วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ หยุดตั้งแต่เบื้องต้น... กระทั่งเป็นพระอรหันต์

CV_4604%20_%2051.jpg

หยุดตั้งแต่เบื้องต้น... กระทั่งเป็นพระอรหันต์

                พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ท่านได้สรุปคำสอนธรรมปฏิบัติสั้นๆ ว่า “หยุดเป็นตัวสำเร็จ” สำเร็จตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งเป็นพระอรหันต์

 


                หยุดก็คือ หยุดใจ ใจที่แวบไปแวบมา คิดไปในเรื่องราวต่างๆ ให้ดึงกลับมาหยุดนิ่งๆ อยู่ในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่กลางท้องในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ โดยให้กําหนดเครื่องหมายให้เป็นที่ยึดที่เกาะของใจเรา เป็นเครื่องหมายที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ประดุจเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีตำหนิ ไม่มีขีดข่วนคล้ายขนแมว โตเท่ากับแก้วตาของเรา

 


                กำหนด ก็คือการนึกอย่างเบาๆ สบายๆ ถึงเครื่องหมายที่ใสเป็นเพชรที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ แล้วก็ให้เอาใจตรึกนึกถึงดวงใส หยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ ตรึก คือนึกอย่างเบาๆ สบายๆ ให้ต่อเนื่องกันไป มีสติกับสบายและสม่ำเสมอ พร้อมกับประกอบบริกรรมภาวนาในใจว่า สัมมา อะระหัง สัมมาอะระหัง สัมมา อะระหัง เพื่อประคองใจให้หยุดให้นิ่ง

 


                เราจะภาวนา สัมมา อะระหัง กี่ครั้งก็ได้จนกว่าใจจะหยุดนิ่ง เวลาใจหยุดนิ่งมันจะทิ้งคำภาวนาไปเอง จะมีอาการคล้ายๆ กับว่า เราลืมคําภาวนา สัมมา อะระหัง ไป แต่ว่าใจไม่ฟุ้งไปคิดเรื่องอื่น หรือเกิดความรู้สึกว่า ไม่อยากจะภาวนา สัมมา อะระหัง ต่อไป อยากจะรักษาใจให้หยุดนิ่งอยู่ที่กลางดวงใสๆ อย่างนี้เรื่อยไป ถ้าเกิดอาการหรือความรู้สึกอย่างนี้ เราก็ไม่ต้องย้อนกลับมาภาวนาใหม่ให้รักษาใจให้หยุดนิ่งๆ อยู่ที่กลางดวงใสๆ เรื่อยไป ไม่ช้าใจก็จะหยุดถูกส่วนไปเอง

 


                เวลาถูกส่วนมันก็จะดับวูบตกศูนย์ไปที่ฐานที่ ๖ ซึ่งอยู่ห่างจากฐานที่ ๗ สองนิ้วมือ อยู่ในกลางท้องระดับเดียวกับสะดือของเรา แล้วก็จะไปยกเอาดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์หยาบ ลอยขึ้นมาอยู่ที่ฐานที่ ๗ ภาพที่เราจะเห็นก็คือ จะเห็นเป็นดวงใสๆ กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้วกายสิทธิ์ ใสบริสุทธิ์ประดุจเพชร โตเท่ากับฟองไข่แดงของไก่ ลอยขึ้นมาอยู่ที่ฐานที่ ๗ ซึ่งตอนนี้เราจะเห็นฐานที่ ๗ กับฐานที่ ๖ ได้ชัดเจนเหมือนเราลืมตาเห็น

 

 

CV_4604%20_%2052.jpg


                ธรรมดวงนี้ พระเดชพระคุณหลวงปู่ วั ด ป า ก นํ้ า  ภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ท่านเรียกว่า ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน หรือ ดวงปฐมมรรค เป็นหนทางเบื้องต้นที่จะนำเราไปสู่อายตนนิพพาน หมายถึงว่า เมื่อดวงธรรมดวงนี้ปรากฏเกิดขึ้นมา ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ การเริ่มต้นที่จะเดินทางไปสู่อายตนนิพพานและเส้นทางสายกลางภายใน ซึ่งเป็นเส้นทางของพระอริยเจ้ากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

 


                เมื่อใจหยุดมาในระดับที่เข้าถึงดวงธรรมภายใน หลังจากนั้นไม่ต้องทําอะไรเลย หยุดกับนิ่งอย่างเดียว หยุดในหยุดเรื่อยไปเลย ก็จะเข้าถึงดวงธรรมที่ถัดๆ ไป คือ ดวงศีล ดวงสมาธิ ดวงปัญญา ดวงวิมุตติ ดวงวิมุตติญาณทัสสนะ ๖ ดวง เป็น ๑ ชุด แล้วก็จะเข้าถึงกายภายในไปตามลำดับ เริ่มต้นเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียด ซึ่งมีลักษณะหน้าตาเหมือนกับตัวเราที่เป็นเจ้าของ ท่านหญิงเหมือนกับท่านหญิง ท่านชายเหมือนกับท่านชาย นั่งเจริญสมาธิภาวนา หันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเรา

 


                จากนั้นหยุดในหยุดจากกลางกายมนุษย์ละเอียดต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเข้าถึงกายทิพย์หยาบ กายทิพย์ละเอียด กายรูปพรหมหยาบ กายรูปพรหมละเอียด กายอรูปพรหมหยาบ กายอรูปพรหมละเอียด กายธรรมโคตรภูหยาบ กายธรรมโคตรภูละเอียด กายธรรมพระโสดาบันหยาบ กายธรรมพระโสดาบันละเอียด กายธรรมพระสกิทาคามีหยาบ กายธรรมพระสกิทาคามีละเอียด แล้วก็จะเข้าถึงกายธรรมพระอนาคามีหยาบ กายธรรมพระอนาคามีละเอียด แล้วก็จะเข้าถึงกายธรรมอรหัตหยาบ กายธรรมอรหัตละเอียดทั้งหมด ๑๘ กาย นับจากกายมนุษย์หยาบถึงกายธรรมอรหัตละเอียด เป็นแผนผังของชีวิตที่ติดมาตั้งแต่ปฐมชาติที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์เรื่อยมาจนบัดนี้

 


                กายที่สําคัญก็คือ กายธรรม ตั้งแต่กายธรรมโคตรภูเรื่อยไปเลย กายนี้เป็นกายสําคัญมาก งามไม่มีที่ติ ประกอบไปด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ เป็นกายองค์พระ เกตุดอกบัวตูม เหมือนดอกบัวสัตตบงกชเล็กๆ ตั้งอยู่บนจอมกระหม่อมบนพระเศียรซึ่งมีเส้นพระศกหรือเส้นผมขดเวียนขวาเป็นทักษิณาวัตรคล้ายก้นหอย แต่ว่าแบนราบติดกับพระเศียรของท่าน กายนี้ใสบริสุทธิ์เป็นแก้วเป็นเพชรหรือใสยิ่งกว่าเพชรเป็นกายแห่งการตรัสรู้ธรรมของตัวเรา และของมวลมนุษยชาติทั้งหลาย เพราะว่ากายนี้มีธรรมจักขุมีญาณทัสสนะ

 


                ธรรมจักขุก็คือ มีดวงตาที่ใสบริสุทธิ์เห็นได้รอบตัวทั้งซ้ายขวา หน้าหลัง ล่างบนเห็นได้ในเวลาเดียวกัน ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต เห็นไปถึงไหนก็รู้แจ้งไปถึงนั่น ความรู้แจ้งที่เกิดจากการเห็นแจ้งนี่แหละท่านเรียกว่าตรัสรู้ ที่เห็นได้ก็เพราะว่า มีแสงสว่างเกิดขึ้นเป็นแสงสว่างแห่งความบริสุทธิ์ หมดจดจากสรรพกิเลสทั้งหลาย ที่แสงสว่างนี้เกิดขึ้นเพราะว่า ใจหยุด พอใจหยุดก็จะหลุดพ้นจากสิ่งที่เคยติดเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ อะไรต่างๆ เหล่านั้น เป็นต้น หลุดมาตามลำดับ หลุดตั้งแต่กายมนุษย์หยาบ-ละเอียด กายทิพย์หยาบ-ละเอียด กายรูปพรหมหยาบ-ละเอียด กายอรูปพรหมหยาบ-ละเอียด กายธรรมโคตรภูหยาบ-ละเอียด เรื่อยมาเลย กระทั่งกายสุดท้ายคือกายธรรมอรหัต

 

CV_4604%20_%2053.jpg


                กายธรรม เป็นกายผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว เป็นกายที่ออกนอกภพสาม จึงพ้นจากกฎของไตรลักษณ์ แล้วก็พ้นจากกฎแห่งกรรม กายที่อยู่ในภพสามเท่านั้น จึงจะตกอยู่ในกฎแห่งกรรมและกฎของไตรลักษณ์ มีความไม่เที่ยงเป็นทุกข์ แล้วก็เป็นอนัตตากายนี้มีลักษณะตรงกันข้ามกับไตรลักษณ์ คือเป็นนิจจัง เป็นสุขัง เป็นอัตตา ที่ว่าเป็นอัตตาก็เพราะว่าเป็นอิสระจากการบังคับบัญชาของกิเลสอาสวะพญามารทั้งหลาย ใจจึงขยายได้เต็มที่ เป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง ใครจะมาบังคับบัญชาไม่ได้เพราะไม่ได้เป็นทาสของใคร เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความสุข ความบริสุทธิ์ทั้งหลายและเป็นความสุขที่เป็นนิรันดร นี่แหละเป็นนิจจัง เป็นสุขัง เป็นอัตตา พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านปฏิบัติเห็นอย่างนี้

 


                เราจะรู้เรื่องราวความจริงของชีวิต ก็ต่อเมื่อเข้าถึงธรรมกายนี่แหละ ถ้าไม่ถึงธรรมกายแล้วความรู้จริงก็ยังไม่เกิดขึ้น ความสงสัยก็ยังมีอยู่ แต่เมื่อเข้าถึงธรรมกายแล้ว ความสงสัยอันใดที่มีอยู่ก็ดับไป ความไม่รู้ในใจก็หมดไป เปลี่ยนจากไม่รู้ก็มาเป็นผู้รู้ กายธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึกอย่างสำคัญที่สุดของตัวเราและมวลมนุษยชาติทั้งหลาย

 

 


                เมื่อเข้าถึงกายธรรมแล้วความสว่างไสวต่างๆ วิชชาต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปุพเพนิวาสานุสติญาณ จุตูปปาตญาณเป็นต้น แล้วการทําอาสวกิเลสให้หมดสิ้นไป ก็อาศัยกายธรรมนี่แหละ เพราะฉะนั้นกายธรรมนี้ จึงเป็นตัวพระรัตนตรัย เป็นเนื้อหนังของพระรัตนตรัย เป็นตัวพระศาสนาทีเดียว

 


                ดังนั้นเราจะต้องทําความเพียร ปฏิบัติให้เข้าถึงกายธรรมนี้ให้ได้ ถ้ายังเข้าถึงกายธรรมไม่ได้ชีวิตยังไม่มีหลัก ยังง่อนแง่นยังคลอนแคลนกันอยู่ จะถึงได้ก็ต้องถอดกายออกเป็นชั้นๆ จะถอดได้ก็ต้องหยุดนั่นแหละเป็นหลัก ดังที่ พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านได้สรุปสั้นๆ ว่า “หยุดเป็นตัวสำเร็จ” สำเร็จตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งเป็นพระอรหันต์

 

วันอาทิตย์ที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

บทความอยู่ในบุญทั้งหมด อยู่ในบุญ ฉบับที่ ๖ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๖

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล