ทำไมมีคนต่อต้านวัดพระธรรมกายเยอะจัง..?

วันที่ 08 เมย. พ.ศ.2559

 

ทำไมมีคนต่อต้านวัดพระธรรมกายเยอะจัง..?

 

คนต่อต้านวัดพระธรรมกาย  กลุ่มนี้มาจากไหน????
เผยความจริง...ให้สังคมรับรู้...
หลายคนคงสงสัยว่า..
ทำไมมีคนต่อต้านวัดพระธรรมกายเยอะจัง..?

ธรรมกาย...ณ วันนี้ ยังมีกลุ่มคนต่อต้านกันอย่างต่อเนื่อง
แต่ดูเหมือนจะยิ่งตี ก็ยิ่งดัง ยิ่งดัง ก็ยิ่งโต
ธรรมกาย มีอะไรดี เอาไว้ติดตามตอนต่อไป

                 ตอนนี้เราลองมาวิเคราะห์กันดูว่า กลุ่มคนพวกที่ต่อต้านธรรมกาย มีใครบ้างซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ เมื่ออ่านจบแล้ว ก็อย่าเพิ่งเชื่อ แต่เอาไปคิดต่อ ยอด และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ด้วยตัวเองกันดูนะ จากประสบการณ์ที่ได้ศึกษาเรียนรู้และเก็บรวบรวมมาเป็นเวลานานหลายปี พอที่จะแยกแยะกลุ่มคนที่ต่อต้านธรรมกาย ออกเป็นกลุ่มเป็นพวกได้ดังต่อไปนี้

                 1. พวกผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย ส่วนว่าจะมีใครบ้างคงไม่ต้องเอ่ยชื่อหรอกนะ ความลับมันไม่มีในโลก ถึงจุดหนึ่งทุกคนก็จะรู้เอง แต่ที่บอกได้ตอนนี้คือ พวกเขาเป็นคนขี้ระแวง กลัวว่า ธรรมกาย จะเป็นใหญ่และมีอำนาจมากเกินไป กลัวจะควบคุมไม่ได้ กลัวจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ โอ้ววว!!!ไปกันใหญ่แล้ว ถึงกับต้องสั่งให้...ใ....ค....ร...ๆ....จัดการทุกวิถีทาง ถ้าเอาตายได้ก็เอา ถ้าเอาตายไม่ได้ก็ให้จับสึก เพื่อขจัดความกลัวออกไปจากใจของตัวเอง อยากจะบอกว่า ทำอย่างนั้นมีแต่เหนื่อยเปล่า แถมตัดรอนบุญบารมีของตัวเองไปอย่างน่าเสียดาย สู้หันหน้ามาจับมือแล้วไปด้วยกันจะดีกว่าไหม  ประเทศชาติจะได้มั่นคง คงมั่นด้วยศีลธรรมความดี

               2. พวกต่างศาสนา โดยเฉพาะพวกแกนนำหัวรุนแรง คนส่วนใหญ่เขาก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีแต่พวกที่พยายามจะกลืนกินประเทศไทยนี่แหล่ะที่คอยสร้างปัญหาความวุ่นวายอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน จะกินปลาทั้งตัวก็ต้องเลาะก้างออกก่อน เขาคงเห็นว่า ธรรมกาย เป็น....ก้างชิ้นใหญ่...ล่ะมั๊ง จึงพยายามเลาะไปหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังเลาะไม่ออกซะที อยากจะแนะนำว่าวิธีการเผยแผ่รูปแบบเก่าๆ ที่อาศัยการทำลายศรัทธาของศาสนาอื่นให้อ่อนแอ แล้วใช้กำลังเข้ายึดพื้นที่ มันใช้ไม่ได้แล้วกับยุคปัจจุบัน สู้กลับไปหาวิธีเผยแผ่ที่มันสร้างสรรมากกว่านี้ไม่ดีกว่าหรือ เพราะยุคหน้าจะเป็นยุคของปัญญาชน คนมีปัญญาที่เกิดจากใจสงบนิ่ง

                3. พวกนักวิชาการ(เกิน) ธรรมกาย ถือกำเนิดและเติบโตมาด้วยการปฏิบัติธรรม นับตั้งแต่ก่อตั้งวัดเรื่อยมาก็เน้นการปฏิบัติธรรมมาโดยตลอด เพิ่งจะมาเน้นการเรียนการสอนด้านปริยัติหรือวิชาการก็ตอนที่โดนพวกนักวิชาการโจมตีนี่แหล่ะ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณพวกเขานะ เพราะมีพวกเขามากระตุ้น จึงมีการเปิดโรงเรียนปริยัติธรรม ทำให้พระเณรมีความรู้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้วัดพระธรรมกายได้รับการยอมรับที่กว้างขวางขึ้นจากคณะสงฆ์ทั้งแผ่นดิน แถมยังมีพัฒนาการการเติบโตขึ้นไปตามลำดับอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

                4. พวกรับจ้าง พวกนี้ไม่รู้ว่ารับเงินมาจากไหน แต่ถ้าเดาไม่ผิด น่าจะรับมาจากพวกที่หนึ่งและพวกที่สองนะ พวกนี้ดูไม่ยากหรอก คือเขาจะโจมตีอย่างเดียว ข้อมูลเท็จจริงหรือไม่ พวกเขาไม่สนใจ ขอให้มีผลงานเป็นอันใช้ได้ บางคนรับเงินไปแล้ว แต่ไม่มีผลงาน ก็เลยโดนเล่นงานเสียเอง พวกนี้มีทั้งตัวบุคคลและสื่อประเภทต่างๆเข้าใจนะว่าพวกเขาทำเพื่อปากท้องของตัวเอง แต่น่าเสียดาย เพราะสิ่งที่เขาทำมันเป็นบาปอย่างมาก เงินที่ได้มาก็เป็นเงินร้อน หาความสงบสุขในชีวิตได้ยาก 

               5. พวกเสียผลประโยชน์ โครงการหลายๆ อย่างที่ธรรมกายจัด มีผลในวงกว้าง บางทีก็ทำให้มีกลุ่มคนบางพวกที่เสียผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น โครงการเทเหล้าเผาบุหรี่ เป็นต้น แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทที่ขายเหล้าขายบุหรี่ทั้งหลาย บางบริษัทแค้นฝังลึกในระดับที่ต้องการชำระกันเลยทีเดียว อันนี้ก็พูดกันยาก เพราะโครงการที่ธรรมกายจัดมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนคือ เพื่อฟื้นฟูศีลธรรมในสังคม สิ่งใดที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการฟื้นฟูศีลธรรมจะให้ทำอย่างไรล่ะ ถ้าไม่ชน

                   6. พวกอกหัก พวกนี้อดีตเคยเป็นคนในวัด แต่มีความมักใหญ่ใฝ่สูง อยากเด่นอยากดัง อยากได้โน่นนี่นั่น หลังจากใช้ความพยายามทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจแรงสติปัญญาอย่างเต็มที่แล้วไม่ได้ตามที่หวัง ก็ต้องผิดหวัง เมื่อผิดหวังก็ผิดใจ เมื่อผิดใจก็เลยพยาบาท จึงตัดสินใจออกจากวัดไป แล้วกลับมาชำระแค้นด้วยวิธีการต่างๆ นานา

              7. พวกแบ่งสีเพื่อหวังผลทางการเมือง เทคนิกง่ายนิดเดียว แค่ป้ายสีแดงให้ธรรมกาย ก็ทำให้พวกสีเหลืองทั้งหลายระคายเคืองใจได้แล้ว ความจริงที่คนวัดรู้กันคือ ธรรมกายสีขาว ไม่ว่าสีเหลืองหรือสีแดง เมื่อเข้าวัดมาปฏิบัติธรรมบำเพ็ญบุญ ก็ต้องเปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งหมด ความจริงก็เป็นอย่างนั้น วัดเป็นของสาธารณะ ใครจะเข้าก็ได้ ยินดีต้อนรับทั้งนั้น อย่าพยายามยัดเยียดให้วัดต้องเลือกข้างอีกเลยนะ มันลำบากใจ

              8. พวกหูเบา  พวกนี้เชื่อคนง่าย ตามกระแสไปเรื่อย เขาว่าอย่างไรก็เชื่อตามนั้น โดยที่ไม่ได้มาพิสูจน์ให้แน่ชัดเสียก่อน เพราะมัวแต่นั่งอยู่หน้าจอ ส่วนใหญ่เขาจะเรียกพวกนี้ว่านักเลงคีบอร์ด อย่างไรก็ตาม เมื่อคนกลุ่มนี้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง หรือมีกระแสที่ดีๆ เกิดขึ้นมากๆ พวกเขาก็พร้อมที่จะตามแสดีๆ ไปได้เช่นกัน

             9. พวกที่ไม่เข้าใจจริงๆ พวกนี้บางคนก็เคยเข้ามาที่วัดแล้ว เมื่อพวกเขาเห็นการก่อสร้างใหญ่โต เห็นพิธีกรรมที่อลังการ ก็อาจจะรับไม่ได้ คือไม่คุ้นเคยน่ะ คิดว่าจะสร้างใหญ่ไปทำไม แต่พวกเขาก็ไม่ถึงกับต่อต้านหรอกนะ ถ้าได้รับการอธิบายดีๆ ก็อาจจะเข้าใจได้ง่าย จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนจะต้องช่วยกันอธิบายดีๆ ถ้าเจอคนประเภทนี้นะ

                ยุคสมัยนี้มันไม่เหมือนกับเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ที่ใครจะใส่ร้ายป้ายสีวัดอย่างไรก็ได้ เพราะยุคนี้ข้อมูลข่าวสารมันถึงกันเร็วยิ่งกว่าจรวด ถ้าเอาเรื่องไม่จริงไปลง กลัวจะเสียชื่อเสียงเอาได้ง่ายๆ

              โดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์หรือทีวีช่องต่างๆ เห็นเงิบกันมาหลายครั้งแล้ว เพราะข้อมูลที่แท้จริงมันก็จะไปถึงประชาชนได้เร็วและกว้างไกลเช่นกัน ดังนั้นจะทำอะไรให้ระวังกันมากๆ นะ เดี๋ยวจะเสียภาพลักษณ์ดีๆ ที่อุตส่าห์สร้างมาตั้งนาน 

               ขอเน้นย้ำว่า วัดพระธรรมกายตั้งใจเผยแผ่ธรรมะอย่างจริงจัง เพื่อมุ่งหวังฟื้นฟูศีลธรรมโลกให้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง ไม่ได้ต้องการสิ่งอื่นใดนอกจากนี้ ขอให้ทุกคนลองเปิดใจแล้วเข้ามาศึกษาดู เมื่อรู้ความจริงแล้ว ก็มาจับมือแล้วทำงานสร้างบารมีร่วมกัน 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.027764717737834 Mins