลางกายนั่นเอง

 

 

          หลังจากเสร็จสิ้นพิธีตักบาตรเหล่าสาธุชนต่างทยอยเดินกลับออกมาทางด้านหน้า ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมจุดต้อนรับบริการต่างๆ อาทิ จุดรับบริจาค จุดพยาบาล ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีเต็นท์กิจกรรมมากมายเรียงรายนับสิบหลัง ไม่ว่าจะเป็นมุมเล่นเกมชิงรางวัล มุมถ่ายภาพ ของที่ระลึกสวยๆ และสื่อธรรมะดีๆ อาหาร และขนมผลไม้มากมาย สลับกับเสียงเชียร์เสียงชมร่าเริงแจ่มใส เหมือนเป็นควันหลงของเหล่า V-ไกด์ V-เก๋า V-เก๋ ที่สนุกสนาน บุญบันเทิงกันมากทีเดียว โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ดูจะตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ แฟชั่นยอดฮิตวันนี้คือหมวกปักดอกทานตะวันดอกใหญ่ ออกแบบสีและลวดลาย น่ารักเก๋ไก๋ ที่ใครใส่แล้วมองเห็นเด่นแต่ไกล ทำให้บรรยากาศเหมือนเป็นตลาดนัดบุญกุศล ที่จำลองมาไว้ที่นี่ ซึ่งนานๆ จะมีสักครั้งหนึ่ง

          ภาคสาย เป็นพิธีมุทิตาสักการะเจ้าคณะจังหวัด ลพบุรี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี พิธีเจริญพุทธมนต์ และพิธีถวายสังฆทานแด่พระราชาคณะ ๑๒๐ รูป ณ ธรรมสภา ซึ่งได้รับความเมตตาอย่างสูงจากท่านประธานสงฆ์ คือ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ นำคณะพระเถรานุเถระมาเป็นเนื้อนาบุญ อันประเสริฐแก่ญาติโยมในวันนี้

          ๐๙.๓๐ น. ริ้วขบวนอัญเชิญตราตั้งสมณศักดิ์ พัดยศ เคลื่อนเข้าสู่ศูนย์กลางพิธี นับเป็นความยิ่งใหญ่ สง่างามสมกับการเชิดชูเกียรติสังฆบดีคู่แผ่นดิน ซึ่งเป็นเครื่องสักการะที่สะท้อนถึงคุณความดีของท่าน ให้ชาวโลกทั้งหลายได้ร่วมอนุโมทนา บรรยากาศแห่ง การยกย่องสรรเสริญอันน่าปลื้มใจ ทำให้เราตระหนัก ถึงคุณค่าอันสูงส่งของผ้ากาสาวพัสตร์ ท่านคือผู้นำแห่งศีลธรรมที่ช่วยชี้หนทางธรรมอันสว่างไสวให้กับชีวิต

         จากนั้น พระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี และพระเดชพระคุณพระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ถวายธูปเทียนแพ กรวยสักการะแด่พระเดชพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานสงฆ์มอบของที่ระลึกแด่เจ้าภาพ คณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ซึ่งประธานสงฆ์ในการเจริญพระพุทธมนต์ คือ พระเดช พระคุณพระธรรมปิฎก เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี

 

 

          จากนั้น คณะเจ้าภาพแปรแถวถวายจตุปัจจัย ไทยธรรมแด่พระราชาคณะ ๑๒๐ รูป ซึ่งนับเป็นภาพ มหากุศลที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง ลองคิดดูเถิดว่าโอกาสที่พระราชาคณะจำนวน ๑๒๐ รูป มารวมกันในคราว เดียวนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย ต้องถือว่าเป็นความโชคดีเฉพาะผู้มีบุญจริงๆ ตอนนี้เรามีไทยธรรม อยู่ในมือ มีจิตศรัทธาเลื่อมใสอยู่ในใจ แล้วยังมีเนื้อนาบุญอันเลิศอยู่ตรงหน้า พระพุทธองค์ตรัสว่า ให้พึงทำทานในเวลานั้นทันทีจะมีอานิสงส์มากหนักหนา เพราะถึงพร้อมด้วยองค์ประกอบของการ ทำบุญใหญ่ ๓ ประการ ที่จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง ไปไม่ได้เลย

          ภาคบ่าย เป็นพิธีทอดผ้าป่าสร้างธรรมสภาส่วนขยาย ซึ่งเป็นรายการสู้ต่อไปสัญจร เปิดใจ ผู้ถวายที่ดินสร้างบุญสถานแห่งนี้ คือ กัลฯ ดร.กฤษฎา จ่างใจมนต์ พูดถึงเรื่องน่าอัศจรรย์ที่คนพันธุ์ตะวันเท่านั้นที่ทำได้ และยอดกัลยาณมิตรคนสำคัญ ของชาวจังหวัดลพบุรี กัลฯ ศุภชัย ศรีศุภอักษร ผู้ใหญ่ใจดีของพี่น้องกัลยาณมิตร ร่วมเล่าประสบการณ์ อันน่าประทับใจที่ผืนดินแห่งนี้

          จากนั้นเป็นช่วงสำคัญ และพิเศษสุดๆ เมื่อเรา ได้ฟังเรื่องเล่าจากบุคคลต้นวิชชารุ่น "มะละกอดอง เต้าหู้ยี้" ที่ฟังแค่ชื่อเรื่องแล้วชวนให้สงสัยว่ามี ความเป็นมาสำคัญอย่างไร รับรองว่าหาฟังเรื่องราว ดีๆ แบบนี้ไม่ได้ที่ไหน

          พระเถระผู้เป็นศิษยานุศิษย์ของพระเดชพระคุณ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ได้ถ่ายทอดข้อคิดและธรรมะดีๆ ให้ พวกเราได้ฟังอย่างน่าประทับใจแล้ว ในครั้งนี้แม้ว่า พระเดชพระคุณพระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ท่านจะติดภารกิจในช่วงเย็นต้องเดินทางไปจังหวัดนครนายก แต่ท่านบอกว่าจะเดินทางกลับมา ให้ทันร่วมพิธีลอยโคมภาคค่ำอย่างแน่นอน ทำให้พวกเราฟังแล้วรู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของท่านมากเหลือเกิน เพราะการเดินทางไปกลับต่างจังหวัด หลายชั่วโมงสำหรับพระเถระพรรษามากอย่าง หลวงพ่อไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย นับเป็นเรื่องเหนื่อยเอาการเลยทีเดียว แต่กระนั้นท่านก็ยังมีเมตตาต่อ พวกเราอย่างมาก เพิ่มพูนความศรัทธาเลื่อมใสเป็น ทวีคูณ

           ๑๙.๐๐ น. ภาคค่ำ เป็นพิธีปล่อยโคมลอยฟ้าถวายเป็นพุทธบูชา ทิวทัศน์ยามเย็นที่สามารถมองได้ ๓๖๐ องศาของทุ่งทานตะวันเวลานี้งดงามไม่แพ้ใคร ศูนย์กลางพิธีเบื้องหน้า พระธรรมกายสีทององค์ใหญ่ ตั้งตระหง่านเด่นสง่า เบื้องหลังเป็นทิวเขาเขียวขจีทอดยาวในหมอกบางตา ดวงอาทิตย์สีส้มที่ดูเหมือน จะมีขนาดโตกว่าตอนเช้าเล็กน้อย ค่อยๆ ลับเหลี่ยม ทิวเขาเหมือนภาพสโลว์โมชั่น ตัดกับสีเข้มของท้องฟ้า ที่มองเห็นดาวพระศุกร์และดาวพฤหัสเปล่งประกาย ระยิบระยับอยู่สองดวง เหล่าสาธุชนเริ่มทยอยเข้าพื้นที่นั่งกันมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับโคมลอยฟ้ารูปดอกทานตะวัน ที่จัดทำขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

 

 

          เมื่อท่านประธานสงฆ์ คือ พระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี นำนั่งสมาธิกลั่นใจให้ใส เพื่อน้อมดวงประทีปถวายเป็นพุทธบูชา และนำอธิษฐานจิตปล่อยโคม พื้นที่ลานบุญเริ่มสว่างด้วยแสงไฟจาก โคมประทีปทีละดวงสองดวง จนกระทั่ง เต็มลานสว่างไสว เมื่อได้สัญญาณปล่อยโคมลอยฟ้า พร้อมกัน เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องพร้อมกับเสียงอุทานอย่างร่าเริงเบิกบานดังไปทั่วบริเวณ ท้องฟ้ายามนี้เหมือนมีหมู่ดาวนับพัน เหินลอยเป็นสายยาว เหมือนเส้นทางช้างเผือก ส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับงดงามจับตา เชื่อว่า ชาวบ้านละแวกนี้แทบทุกครัวเรือน คงออกมายืนดูปรากฏการณ์บนท้องฟ้า ด้วยความตื่นตาตื่นใจ นับเป็นภาพความประทับใจส่งท้ายปีจริงๆ

           งานบุญในวันนี้จบลงด้วยความประทับใจมิรู้ลืม พวกเราเดินไปยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกทานตะวันรายรอบ แหงนหน้ามองดูโคมดาวลอยไปไกลสุดสายตา จนเป็นเหมือนจุดสว่างเล็กๆ บนท้องฟ้ายามราตรี

           เหลียวเห็นดอกทานตะวันดอกใหญ่ดอกหนึ่ง ใกล้ๆ ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในใจ เราเคยเห็น ดอกไม้ต่างๆ มากมายหลายชนิด ล้วนมีกลิ่น สีสัน และความสวยงามแตกต่างกันไป แต่ดอกทานตะวัน ไม่เหมือนดอกไม้ชนิดไหนที่เราเคยรู้จัก มีเอกลักษณ์ คือความสวย สง่า ลำต้นมั่นคงเป็นธรรมชาติ สู้แดด ไม่เคยหนี ไม่เคยเฉา ชอบที่จะหันตามดวงอาทิตย์ตลอดวัน ไม่ว่าลำแสงจะทอดยาวไปทางไหน

          เปรียบเสมือนยอดนักสร้างบารมีที่ไม่กลัวความยากลำบาก กล้าสู้ กล้าผจญภัยกับความเหนื่อยยาก เพื่อบรรลุเป้าหมายของชีวิต โดยมีดวงตะวันธรรม บนท้องฟ้าเป็นเข็มทิศนำทาง ไม่ว่าแสงตะวันธรรมจะนำทางเราไปทิศไหน เราจะก้าวตามแสงสว่างนั้น ไปอย่างไม่มีข้อแม้หรือเงื่อนไข เพราะลำแสงสว่าง คือพลังชีวิตอันมหาศาลให้มวลหมู่ดอกไม้ทั้งหลาย ยังคงความงดงามเฉิดฉัน นำสันติสุขสู่มหาชนตลอดไป