วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ ทุกคําสอนของคุณยาย ล้วนเป็นปฏิปทาที่ท่านสั่งสม

CV_4604_08.jpg“ทุกคําสอนของคุณยาย ล้วนเป็นปฏิปทาที่ท่านสั่งสม"
โดย พระอนุชา อคฺคจิตฺโต


                ถ้าจะพูดถึงคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงของเราอาตมาอยาก จะใช้คำๆ หนึ่งก็คือว่า คุณยายของเราเป็นครูที่ยิ่งกว่าครูทั้งหลาย คำสอนทั้งหลายที่คุณยายสอนนั่นคือสิ่งที่ท่านทำได้ แล้วท่านไม่ใช่ว่าทำได้แค่ประเดี๋ยวประด๋าว แต่ท่านทำได้ตลอดชีวิตของท่านทีเดียว และสิ่งที่ท่านสอนเรานั้น ถ้าใครก็ตาม ตั้งใจฟังและนำมาประพฤติปฏิบัติ ชีวิตของบุคคลนั้นจะได้รับความสุข ความเจริญก้าวหน้า ทั้งในปัจจุบันนี้ แล้วก็ติดตัวข้ามชาติไป ทำให้ไปสู่สวรรค์และนิพพานได้

 

                นี่จึงถือว่าคุณยายท่านเป็นครูที่ยิ่งกว่าครูทั้งหลาย

                วันนี้อาตมาจะขอนำคำสอนของคุณยาย ซึ่งทุกๆ คำสอนนั้นก็คือ ปฏิปทาที่คุณยายได้ประพฤติปฏิบัติ เป็นชีวิตจิตใจของท่านทีเดียว

 

 

CV_4604_10.jpg


                   คำสอนประการที่ ๑

                คุณยายของเราท่านแนะนำไว้ว่า เวลาที่มีปัญหา มีทุกข์เกิดขึ้นในชีวิต ท่านบอกว่าเวลามีทุกข์ให้สวดมนต์เยอะๆ นั่งสมาธิ นั่งภาวนา สัมมา อะระหัง มากๆ ท่านบอกไม่มีใครช่วยเราได้เท่ากับตัวของเราเอง การสวดมนต์มีความสําคัญมาก ชีวิตของอาตมาในช่วงที่มาวัด เป็นนักศึกษา เป็นฆราวาส ก่อนบวชเข้าใจชีวิตของคนทางโลกในระดับหนึ่ง บางวันเราไปเจออะไรสารพัดเลย ที่กระทบกระเทือนใจของเรา ทําให้เราดีใจ ให้เราเสียใจ ให้เราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

 

                กลับมาบ้าน มึนๆ ตึงๆ ไม่มีความสบายเลย นั่งสมาธิหลับตาก็นั่งไม่ลง เพราะอะไรใจมันหยาบมันกระด้าง มันแข็งกระด้าง ไม่อ่อนโยน

 

                แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่อาตมาทําเป็นประจําก็คือ สวดมนต์ทำวัตรเย็น พอสวดมนต์ทำวัตรสังเกตได้เลย เราค่อยๆ ผ่อนคลาย ทั้งกายและใจมีความรู้สึกสบาย ใจละเอียดอ่อน นุ่มนวลขึ้นแล้วทําให้นั่งสมาธิได้ ใจสอดเข้าไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ได้ นี้คือสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งของนักปฏิบัติธรรม วันไหนก็ตามเราตึงๆ เครียดๆ มา เราสวดมนต์จะทําให้ใจเราผ่อนคลาย ร่างกายสบาย แล้วเราจะนั่งสมาธิ เอาใจสอดเข้าศูนย์กลางกาย จิตเราก็จะสงบได้อย่างง่ายๆ นี่คือโอวาทคำสอนของคุณยาย 

 


                   คําสอนประการที่ ๒

                ท่านบอกว่า การมาวัดวันหนึ่งก็ได้บุญไปช่วงหนึ่ง ถ้าไม่มาก็ไม่ได้ ถ้ามาแล้วก็ได้บุญ บุญจะสะสมทับทวี เหมือนกับเก็บออมสินเหมือนหยอดกระปุกนั่นเอง

 

                แล้วคนเรานี่ถ้าอยู่เฉยๆ เรากินบุญเก่าอย่างเดียว บุญหมดเมื่อไหร่ เราจะแย่เราจะลำบาก เพราะฉะนั้นเราต้องเติมบุญอยู่เสมอ การมาวัดเป็นประจําก็คือ การเติมบุญให้แก่ตัวเองเป็นประจํา ชีวิตจิตใจของคนๆ นั้นก็จะยิ่งดีขึ้นไปเรื่อยๆ หลายๆ ท่านก็คงจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะฉะนั้น เราควรจะมาวัดอยู่เป็นประจำแล้วบุญบารมีก็จะช่วยเสริม ให้ชีวิตเราดีขึ้นไปเรื่อยๆ

 


                   คำสอนประการที่ ๓

                คุณยายท่านบอกว่า ถึงแม้เราจะมีบารมีไม่เท่ากับคนอื่น แต่ถ้าเรามีความเพียร ทำอย่างสม่ำเสมอ ในที่สุดเราย่อมถึงเส้นชัยได้

                  คุณยายท่านบอกว่า ใครร่วมบุญกับยายจะมีสายบุญโยงกันไว้ แล้วจะเกิดไปพบกัน ไปเจอกันและจะได้ไปสร้างบุญบารมีร่วมกันอีก

 


                    คำสอนประการที่ ๔

                    ยายบอกว่า จะทำอะไรให้นึกถึงบุญ ให้อยู่ในบุญ เวลานั่งสมาธิ ก็อธิษฐานเอาบุญมาช่วย สิ่งนั้นจะสำเร็จได้ด้วยบุญ

 

                เวลาที่คุณยายสร้างวัด เวลาไปเล่าให้ใครฟัง โดยเฉพาะถ้าเป็นคนใหม่ๆ ก็คงไม่เข้าใจแต่ทุกท่านในที่นี้คงเข้าใจว่า คุณยายท่านหลับตาสร้างวัด หลับตาตามสมบัติ ตามผู้คนให้มาช่วยกันสร้างวัด ทำให้สร้างวัดสําเร็จ จนกระทั่งมาถึงพื้นที่ ๒,๐๐๐ ไร่ ท่านหลับตาสร้างทั้งสิ้นเลย หลับตาทำสมาธิ แล้วท่านก็นึกถึงบุญบารมี แล้วก็อธิษฐานให้สมบัติทั้งหลายที่สั่งสมมา สมบัติทั้งหลายในโลกนี้ ให้มาช่วยหล่อเลี้ยงหมู่คณะให้สร้างวัดได้สําเร็จ แล้วก็ตามคนดีๆ มา ให้มาช่วยกันสร้างวัดให้สําเร็จ ท่านทําอย่างนี้มาตลอดชีวิตเลย


                การหลับตาสร้างวัดของคุณยายนั้นก็คือ การน้อมใจกลับไปที่แหล่งของความสําเร็จ คือศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ แล้วก็น้อมนําบุญบารมีทั้งหลาย บุญบารมีของท่านเองก็ตาม บารมีของพระนิพพานก็ตามให้มาช่วย งานทั้งหลายจึงสำเร็จมาได้ด้วยดี นี่เป็นเรื่องของการอยู่ในบุญ แล้วก็ใช้บุญเป็น อธิษฐานในสิ่งที่เราปรารถนา เราก็จะได้สมความปรารถนานั้นๆ เพียงแต่ว่าจะได้ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง

 

                แล้วจะเร็วได้อย่างไร แล้วทําไมถึงช้าขึ้นอยู่กับบุญ จะทำให้บุญแรงก็ให้ทำทาน รักษาศีล แล้วก็ภาวนาให้หมั่นทำไป โดยเฉพาะการนั่งสมาธิภาวนาก็หมั่นนึกหมั่นตรึกขยันนั่ง จิตเราก็จะมีบุญหล่อเลี้ยงเต็มที่แล้วค่าอธิษฐานก็จะสำเร็จผลได้อย่างรวดเร็ว

 

                คุณยายบอกว่า ให้มีความเพียรในการนั่งธรรมะให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ตอนที่ยายยังไม่ได้ธรรมะ ยายจะเดิน จะนั่ง ยายก็นึกอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งได้เข้าถึงธรรม การเข้าถึงธรรมนี่แหละเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุด

 

                  ถามว่า วัดของเราเติบโตมาได้เพราะอะไร

                ถ้าคนที่มาวัดเป็นประจํา ปฏิบัติธรรมได้ผล จะเข้าใจคำถามนี้ รู้เลยว่าจะตอบอย่างไร วัดเราเติบโตมาได้เพราะการปฏิบัติธรรม การนั่งสมาธิสําคัญ เป็นแก่นของการเติบโตของวัด คนที่มีศรัทธาในคุณยาย ในพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ในหมู่คณะเรานี่ เพราะการนั่งสมาธิทั้งนั้นเลย หรือว่าจะบอกได้เลยว่าที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจริงๆ ทุ่มเทชีวิตจิตใจร่วมสร้างบารมีกับท่าน เพราะการนั่งสมาธิเป็นการให้คำตอบว่าบุญมีจริง

 

                เราจะเชื่อมั่นเลยว่าบุญมีจริง บารมีมีจริง เพราะเราปฏิบัติได้ผล สัมผัสกระแสบุญได้ด้วยตัวของเราเอง เราฟังหลวงพ่อ เราฟังคุณยายสอน เราก็เชื่อ แต่ความเชื่อมั่นที่เต็มร้อยเกิดขึ้นเมื่อเรานั่งสมาธิได้ผล สัมผัสกับประสบการณ์ภายในได้ นี่คือแก่นของวัดพระธรรมกาย

 

                ทาน ทําไหมทำ ทําหนักด้วย ทำอย่างยิ่งยวด ศีลรักษาไหม รักษาอย่างยิ่งยวดครูบาอาจารย์เรานั้นมีสมาธิที่สูงมาก และสามารถแนะนำให้ลูกศิษย์เข้าถึงสมาธิที่ลึกล้ำได้ เราจึงได้รับผลการปฏิบัติธรรมและเชื่อมั่นในเรื่องของบุญบารมี

 

                เพราะฉะนั้นอาตมาก็ขอน้อมนำโอวาทของคุณยาย ที่ท่านได้แนะนําพวกเราทั้งหลายไว้ ถ้าใครประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของคุณยายก็จะได้รับความสุข ความสําเร็จ ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต จิตใจก็จะมีบุญบารมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็จะมีโอกาสได้ติดตามสร้างบารมีไปกับท่าน ไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรมทีเดียว

        

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

บทความอยู่ในบุญทั้งหมด อยู่ในบุญ ฉบับที่ ๖ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๖

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล