วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ เผยเรื่องราวจากยันต์มหาเศรษฐี ของ คุณลีลาวดี วัชโรบล 

CV_4604_11.jpg

เผยเรื่องราวจากยันต์มหาเศรษฐี 
ของ คุณลีลาวดี วัชโรบล

      CV_4604__12.jpgการประสบความสําเร็จในชีวิตของเธอนั้น 

หลายคนถามว่าเกิดจากอะไร..??

ซึ่งในวันนี้  เราแอบพบว่าเพราะ

"เธอมียันต์" และ "ใช้ยันต์เป็น" !!


                หากสังเกตที่ด้านบนของประตูหน้าบ้านเราคงเคยเห็น รอยเจิมด้วยแป้ง เขียนเป็นยันต์ต่างๆ บ้างก็ลงอักขระด้วยอักษรขอม เพื่อให้ดูขลัง แต่ต่อมารุ่นหลังๆ จะเปลี่ยนมาเป็นอักษรไทย การเจิมลักษณะนี้ มักจะใช้ในพิธีทำบุญขึ้นบ้านใหม่มาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งต่อมาปู่ ย่า ตา ทวดของเรา เกรงว่าการเพิ่มด้วยแป้งลักษณะนี้ จะไม่คงทนถาวร ลบเลือนได้ง่าย จึงพัฒนา มาเป็นการให้เกจิอาจารย์ดัง ลงอักขระที่ผ้า ที่เราเรียกกันในปัจจุบันว่า ผ้ายันต์

        
                แต่การใช้ผ้า ก็ไม่ใช่สิ่งที่คงทนที่สุด จึงถูกพัฒนาต่อมาเป็นการลงอักขระบนแผ่นโลหะทอง เงิน หรือทองแดง แล้วก็ม้วนให้กลม หาเชือกมาร้อยกลายเป็นตะกรุด ถ้าเล็กหน่อย ก็สามารถนำมาห้อยคอได้ ซึ่งเชื่อว่า การทำแบบนี้จะนำความเป็นสิริมงคลมาสู่บ้าน สู่ครอบครัวและตัวผู้ห้อยเองว่า จะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยทํามาค้าขึ้น...


                ทีนี้... เราลองมาพิจารณา ถึงพื้นฐานความเชื่อนี้กันว่า มีความเป็นไปได้แค่ไหน กับการมีเพียงแค่ยันต์แปะหน้าบ้าน มีตะกรุดห้อยคอ แต่หากยังกินเหล้า เล่นไพ่ ประกอบมิจฉาชีพอยู่ จะยังคงความรวย ความเจริญอยู่ได้ไหม...??


                ซึ่งในวันนี้ เรื่องราวจากยันต์ กำลังจะถูกเปิดเผยขึ้น จากการที่เราได้นั่งพูดคุยกับ คุณลีลาวดี วัชโรบล ว่า หากเรามียันต์นี้แล้ว รู้ความหมายของอักษรที่เขียนไว้  แล้วทำตามคาถาในนั้น เราจะเป็นมหาเศรษฐีได้ แม้แต่ผู้ทําตามยังเป็นเด็กอยู่ก็ยังรวยได้


                  สิ่งนี้จึงกลายมาเป็นการพิสูจน์ให้เห็นในรายการดรุณเศรษฐี ที่ปัจจุบันออกอากาศทางโทรทัศน์ช่อง ๙ เวลา ๑๐.๒๗-๑๐.๓๐ น. ทุกวันอาทิตย์ 

 


                  ทําไมถึงเปลี่ยนจากการเล่นละคร มาทํารายการทางด้านเยาวชน
                  คือตั้งแต่เข้าวัด ลีได้มีโอกาสเข้าไปทํางานโครงการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา ทางด้านเด็กและเยาวชนหลายด้าน ซึ่งก็มีคนทักว่า ถ้าสนใจงานประเภทนี้ ทําไมไม่ไปทํางานด้านการเมือง ซึ่งตอนหลังเลยได้มีโอกาส เข้ามาอยู่ในส่วนงานของอนุกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชน กรรมาธิการการปกครองวุฒิสภา คือไปช่วยในส่วนของรองโฆษกและผู้ช่วยเลขาฯ ซึ่งลีก็ได้เสนอโครงการดรุณเศรษฐีเข้าไป เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เด็กห่างไกลจากยาเสพติด และที่สําคัญเป็นการปูพื้นฐานในการนําธรรมะไปใช้ในการประกอบอาชีพ เมื่อเด็กเหล่านั้นโตขึ้น ซึ่งก็เอาแนวคิดนี้มาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ต่อมาโครงการก็พัฒนากลายมาเป็น รายการดรุณเศรษฐีที่ออกอากาศในปัจจุบัน 

 


                  ทำไมต้องชื่อว่า ดรุณเศรษฐี
                  จริงๆ แล้วก็ได้คำนี้มาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อนะคะ คือ คนเราจะเป็นเศรษฐีได้ไม่ต้องรอจนแก่ เด็กๆ ก็เป็นเศรษฐีได้ ถ้าเด็กสามารถนําเอาหลักธรรมะมาใช้ ซึ่งโครงการนี้เอง ตั้งใจว่าจะเอาเข้ามาแก้ไขปัญหาสังคม ทางด้านการใช้เงินของเยาวชน เพราะในสังคมปัจจุบัน เด็กส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นผู้ขอเงินพ่อแม่ใช้ เพราะคิดว่าวัยเด็กไม่ใช่วัยที่จะต้องมานั่งทํางาน ดังนั้นในฐานะที่เขาเป็นผู้ใช้เงินอย่างเดียว จะทำให้เกิดภาวะไม่รู้คุณค่าของเงิน ไม่รู้จักใช้เงินตามความจําเป็น เพราะไม่รู้ว่าเงินกว่าจะหามาได้แต่ละบาทมันยาก ซึ่งในสภาพสังคมปัจจุบัน เด็กและวัยรุ่นเราจะมีค่านิยมในการมีของใช้แบรนด์เนม (Brand name) โทรศัพท์มือถือฯลฯ ทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็นถึงขนาดนั้นเลย และก็ขอเงินพ่อแม่ซื้อ แต่โครงการนี้จะทำให้เด็กรู้ว่า กว่าเขาจะได้เงินมา เขาต้องทำงานแลกนะ จะทำให้เขาเห็นค่าของเงินขึ้น แต่ก็เป็นงานที่ไม่หนักสำหรับเด็กเพราะทำกันเป็นทีม สนุก และได้รายได้ด้วย 

 

CV_4604_%2013.jpg
                    หลักธรรมที่ว่า... ที่จะทำให้เป็นเศรษฐีคืออะไร
                    คงเคยเห็นยันต์ที่เวลาขึ้นบ้านใหม่ พระท่านจะเจิมให้โดยมีตัวอักษร อุ อา ก ส ตรงกลางช่องสี่เหลี่ยม ซึ่งเขาเรียกกันว่า หัวใจเศรษฐี หรือ คาถาเศรษฐี ซึ่งถ้าใครปฏิบัติตามธรรมะหัวข้อนี้ได้ ก็จะเป็นเศรษฐีได้คือ

                     อุ = อุฏฐานสัมปทา หมายถึง การเป็นผู้ขยันในการหา ไม่เกียจคร้านด้วยสัมมาอาชีพ

                  อา = อารักขสัมปทา หมายถึง การเป็นผู้รู้จักเก็บ ซึ่งการเก็บทรัพย์ก็มี ๒ อย่างคือ การเก็บทรัพย์ไว้ใช้ในชาตินี้ และเก็บทรัพย์ไว้ใช้ในชาติต่อๆ ไป ซึ่งจะเก็บได้ก็ต้อง เปลี่ยนเป็นอริยทรัพย์ โดยการทำบุญทําทาน

                  ก = กัลยาณมิตตตา หมายถึง ต้องรู้จักเลือกคบมิตร คือ คบมิตรที่ดีไม่ปอกลอกไม่ชักนำเราไปในทางอบายมุข กินเหล้า เล่นพนันเที่ยวกลางคืน เพราะจะทำให้เราเก็บทรัพย์ไว้ไม่อยู่ และจะต้องเดือดร้อนเสียทรัพย์เพราะเพื่อนพวกนี้และ ที่สำคัญต้องสร้างเครือข่ายคนดี เพื่อให้แวดล้อมเรามีแต่มิตรที่ดี

                  ส = สมชีวิตา หมายถึง การรู้จักใช้คือใช้ทรัพย์ให้สมกับฐานะของเรา ไม่ฟุ่มเฟือยเกินไป

 


                  มีวิธีการดำเนินกิจกรรมที่ทำให้ เด็กๆ นําหลักธรรมไปใช้ได้อย่างไร 
                  อย่างเช่นในบางโรงเรียนจะนำกิจกรรมการทำขนมของท้องถิ่นนั้นๆ มาให้เด็กหัดทำโดยทางลีจะจัดวิทยากรไปอบรมให้ เด็กๆ จะนำเงินมาลงทุนกันหุ้นละ ๑๐ บาท พอขายได้ ก็นำเงินมาแบ่งกันตามหุ้น เด็กจะได้เรียนรู้หลายๆ อย่าง ตั้งแต่เขาต้องขยันนะ นอกจากการเรียนแล้วยังมีกิจกรรมที่ทำให้เขาขยันขึ้นมา รู้จักหาทรัพย์ไม่เกียจคร้าน ด้วยอาชีพที่สุจริต พอได้เงินมาก็จะเก็บไว้ใช้หรือนำไปลงทุนต่อ ซึ่งแล้วแต่การจัดสรรของแต่ละโรงเรียน


                  ต่อมาเขายังรู้จักการทำงานเป็นทีมรู้จักคบมิตรที่ดีเพราะเพื่อนๆ จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ยาเสพติด เพราะเราดึงความสนใจเด็กเหล่านั้นให้สนใจกิจกรรมนี้ แล้วพวกเขาจะรู้จักการหาเงินตั้งแต่เด็กๆ และสุดท้ายคือรู้จักใช้ เขาจะเรียนรู้การบริหารเงินของเขาเอง โดยการอบรม ของครูอาจารย์ แล้วที่สำคัญจากการทำรายการตรงนี้แพร่ภาพออกไป เด็กๆ ที่ดูทางโทรทัศน์จะเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบของเด็กในวัยเดียวกันเกิดขึ้น ว่าเขาก็น่าจะทำได้นะ ซึ่งสิ่งนี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเด็กเอง แล้วยังเป็นการหาช่องทางการตลาด ในการกระจายสินค้าท้องถิ่นให้กับเด็กอีกด้วย

 


                       ประสบปัญหาอะไรบ้างไหม แล้วแก้ไขอย่างไร
                 ใหม่ๆ ตอนทำรายการ  เนื่องจากลีประสบการณ์ทางด้านการตลาดยังน้อยอยู่ ในเรื่องของสปอนเซอร์ก็มีปัญหาค่ะ ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าเครียดมาก แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีค่ะ ที่มีค่าสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง ทำให้ลีเองมีกำลังใจมาก ลีได้คิดว่า ในเมื่อเรามีต้นแบบ มีครูบาอาจารย์ที่ดีขนาดนี้ ทําไมเราต้องกลัวอุปสรรคด้วย ซึ่งลีเองก็เชื่อมั่นในบุญแล้วก็ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาต่อเนื่องไม่ขาด แม้เราจะเจออุปสรรค บุญก็ช่วยเราจริงๆ แล้วลีเองก็มีช่องทางที่ทำให้เราแก้ปัญหาตรงนั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ 

 


                   มีหลักในการดำเนินชีวิตส่วนตัวอย่างไร
                  ลีเข้าวัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ สิ่งที่ใช้มาตลอดคือ เชื่อมั่นในบุญค่ะ คือทำสุดๆ แล้วก็เชื่อมั่น อย่างในเรื่องของการคาดหวัง การออกแบบชีวิตของตัวเอง ว่าจะต้องเดินทางนี้นะเป็นแบบนั้นนะ แต่บางทีในความเป็นจริงมันไม่ใช่ ซึ่งเหตุการณ์ที่ไม่ใช่ตอนนั้น มันอาจจะพาเราไปเจอในสิ่งที่ดีกว่าที่เราคาดหวังไว้ก็ได้ เพราะบุญได้จัดสรรให้เรา ขอเพียงเราอย่าทิ้งการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาให้สม่ำเสมอ แล้วทำใจใสๆ เพราะการที่ทำให้ใจใส มันเป็นผังของเรา เมื่อใจใสจะดึงดูดสิ่งที่ดีๆ เข้ามาในชีวิตของเราเองค่ะ

 

        

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

บทความอยู่ในบุญทั้งหมด อยู่ในบุญ ฉบับที่ ๖ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๖

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล